ตอนที่4เวลาครึ่งปีนี้เหมือนเลี้ยงข้าวหมาไปฟรีๆ
ตอนที่4เวลาครึ่งปีนี้เหมือนเลี้ยงข้าวหมาไปฟรีๆ
รถกำลังมุ่งหน้าไปยังบริษัทเกสรที่นั่งอยู่เบาะหลังกิน ข้าวเช้าพร้อมกับเล่นเวยป๋อไปด้วยข่าวของชยนว่อนไป ทั่วที่ไหนๆก็เต็มไปด้วยหน้าซีดของชยน
หลังจากเกสรอ่านข่าวอย่างละเอียดอดไม่ได้ที่จะเยาะ
เย้ย
ถึงเธอรู้ว่าชยนไม่ได้ใสสะอาดแต่ก็ไม่รู้ว่าเขามีนิสัยอื่นๆ ยังไงอีกด้วยข้อกล่าวหาเหล่านี้เกรงว่าเขาจะต้องอยู่ใน คุกถึงสองสามปีเลยล่ะ
คิดไปถึงผู้ชายที่มีรอยยิ้มอันอบอุ่นแต่การกระทำ ร้ายกาจเกสรโน้มตัวเธอไปพิงกับชยานีพูดเสียงเบาว่า “พี่ ชยานีคุณเยอรมันเขามีคู่หมั้นแล้วใช่ไหม?”
หลังจากที่ได้ยินที่เกสรพูดชยานีก็หันมามองหน้า เกสร”ได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน?”
“น่าจะจากปากพวกนักข่าว”เกสรกัดช้อนแล้วพูด ประเด็นหลักว่า“ได้ยินว่าคู่หมั้นของคุณเยอรมันเป็นมหา เศรษฐีแต่เพราะเป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจทั้งสองเลย ไม่มีความสุขคุณเยอรมันก็เป็นผู้ชายมีความต้องการดังนั้น…..…….
คิดได้ว่าในรถยังมีคนขับรถอีกคนเกสรเลยไม่ได้พูด สองประโยคหลังออกมาแต่เธอรู้ว่าชยานีเข้าใจ
ชยานีได้เพียงแค่จ้องหน้าเกสรไม่ได้พูดอะไรออกไป
“พี่ชยานีพี่ไม่ไปลองมองหาสาวคนอื่นดูล่ะ?สองปีแล้ว ฉันเดาว่าคุณเยอรมันจะต้องเบื่อฉันแล้ว”
“คุณเยอรมันใจป้ากับเธอขนาดนั้นทำไมเธอไม่อยากอยู่ กับคุณเยอรมันแล้วหรอ”
เกสรจะกล้าเบื่อเขาได้อย่างไร
คุณเยอรมันออกจะใจป้าไม่เคยถามเธอว่าใช้เงินไปเท่า ไหร่สองปีมานี้เธอขโมยเก็บไว้ไม่น้อยสามารถเอาเก็บไว้ ใช้ได้หลายปีเลยยังพอที่จะให้น้องชายไปรักษาตัวที่ต่าง ประเทศได้ถึงได้มีความคิดนนี้เกิดขึ้น
อีกอย่างที่อยู่กับเขามาสองปีนี้จะพูดว่าสั้นก็ไม่สั้นแต่ใน ใจเกสรก็กลัวมาตลอดถ้าเธอพูดอะไรพูดไปคงได้เจอดี แน่ชีวิตคงบัดซบแน่สู้รีบหนีหายไปก่อนจะดีกว่า
หลังจากปล่อยความคิดพลั้งพลูออกมาเกสรก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันรู้สึกน่าไม่อายอยู่กับคุณเยอรมันมานาน ขนาดนี้อะไรก็ไม่ทำยังได้เงินจากเขามากขนาดนี้พี่ชยานี มีเวลาก็ช่วยฉันมองหาหน่อยละกัน!”
ชยานี้ไม่ได้ตอบอะไรไปทําแค่เปิดประตูรถแล้วก็เดินลง
ไป”รีบลงมาพาร์ทเนอร์กำลังรออยู่! เกสรอยากถามความหมายของชยานีแต่เห็นสีหน้าตึง
ของเธอแล้วใบหน้าที่เอาจริงเอาจังรู้ว่าไม่ควรถามเลยไม่
ถามออกไปได้แต่หยิบกระเป๋าลงรถไป
ชยนโดนจับเหมือนโชคร้ายละครเรื่องนั้นเลยถูกทําลาย ไปด้วยแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไรมากยังไงก็มีผู้จัดการ ชยานีช่วยจัดการอยู่แล้ว
ชยานีได้นัดเกสรให้เจอกับผู้ขายจิวเวอลี่สองรายไม่ ได้เป็นแบรนด์ใหญ่ระดับนานาชาติอะไรแต่ก็มีฐานแฟน คลับหนาแน่นประเด็นหลักคือค่าแอมบาสเดอร์สูง
เซ็นสัญญาเสร็จก็ไปอ่านบทละครหลังจากนั้นก็รีบ กําหนดวันถ่าย
เยอรมันกลับมาไม่ถึงสองวันก็ต้องบินไปดูงานที่สิงคโปร์ อีกแล้วเกสรที่กำลังท่องบทละครเรื่องใหม่นั้นไม่รู้จะ ขอบคุณเขาที่ไปดูงานต่างประเทศยังไงเลยส่งข้อความ หวานไปให้
เยอรมันตอบกลับสั้นๆ รอฉันกลับไปเธอต้องชดเชยให้
เธอคือคนไม่ใช่หุ่นยนต์จะมาทำอะไรกับเธอก็ได้ไม่ได้
ไม่นานเกสรก็เริ่มถ่ายละครแล้ว
เป็นแค่นักแสดงธรรมดาแต่เธอมีคนใหญ่โตอยู่เบื้องหลัง เลยได้เป็นนางเอกรวมทั้งนักแสดงคนนี้ยังชอบสร้างข่าว ให้ตัวเองเพราะหวังว่าเธอจะดังขึ้นมา
เกสรเพิ่งจบจากโรงเรียนการแสดงไม่ค่อยได้ร่วมงาน กับคนอื่นมากเพื่อสร้างความประทับใจแรกเธอซื้อขนมมา แบ่งในทุกคนในกองกินพร้อมกับยิ้มทักทายทุกคน
“เอ่อทุกคนรู้ธาตุแท้ของเธอดีทำเป็นใสซื่อไป ทำไม”หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเกสรโยนขนมบนมือเธอทิ้ง ไปด้วยท่าทางดูหมิ่น
เกสรจ้องมองใบหน้าเธออีกทีถึงจะนึกออก
ผู้หญิงคนนี้ชื่อพลอยเรียนที่โรงเรียนสอนการแสดง เดียวกันรู้มาว่ามาแคสตั้งหกครั้งถึงได้รับบทนี้ตอนแรกคิดว่าจะแจ้งเกิดกับละครเรื่องนี้แต่ถูกเกสรแย่งบท นางเอกไป
คนที่แย่งบทมาอย่างเกสรก็ไม่ได้ต่างอะไรจากพลอย มากแต่โยนของทิ้งต่อหน้าผู้คนแน่นอนว่าเป็นการทำให้ เธอได้หน้าแทน
ดวงตาเกสรเป็นประกายก้มลงเก็บขนมในถังขยะมุม ปากสีแดงยกขึ้นเผชิญหน้าด้วยรอยยิ้ม:“คุณพลอยทำ แบบนี้หมายความว่าอย่างไรหรอคะ?”
“ฉันว่าเธอเป็นแค่แจกันดอกไม้ไม่มีทักษะการแสดงเลย เอาพึ่งพาผู้ชาย”พลอยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเธอโดน แย่งบทนางเอกไปในใจลุกเป็นไฟ
คนรอบๆตั้งใจดูไม่พูดสักคำ
เอิ่มมันไม่เป็นเช่นนั้น
นอกจากลูกดาราและลูกคนรวยจะมีคนเข้ามาในวงการ บันเทิงจนได้ดีแบบนี้หรอ?
เมื่อก่อนยังมีปาปารัสซี่ถ่ายภาพเกสรที่เข้าออกโรงแรม และร้านอาหารนู้นนี้กับผู้ชายบ่อยๆถึงแม้ไม่รู้ว่าผู้ชายคน นั้นคือใครแต่เมื่อเห็นท่าทางที่ใกล้ชิดของทั้งสองฟันธง ได้เลยว่าคือเสี่ยเลี้ยงดูเกสรอยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ