บทที่ 6 ลืมตาตื่น
หลังจากนั้นไฟในห้องนอนของซูวอินก็ดับลง พร้อมกับ ปิ่นปักผมที่เขาเอาไว้แนบหมอนในทุกคืน
ย้อนกลับไปหนึ่งปีก่อน ภายใต้สายลมที่พัดรุนแรงเขา และช่างอินวิ่งหนีกลุ่มอันธพาลมาหยุดพักที่ใต้ต้นไม้ ขนาดใหญ่ ทว่าเพียงพริบตาเดียวกลุ่มคนเหล่านั้น ก็พา กันห้อมล้อมทั้งสองไว้ไร้หนทางหนี เสียงฟ้าร้องและเม็ด ฝนโปรยปรายลงมาท่ามกลางกลุ่มอันธพาลที่ล้อมไว้
“ไอ้พวกพ่อค้าเศรษฐีพวกนี้ ต้องฆ่ามันให้ตาย” ว่าแล้ว พวกนั้นก็กรูกันเข้ามาทำร้ายสองพี่น้อง
“ชางอิน ข้าจะหลอกล่อพวกมันด้วยอัดจำนวนหนึ่งที่เรา มี เจ้าใช้โอกาสนั้นหนีออกไปให้ได้”
“ไม่! ข้าจักไม่ทิ้งท่านเด็ดขาด”
“เช่นนั้นเราจักตายกันหมด ท่านพ่อท่านแม่จักอยู่ อย่างไร” ทั้งสองใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดต่อสู้ พลันหันมาก ระซิบพูดกันเมื่อได้จังหวะ
“ข้าจักไม่ทิ้งท่าน” ชางอินยืนยัน ก่อนที่ชวี่อินจะเริ่มหมดแรง
“หากเจ้าไม่ไปล่ะก็ เราจะตายกันหมด และหากเจ้าไม่ เชื่อฟังข้า ก็อย่ามานับข้าเป็นพี่ชายของเจ้าอีก ไม่ว่า ภพไหนก็ตาม” ว่าแล้วชวี่อินก็หันไปต่อสู้ รับแรงพวก อันธพาลแทนซางอิน เมื่อดูท่าจะรับแรงต่อไปอีกไม่ไหว ชวี่อินจึงใช้จังหวะต่อรองกับกลุ่มคนเหล่านั้น
“ข้ามีอัดจำนวนหนึ่ง หากพวกเจ้าได้ไป พวกเจ้าก็จะมีกิน มีใช่ไปได้อีกหลายเดือน และข้ารับรองว่าจักไม่เอาเรื่อง พวกเจ้าในวันนี้
ทั้งหมดหยุดนิ่งในทันที คนพวกนั้นต่างมองหน้ากันเลื่ กลั่ก จังหวะนี้ชวี่อินจึงส่งสัญญาณให้ชางอินหนีออกมา ก่อนที่จะมีหนึ่งในนั้นเตรียมวิ่งตามมางอินออกมา
“ปล่อยน้องชายข้าไป หาไม่แล้วพวกเจ้าจะไม่ได้อะไร เลย”
“ปล่อยมันไป” หนึ่งในหัวหน้ากลุ่มที่แต่งตัวมอซอกล่าว ห้ามลูกน้อง พลันหันกลับมายังชวี่อิน ที่ในยามนี้ใบหน้า อาบด้วยเลือด พลางเหนื่อยหอบใกล้หมดแรงเต็มที
“เช่นนั้นเจ้าก็ส่งอัดมาให้ข้า แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไปอีก คน” ชวี่อินล้วงในซอกเสื้อ พร้อมนำถุงสีแดงที่มีอัดอยู่ เต็ม ยื่นให้กับกลุ่มคนพวกนั้น ในตอนนี้เขาเองไม่มั่นใจ นัก ว่ากลุ่มคนไร้สัจจะพวกนี้จะยอมปล่อยเขาหรือไม่ ทว่าอย่างน้อยชางอินก็หนีรอดปลอดภัยกลับไปแล้ว”เหตุใดจึงมากมายเช่นนี้” ผู้โลกเอื้อมมาตั้งถุงสีแดงออก จากมือชวี่อิน พลางกรูกันรุมล้อมยื้อแย่งกัน
“ของข้า แบ่งข้าด้วยสิ”
“นั่นเจ้าเอาไปเยอะแล้ว” กลุ่มชายเหล่านั้นเริ่มไม่พอใจ กันเอง ก่อนที่หัวหน้าของเขาจะดึงห่ออัดกลับมาที่มือ
“อย่าเถียงกัน ข้าจะแบ่งให้พวกเจ้าทุกคนเท่า ๆ กัน” ว่า แล้ว ทั้งหมดก็รีบแบ่งอัดกันในทันที ความยากลำบากของ ผู้คนในเมืองเชียงหยางนั้นยังมีอีกมาก ในตอนนี้ชวี่อินไม่ ได้นึกโกรธพวกเขา กลับรู้สึกเห็นใจมากกว่า ก่อนจะอ่อน แรงวูบหมดสติไป
เขาฟื้นกลับมาโดยไม่รู้ว่าตนหมดสติไปนานเท่าใด รู้ตัว อีกทีก็พบว่านอนอยู่บนกองฟางในโรงนาร้างแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มรู้สึกจุกบริเวณหน้าอกอย่างมากจนต้องประคอง ตัวขึ้น
“ท่านฟื้นแล้วฤๅ เป็นอย่างไรบ้าง” น้ำเสียงบางเบาถาม ก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตาไปพบกับหญิงสาววัยสิบห้าปี ใบหน้างดงามหมดจด เอ่ยถามด้วยกิริยาอ่อนหวาน
“ข้ารอดจากคนพวกนั้นได้อย่างไร” ชวี่อินพยายามนึก ทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“พี่สาวข้าช่วยท่าน…” นางนักบางอย่างได้จึงหยุดพูด ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแล้วหาเปลี่ยนเรื่อง
“ข้าต้มมาไว้ให้ท่าน อย่างไรเสียดื่มเสียหน่อยจะได้มี แรง” หญิงสาวค่อย ๆ ประคองซวี่อินนั่งในท่าถนัด พลาง หันไปหยิบยาต้มยกให้เขาดื่มช้า ๆ กลิ่นหอมจากกายของ นางปะทะเข้ามาที่จมูก ก่อนซวี่อินจะจับจ้องไปยังใบหน้า ของหญิงสาว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ