ตอนที่ 10 หัวใจโดนทิ่มแทง
จิรภาสรีบเดินออกมา
ตอนที่รถกำลังจะออกตัว เขาก็เงยหน้าไปมองเงา
ตรงหน้าต่าง นั้นคือคนที่เขาคิดถึงมากๆ ตอนนี้แม้ว่าจะใกล้กันมากแต่กลับกลายเป็นคน
แปลกหน้าไม่พูดจากัน
หลายปีมานี้ เขาคิดว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกที่เขา ทุ่มเทและพยายาม เพียงแค่มีกะจิตกะใจก็สามารถรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับในปีนั้น แต่เธอกลับไม่สนใจเลยแม้แต่ น้อย แม้ว่าจะถามอะไรไปเธอก็กลับหลีกเลี่ยงและไม่ สนใจใยดีอะไรเลย
จิรภาสถอยหายใจเฮือกใหญ่
เขาไม่เข้าใจว่าหลายปีมานี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง ทําไมเธอถึงไปอยู่กับชนุตต์ได้
หรือจริงๆแล้วเธอไม่รู้ว่าชนุตต์เป็นคนสำมะเลเทเมา ขนาดไหน
จริงๆแล้วเธอเคยรักเขาไหม ทำไมเธอถึงลืมได้ ขนาดนี้
สามปีที่ผ่านมา เขาคิดถึงเธอตลอดเวลา
เขาคุ้นชินกับการที่มีเธออยู่ด้วย เขาลืมเธอไม่ลง ถ้าตอนแรกเขาทิ้งทุกอย่างให้อยู่กับเธอ เธอก็คงไม่ เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้
จิรภาสนั่งเอนตัวหลับตาลงที่ที่นั่งด้านหลัง เขารู้สึก หมดแรงมากจนทำให้เขารู้สึกหมดอาลัยตายอยาก สิ่งของต่างดูเหมือนจะ ค่อยๆห่างจากเขาออกไป
อาการแบบนี้คล้ายกับความรู้สึกที่คุ้นเคย อดไม่ ได้ที่จะทำให้เขานึกถึงเย็นวันนั้นเมื่อสามปีก่อน
วันนั้นหลังจากที่เขาเลิกงาน ด้วยความเคยชิน เขา จะกลับบ้านมากินข้าวเย็นเพราะมีจรีภรณ์เป็นคนทํา กับข้าวรออยู่
ตอนที่ผลักประตูคฤหาสน์เข้าไป ในนั้นเงียบมาก ไม่มีใครเลยสักคน เขาจึงคิดว่าเธอไปซื้อกับข้าว ทุกๆ วันเวลานี้ถ้าเธอไม่อยู่ บ้าน เธอก็จะไปซื้อกับข้าว
เขาจึงไปนั่งอยู่เงียบๆที่ห้องหนังสือ คิดเรื่อง สถานการณ์ช่วงนี้ของบริษัท
พอประมาณสามทุ่ม เขาเคลียร์ทุกอย่างเสร็จ กลับ ไม่มีใครมาเรียกเขาไปกินข้าว
เขาเดินออกไปด้วยความสงสัย มองหาทุกที่ในห้อง ทั้งข้างล่างและข้างบนตึกก็ไม่มีใครเลยสักคน เขารู้สึก หงุดหงิดและล้วง โทรศัพท์โทรหาเธอ
แต่เธอกลับปิดเครื่อง
สีหน้าเขาเริ่มโกรธตอนวางโทรศัพท์ เขารู้สึกถึง ลางที่ไม่ดี
มองออกไปด้านนอกทั้งหิมะและฝนก็ตกพร้อมกัน เขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเมื่อวาน เขากับผู้หญิงอื่นอยู่ ด้วยกันและไล่เธอ ออกจากบ้าน
แต่เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกล้าออกไปจริงๆ
จิรภาสรีบเดินเข้าห้องของเขา เปิดตู้เสื้อผ้า กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับและสิ่งของต่างๆที่เขาซื้อ ให้เธอที่อยู่ด้านใน ทุกอย่างต่างถูกจัดวางเรียบร้อยดี
แม้แต่แหวนแต่งงานก็ยังวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ยังจำตอนที่พวกเขาแต่งงานกันได้ เธอพูดคำ ปฏิญาณตนข้างหูว่าเธอจะอยู่ด้วยกันตลอดไปและไม่ ทิ้งกัน แต่คนที่พูดกลับเพิ่ง ทิ้งเขาไป
จิรภาสรู้สึกเป็นบ้า ทำตัวไม่ถูกและโมโห เขาระบาย อารมณ์ออกมาด้วยการปัดข้าวของของเธอลงมาที่พื้น ตกลงแตกละเอียด เหมือนกับความรักของพวกเขาที่ แตกสลาย
เป็นตามที่เขาพูดว่าออกจากบ้านตัวเปล่า เธอก็ออก จากบ้านตัวเปล่าจริงๆ ไม่เอาอะไรไปเลย เธอจะบ้าไป แล้วหรือไง
จริภาสนั่งลงกับพื้นอย่างเศร้าเสียใจ เขาขยี้ผมตัว เองอย่างบ้าคลั่ง จิตใจก็เหม่อลอยจ้องมองแหวนและ ร้องไห้อยู่ทั้งคืน
และเขาก็รับรู้ว่าเขาได้เลิกกับจรีภรณ์จริงๆแล้ว ความรู้สึกที่หยุดหายใจเหมือนกับว่าตายแบบหมื่นธนู ทะลวงเข้ามาในหัวใจ
ไม่มีเธออยู่ในชีวิตอีกต่อไป เขากินไม่ได้นอนไม่ หลับอยู่ในคฤหาสน์สามวันสามคืน บริษัทไม่มีใครคอย ควบคุมดูแลจึงทำให้ไม่ สามารถดำเนินการได้ และนั้น จะเป็นอย่างไร
เธอไม่ได้อยู่ข้างๆเขาอีกแล้ว ความพยายามทุก อย่างของเขาจะมีความหมายอะไร
หลังจากนั้น แม่ของเขาก็มา แม่ของเขาเป็นคุณนาย
ที่เด็ดขาดและยึดมั่นในความคิดของตน
ตอนที่เขาบอกแม่ของเขา เขาก็รู้สึกรับไม่ได้ที่เธอ ไม่ได้อยู่ข้างกายเขา รับไม่ได้ที่จะไม่มีเธออยู่ในชีวิต แม่ของเขาหยิบมีดขึ้น มาที่คอของตัวเอง
และถามเขาว่าระหว่างผู้หญิงกับแม่จะเลือกใคร ความไม่สมเหตุสมผลของแม่เขาเป็นเหมือนการบังคับ เขาให้เลือกในเวลานั้น
เขามองเห็นใบหน้าของแม่แล้วนึกถึงความเชื่อมั่นที่ แม่เลี้ยงดูเขามาเพียงลำพัง เขาจึงประนีประนอม
เขารู้ว่าแม่ไม่ชอบจรีภรณ์ แม่เขาคัดค้านอย่างเต็ม ตั้งแต่ตอนที่พวกเขามาอยู่ด้วยกัน ไม่พอใจที่พื้นฐาน ทางครอบครัวของเธอ ไม่ดี ไม่พอใจที่เธอไม่สามารถ เข้ากับคนแก่ได้ ไม่พอใจที่เธอให้กำเนิดบุตรไม่ได้ ทุกๆ อย่างที่เป็นเธอแม่เขาไม่ชอบทั้งหมด และมักจะพูด ถากถางเธอ
เขาเองก็รู้ รู้ทั้งหมด เขาจึงพยายามที่จะปฏิบัติให้ดี เป็นเท่าตัวและพยายามชดเชยให้มากที่สุด
แต่ทำไมเธอถึงทนไม่ได้ ถ้าเธออดทนต่อเขาอีกสัก หน่อย แม่ของเขาก็จะไม่บังคับเขาและจะไม่หลอกให้ เขาไปนอนกับผู้หญิง คนอื่น
เขาเกลียดมาก เกลียดมากๆ
แต่ถึงกระนั้นแล้ว ในท้ายที่สุดพวกเขาก็หย่าร้างกัน
เย็นวันนั้นตอนที่เธอเดินออกไป ในใจจิรภาสเหมือน โดนมีดทิ่มแทงและเลือดไหลออกมาเป็นสาย
ในขณะที่กำลังคิด โทรศัพท์ดังขึ้น จิรภาสก็ล้วง โทรศัพท์ออกมาดูและพบว่าชญาภาโทรมา
“ฮัลโหล จิรภาส” พอรับโทรศัพท์ก็เป็นเสียงอ้อนแอ้ นของชญาภา
“พูดสิ” จิรภาสอดไม่ได้ที่จะถามกลับอย่างโมโห ราวกับว่าถูกรบกวนทำให้ไม่พอใจ
เสียงตอบอันเยือกเย็นของจิรภาสทำให้เธอกลัว เธอสงสัยอยู่สักพักและพูดด้วยความกลัวว่า ” พรุ่งนี้ พวกเรามาคุยเรื่อง แต่งงานกันเถอะนะคะ”
“โอเค” เขาตอบอย่างง่ายและชัดเจนและไร้อารมณ์
ชญาภาหยิบโทรศัพท์มาแบบงงๆ จริงๆเขามีเรื่องจะ ถามเยอะกว่านี้แต่ว่าถูกวางสายไปเสียก่อน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ