ตอนที่ 3
ร่างของเธอชนเข้ากลับแผงหน้าอก ด้วยสันของรองเท้าที่สูง ทำให้เธอสะดุด ป้องณวัฒน์รับร่างของเธอเอาไว้ทันที ตอนนี้ใน ดาเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสียแล้ว
เธอยกแขนขึ้นกัน แล้วผลักร่างของชายหนุ่มออกไปให้ห่าง จากตัวอย่างแรง
พลัก… ก่อนจะตามไปด้วยฝ่ามืออรหันต์
เผยะเยียะเยียะ
ดารินฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของป้องณวัฒน์
ใบหน้าที่ถูกกระทบด้วยฝ่ามือแดงเงยขึ้นมาทันที ป้องณวัฒน์ ถึงกับยกมือของตัวเองขึ้นมากุมหน้า
“ฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน จะแต่งตัวยังไง คุณก็ไม่มีสิทธิ์มา วิจารณ์ หรือถามแบบเสียมารยาทแบบนี้” เธอหน้าแดงก่ำด้วย ความโกรธซึ่งทุกสิ่งมันสุมรวมก่อตัวอยู่ก่อนแล้ว
“อืม…” ชายหนุ่มทำเสียง ยกมือขึ้นลูบปลายคางของตัวเอง
ถามว่าเขาโกรธไหม เขาคิดว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของรินดา ดีนะ หญิงสาวที่ถูกพรากพรหมจรรย์ แล้วเขาก็ทิ้งเธอทันที ไม่ เคยกลับไปพบเจออีกเลย
“มีอะไรต้องให้รายละเอียดฉันอีกไหมคะ” เธอถามเหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เพิ่งใช้ฝ่ามือตบหน้าเขาไปเมื่อกี้นี้ เมื่อเขา ไม่ตอบเธอก็สะบัดตัวหันหลังกลับไปทำงานเหมือนเดิม
สวบ… อ้อมแขนใหญ่สวมกอดเข้าไปที่ด้านหลังของเธอทันที ร่งรัดร่างของเธอให้เข้ามาหาแนบชิดกาย ก่อนจะจรดปลายจมูก ลงไปบนซอกคอขาวเนียน
“…” เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ หันหน้ามามอง ใบหน้าคมเข้มของป้องณวัฒน์ที่อยู่ใกล้ๆ
จุ๊บ… เขาจุ๊บปากของเธอทันที
“ไอ้คนเลว” เธอด่าทอเขาออกไปทันที หมดความอดทนที่จะ มาปั้นสีหน้าใส่ว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
รินดากระทืบส้นสูงลงไปบนหลังเท้าของเขาทันที
ปีก ปีก ปีก…ผลัวะ
“โอ๊ย..” ป้องณวัฒน์ร้องลั่น
รินดากระทุ้งศอก หันหน้าเข้าหาแล้วจับหัวไหล่ของเขา ประเคนเข่า และฟันสันมือของตัวเธอใส่เข้าไปที่ตรงซอกคอของ ป้องณวัฒน์ดังผลัวะ
“อะ… อึก… อุ… โอะ… โอ๊ย… ดวงดาวขึ้นมาเต็มท้องฟ้า
“อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก”
เธอผลักร่างของเขาร่วงไปกองที่พื้น ใช้มือตบเข้าหากัน ก่อนจะชี้นิ้วใส่หน้าเขาแบบอารมณ์เสีย
ป้องณวัฒน์ตัวงอเป็นกุ้งกองไปอยู่ที่พื้น ร่างกำยำที่เต็มไป
ด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หมดสภาพอยู่ตรงนั้น เขาไม่ทันตั้งตัว
ต่างหากรินดาถึงได้เล่นงานเขาได้ง่ายๆ “โอ๊ย… ริน…” เขาเรียกชื่อเธอตามหลัง เห็นร่างของหญิงสาว
ไวๆ หายไปในอีกห้องหนึ่ง
เธอไม่สนใจไยดี เดินอ้าวๆ ออกไปจากห้องอย่างร้อนระอุ ในอารมณ์ สันดาน… เธอก่นด่าเขาอยู่ในใจ
บอสนะบอส ลาออกดีไหมงานนี้ หากต้องมาเจอะเจอกับไอ้ ผู้ชายสันดานเลวๆ คนนี้อีก เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด และ หัวใจที่เจ็บปวดยากที่จะวัดกันได้
“อ้ย… หมัดหนักเป็นบ้า” เขาบ่นอุบ
“ไม่มีอะไรแล้วนะคะ” รินดาพูดขึ้นมาทันทีที่ป้องณวัฒน์เดินตัว งอออกมาจากห้องนั้น เธอทำท่าจะหมุนตัวกลับ
“เดี๋ยว…” เขายกมือขึ้นห้าม รินดาหันมามองนัยน์ตาไม่เป็น มิตรเอาเสียเลย เธอพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ยิ่งเห็นหน้าของ ป้องณวัฒน์ก็ยิ่งเกลียดเขาเข้าไส้
“ยังไปไม่ได้ ยังมีอีกเรื่องที่คุณต้องทำต่อ คือผมจะให้ ออกแบบห้องอาหารใหม่ของที่นี่ด้วย”
“หือ…ไม่เห็นมีในข้อตกลง และอีกอย่างฉันขอบอกคุณนะคะ ฉันไม่ได้รับคำสั่งอะไรใดๆ จากบอสของฉัน ฉันก็หมดหน้าที่เพียงเท่านี้ รบกวนคุณติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ เอา เองค่ะ โอเคนะ”
รินดาทำท่าไม่ยี่หระหมุนตัวกลับในทันที
“ผมคุยกับคุณบอยแล้ว เขาบอกให้คุณจัดการได้เลย เริ่มงาน ทันที” เขาตะโกนตามหลัง
รินดาหันหน้ามามองเขาแบบช้าๆ
กริ๊ง… มือถือของเธอดังขึ้น
ป้องณวัฒน์ยิ้มออกมาได้ เธอหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะกดรับสาย
“ค่ะบอส”
“ริน อยู่ต่อนะ ทำงานต่อเลย พี่ไม่อยากจะเชื่อว่า พี่ส่งคนไป ทำงานไม่ผิดคนจริงๆ คุณป้องณวัฒน์เขาจะให้เราทำโปรเจกต์ ของเขาทุกโครงการเลยนะริน แกแน่มากๆ เอาแบบนี้ รินอยู่ต่อ เลยนะ ทำงานให้กับพี่อีกสองสามวัน แล้วพอไอ้ต่อกลับมาที่จะ รีบส่งมันไปช่วยอีกแรง
“หา…!” เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ สายตามองไปยัง ชายหนุ่มที่ทำหน้าแป้นอยู่ตรงหน้า
“ไม่ต้องมาหามาเหอยายริน ตกลงตามนี้นะ งานนี้พี่มีโบนัส และรางวัลตอบแทนก็แล้วกัน พี่จะเพิ่มวันหยุดให้แกอีก แต่แก ต้องทํางานนี้ก่อน เอาเงินก่อนสิวะ อย่านะ… ห้ามเถียง ห้ามพูด
โอเค… ตกลงตามนี้ แค่นี้นะ เดี๋ยวรายละเอียดต่างๆ ที่จะส่งเข้าไปในอีเมลของแกแล้วกัน ขอเวลาให้พี่ตั้งสติอีกประมาณ หนึ่งชั่วโมงนะ แค่นี้ บายๆ”
พี่บอยรีบกดวางสายไปในทันที
เธอจ้องมองคนตรงหน้าที่ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงเหมือนผู้ ชนะก็ไม่ปานแล้วยิ่งหมั่นไส้
เห็นไหมผมบอกคุณแล้ว คุณรินดา เราสองคนมาคุยกันต่อได้
เลยนะครับ” เขาทำท่าจะเข้าไปนั่งที่โซฟารับแขก ในห้องนั้น
“…” เธอทำเสียงขึ้นจมูก ทำหน้าเบื่อหน่ายแบบสุดๆ เจ้านาย เล่นมัดมือชกกับเธอแบบนี้เลยเหรอ
“ไปที่ออฟฟิศของคุณค่ะ ฉันอึดอัดที่ต้องอยู่กับคุณโดยลำพัง อีกอย่างมันรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก ในห้องนี้อากาศมันก็ไม่ค่อย บริสุทธิ์ซะด้วย” เธอพูดจบหมุนตัวก้าวขาไปยังประตูทันที ป้อง วัฒน์มองตามแบบขัดใจ เขาจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ดี
ในหัวใจของรินดามันบอกว่าเจ็บ อีกใจหนึ่งก็เต้นตึกๆ เหมือน วันแรกที่ได้เจอกับเขา
เจ็บแล้วต้องจ๋า’ เธอกับตัวเอง ตอนนี้อยากจะกรี๊ดมากๆ ทำไมโลกมันช่างกลมแบบนี้ ทำไมเธอไม่เช็กเสียก่อนว่าที่นี่มัน เป็นของใคร ทั้งๆ ที่รู้สึกทะแม่งๆ ตั้งแต่ได้ยินชื่อโครงการนี้แล้ว
‘บอสเนี่ยไม่รู้อะไรเลยจริงๆ จะงักไปไหน เฮ้อ… แล้วเนี่ยมัน เรื่องอะไรกัน ทำไมฉันต้องกลับมาเจอไอ้สารเลวป้องคนนี้อีก สวรรค์ทำไมต้องแกล้งลูกแบบนี้ด้วย เจ็บมาแล้วเจ็ดปีเนี่ยยังไม่พอใช่ไหมคะ หรือว่าต้องให้ฆ่ามันให้ตายไปเลย เธอเดินหน้า ตั้ง โมโหขึ้นมาเต็มอารมณ์ หญิงสาวสกัดกั้นความรู้สึกไม่ดี ทั้งหมดเอาไว้
ป้องณวัฒน์แทบถลาตามเธอลงมาในทันที เขาแค่อยากจะเอ่ย ปากขอโทษเธอสักคำ ยังจดจำใบหน้าของเธอตอนที่เขาไปส่งที่ บ้านในคืนนั้น รินดามีน้ำตาคลอๆ เธอเสียความบริสุทธิ์ เขาเป็น คนฉวยโอกาส ในตอนนั้นยังคิดว่าจะสานสัมพันธ์ต่อ แต่เรื่องไม่ คาดฝันก็เกิดขึ้นมาในชีวิตของเขาเสียก่อน เพียงตอนนี้ มันคง ไม่ใช่โอกาสที่ดีแน่ๆ ที่เขาจะเอ่ยคำขอโทษที่เก็บมาตลอดเจ็ดปี นั้น
พนักงานขับรถกอล์ฟนั่งประจำที่นั่งคนขับรออยู่แล้ว รินดาก้าว ขึ้นไปนั่งเบาะด้านหลัง
ป้องณวัฒน์วิ่งลงมาและขึ้นไปนั่งข้างๆ เธอ หญิงสาวขยับตัว
ให้ออกห่างจากเขาอย่างรังเกียจ
“กลับออฟฟิศเลย” เขาออกคำสั่ง
ชายหนุ่มหันหน้ามามองใบหน้าของรินดาที่เปลี่ยนไปใกล้ๆ เธอดูสวยขึ้น สะดุดตามากๆ และน่ามองขึ้น พอหันมาสบตา เธอ ก็หันหน้าหันสีข้างให้ทันที
“ชิ… มีเสียงขึ้นจมูกและกิริยารังเกียจออกมาอย่างชัดเจน
ติ้งๆ มีเสียงสัญญาณว่าข้อความเข้า รินดาหยิบมันออกมาดู และเผลอกดฟังข้อความเสียงที่ส่งมา
“แม่ฮับ คิดถึง” มีเสียงเด็กชายดังขึ้นทันทีที่เธอกดเข้าไปฟัง เสียงเด็กชาย งอแงเจ้าจอดดังออกมา
รินดา คอแข็งขึ้นมาทันที ในใจเจ็บวูบ คำว่า…แม่ฮับ… ทำให้คนที่ได้ยินหยิ่ง
“นแต่งงานแล้วเหรอ มีลูกแล้วเหรอ กี่ขวบ พูดได้แล้วด้วย
ป้องณวัฒน์สงสัย สังเกตเห็นรินดาพิมพ์ข้อความตอบกลับ ใช้ ตัวเองบังไม่ให้เขาเห็นว่าเธอเขียนอะไร
เมื่อเจ็ดปีก่อน
เสียงโอ้กอ้ากดังมาจากห้องน้ำของห้างดัง
ริน แกเป็นอะไร อายเดินเข้ามาลูบหลังเพื่อน เพิ่งไปกินข้าว เที่ยงมาด้วยกันแท้ๆ
“ไม่รู้เหมือนกันแก ฉันเวียนหัวจัง คลื่นไส้มาก”
“กินอะไรผิดสําแดงมาหรือเปล่า ก็กินเหมือนกันนี่นาเมื่อกี้ หน้าแกซีดๆ แกปวดท้อง ปวดหัว ปวดตัว แล้วมีปวดบิดๆ มวนๆ ในท้องมั่งไหมแก” อายแสดงออกด้วยความเป็นห่วงมากมาย
“….ไม่ปวดตรงไหนทั้งนั้นแหละ โอ๊ะ… แค่เวียนหัว คลื่นไส้อะ แก เอาะ…”
รินดาวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งโก่งคออ้วกอย่างเอาเป็น เอาตาย อายเดินเข้าไปลูบหลังให้อย่างเดียว มองใบหน้า ซีดเซียวของเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง “อาย…ฉันไม่ตรวจได้ไหม”
“แกได้ไง ไม่ตรวจไม่ได้ ฉันเป็นห่วง ดูสิ…หน้าของแกไม่มีสี เลือดเลยนะ ไม่เอาๆ แม่แกก็ไม่อยู่บ้านด้วย
แต่งขวัญเอยไปถึงแม่ของรินดาที่ย้ายไปอยู่เชียงใหม่กับพี่ ชายของเธอเป็นเดือนแล้ว เพราะพี่สะใภ้คลอดลูก
“คืนนี้…กว่าฉันจะเลิกงานก็ตีสอง แกจะอยู่คนเดียวอย่างน้อย ให้ฉันรู้ว่าแกเป็นอะไร ไหนๆ ก็มาแล้ว อย่าดื้อน่า ไปๆ พยาบาล เรียกชื่อแกแล้ว” อายหนุนหลังเพื่อนให้เข้าห้องตรวจ
รินดายกมือขึ้นกุมที่หน้าท้อง น้ำตาเริ่มไหล
‘อย่านะ คงไม่นะ’ เธอพูดกับตัวเอง
“เชิญนั่งก่อนค่ะ คุณรินดา” พยาบาลเลื่อนเก้าอี้ให้เธอค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่ง ยกมือไหว้คุณหมอที่นั่งหน้าขรึมอยู่ตรงหน้า
“ตามอาการที่แจ้งในนี้ เดี๋ยวหมอว่า…คุณต้องตรวจปัสสาวะ นะครับเพื่อความมั่นใจ ไม่รู้ว่าตั้งแต่แต่งงานมาได้คุมกำเนิด แบบไหน หรือว่าตั้งใจจะมีบุตรเลยครับ” คุณหมอหนุ่มถามไม่ มองหน้า
“เออ… ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันไหนครับ…” และคำถาม อีกมากมายที่พรั่งพรูออกมา
รินดาตอบออกไปตามคำถามตามความเป็นจริง ในหัวมึนๆงงๆ ไปหมด เธอไม่เถียงหมอสักคำ หลังจากที่ผลตรวจปัสสาวะ ออกมา มันเป็นเครื่องยืนยันว่า ในตาตั้งครรภ์จริงๆ
“หมอว่าไง” แค่ได้ยินคำถามของเพื่อน ตื่นตาก็น้ำตาไหล
“อาย..” หญิงสาวจับมือของเพื่อนรักเอาไว้แน่น แต่งขวัญเห็น รินดาตัวสั่นก็สวมกอดเพื่อนเอาไว้ทั้งตัว
“เป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่าแก” เธอดันตัวเพื่อนออก
รินดาถอนหายใจออกมา มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่มันเป็น เรื่องที่หนักหนามากๆ ต่างหาก หญิงสาวยกมือขึ้นลูบท้องแบบ ตั้งใจ ต่อไปเธอก็ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วสิ เธอกำลังจะมีลูก
“รับยาแล้วกลับบ้านนะ ฉันไปส่งแกเอง เดี๋ยวถึงบ้านแล้ว ถ้า อยากจะเล่าก็เล่า ถ้าแกไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะ” ที่แต่งขวัญพูด แบบนั้น เพราะเธอเองเริ่มมั่นใจว่า เพื่อนรักอาจจะท้อง เพราะ เธอเคยเห็นพี่สาวที่แต่งงานไปแล้วก็เป็นแบบนี้
“ริน…แกนั่งรอนะ เดี๋ยวฉันจัดการทุกอย่างเอง” แต่งขวัญเดิน ไปจ่ายเงินและรับยาที่ช่องจ่ายยา แค่สรรพคุณและวิธีรับ ประทานที่เจ้าหน้าที่ชี้แจงเธอก็ถึงบางอ้อ
“เฮ้อ…ยายริน ฉันจะช่วยแกได้ยังไง” อายก็เริ่มคิดมากและ หนักใจไปกับเพื่อนด้วย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ