พิษสวาทร้ายเจ้าชายเถื่อน

ตอนที่ 2



ตอนที่ 2

เจ้าชายอัฟฟาน บิน ฮันเตน อัล-ฟาริส องค์รัชทายาทแห่งมหา นครคาร์มาลย์ เดินกลับไปกลับมาภายในห้องทรงพระอักษร ใบหน้าหล่อเข้มสะดุดตาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

“ทำไมเสด็จพ่อจะต้องให้เราแต่งงานกับผู้หญิงไทยคนนั้น ด้วย”

“ทรงเคยมีพันธสัญญาต่อกันพะย่ะค่ะ องค์ชาย

องครักษ์คนสนิทกราบทูลไปตามความที่ได้ล่วงรู้มา และนั่นก็ ทำให้เจ้าชายอัฟฟานถึงกับขบฟันแน่น สองมือที่ทิ้งข้างลำตัว กําแน่นเช่นกัน

“เราไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้” เจ้าชายอัฟฟานตวัด

ตามององค์รักเขม็ง “ซึ่งเจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร มาฮัด

องครักษ์หนุ่มหน้าตาถอดสีเลยทีเดียว ก่อนจะรีบกราบทูลปาก คอสั่น

“กระหม่อม… กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า เราเข้าใจดี”

ดวงเนตรขององค์ชายอัฟฟานเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม และก็อดนึกถึงวันวาน ในอดีตไม่ได้

เพราะเขาไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่บิดาทรงคัดเลือกให้ทําให้เขาเลือกที่จะส่งมายัดให้เดินทางไปกับขบวนสินสอดทอง หมั้นแทน โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้

มาฮัดได้รับคำสั่งจากเขาให้พยายามสืบหาความโสมมของ แม่ว่าที่เจ้าสาวชาวไทยคนนั้นมาให้มากที่สุด แต่เรื่องมันกลับ เลยเถิด เมื่อแม่ผู้หญิงคนนั้นรวบหัวรวบหางมาซัดจนได้เป็นสามี โดยไม่มีโอกาสได้ล่วงรู้ว่ามาฮัดไม่ใช่เจ้าบ่าวของตัวเอง

กรามแกร่งขบกันแน่น ความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงคนนั้น แทบจะทะลักออกมาจากช่องปาก

“แล้ว… แล้วองค์ชายจะจัดการยังไงดีล่ะย่ะค่ะ หรือจะให้ กระหม่อมไปกราบทูลองค์เหนือหัวดีว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็น ยังไง”

“ไม่ต้อง ถ้าเจ้าไปกราบทูลเสด็จพ่อ เจ้าก็จะหัวขาด หรือว่า อยากตายกันล่ะ”

“กระหม่อม… ไม่อยากตายพ่ะย่ะค่ะ”

“งั้นก็หยุดคิดเรื่องนี้ซะ”

“แล้วองค์ชายล่ะพ่ะย่ะค่ะ จะทรงทำยังไงดี ผู้หญิงไทยคนนั้น ไม่ได้มีดีพอจะเป็นพระชายาแม้แต่นิดเดียว แถมกระหม่อมก็ยัง ไม่ใช่คนแรกของนางด้วย”

“เรากำลังคิดหาทางออกอยู่

“หรือองค์ชายจะเสด็จหนีดีพ่ะย่ะค่ะ”
“การวิ่งหนีปัญหาไม่ใช่วิธีที่เราชอบ

เจ้าชายอัฟฟานยังคงเดินกลับไปกลับมา คิ้วเข้มที่ยาวขนาน ไปกับดวงตารียาวราวกับดวงตาของนกเหยี่ยวขมวดมุ่นตลอด เวลา

“กระหม่อมว่า… ส่งคนไปสังหารนางเถอะค่ะย่ะค่ะ

เจ้าชายสูงศักดิ์หรี่ตาแคบมององครักษ์คนสนิทของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้า

“ถึงนางจะสําส่อนแค่ไหน แต่นางก็ไม่สมควรได้รับโทษตาย จากเรา”

“แล้วองค์ชายจะ….”

“เราจะเดินทางไปพบนางที่เมืองไทย เจรจาขอให้นางยกเลิก การแต่งงานกับเรา”

“นางคงไม่ยอมหรอกพ่ะย่ะค่ะ เท่าที่กระหม่อมได้สัมผัสนาง นางดีใจมากที่จะได้เป็นพระชายา

“เราจะมอบเงินให้นางสักจำนวนหนึ่ง อาจจะมากจนใช้ได้ทั้ง ชีวิตของนางเลย บางทีนางอาจจะมองเห็นเงินสำคัญกว่า ตำแหน่งพระชายาก็ได้นะ”

“เอ่อ แล้วนางจะ… จะตกใจไหมค่ะย่ะค่ะ ถ้ารู้ว่าคนที่นางนอน ด้วยเมื่อหลายเดือนก่อนไม่ใช่องค์ชาย

“นั่นแหละคือสิ่งที่จะทำให้นางละอาย
เจ้าชายอัฟฟานเต็มไปด้วยความหวัง

“แต่กระหม่อมว่าผู้หญิงอย่างนางไม่น่าจะมีความละอายติดอยู่ ในตัวนะพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าอย่าพูดให้เราไม่สบายใจ” เจ้าชายอัฟฟานพูดแผ่วเบา “เจ้าไปเตรียมตัวได้แล้ว เราจะออกเดินทางไปเมืองไทยในคืนนี้

“เอ่อ แล้วองค์ชายจะไม่กราบทูลเรื่องจะเดินทางออกนอกคาร์ มาลย์ให้กับองค์เหนือหัวทรงทราบหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“เราจะไปกราบทูลเสด็จพ่อก่อนจะออกเดินทางแน่นอน เจ้าไม่ ต้องกังวลหรอก ไปเตรียมตัวได้แล้ว เราจะต้องถึงเมืองไทยใน วันพรุ่งนี้”

เขาต้องรีบทำให้เรื่องนี้จบเร็วที่สุด เพราะกำหนดการแต่งงาน เข้าใกล้มาทุกขณะแล้ว

“พะย่ะค่ะ องค์ชาย

มาฮัดมองเจ้าชายอัฟฟานที่เดินออกไปจากห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตา นชมเป็นที่สุด จะมีเจ้าชายจากชาติอาหรับไหนบ้าง นะ ที่ทรงพระงดงามที่พระพักตร์ และวรกายดั่งเช่นที่เจ้าชายอัฟ ฟานทรงมี

“ทรงพระโฉมงดงามเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายของ กระหม่อม”

“เจ้าว่าอะไรนะ อัฟฟาน”
ฮมเดน อัล-ฟาริส คือกษัตริย์องค์ปัจจุบันของประเทศคาร์ มาลย์ ดินแดนทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล และก็เป็นเพียงไม่กี่ ประเทศในแถบตะวันออกกลางเท่านั้น ที่นับถือศาสนาคริส

“กระหม่อมจะเดินทางไปเมืองไทยในคืนนี้พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ

“ไปทำไมกัน อีกแค่สองอาทิตย์ก็จะถึงพิธีอภิเษกของเจ้าแล้วนี่ อัฟฟาน”

“กระหม่อมคิดถึงว่าที่เจ้าสาวของตัวเองน่ะพะย่ะค่ะ เลยต้อง ไปเยี่ยมเยียนหาเสียหน่อย เสด็จพ่อทรงอนุญาตกระหม่อมด้วย นะพ่ะย่ะค่ะ”

ความจริงเขาไม่จําเป็นต้องมาขออนุญาตบิดาเลยก็ได้ แต่ เพราะไม่อยากทำให้ท่านไม่พอใจ เนื่องจากท่านอายุเกือบเจ็ด สิบปีแล้ว

“ความรักของหนุ่มสาวที่มันรุนแรงจริงๆ เลยนะอัฟฟาน”

คนฟังแทบจะอาเจียนออกมาเสียให้ได้ แต่ก็จําต้องเก็บซ่อน มันเอาไว้

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้พะย่ะค่ะเสด็จพ่อ

กษัตริย์ฮัมเดนหัวเราะเบาๆ อย่างชอบอกชอบใจ ก่อนจะเอ่ย

อนุญาต

“ตามใจเถอะ อยากไปก็ไป

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ” เขากราบขอบคุณบิดา ก่อนจะพูดต่อ

“งั้นกระหม่อมขอตัวไปเตรียมตัวก่อนนะค่ะย่ะค่ะ”

“อืม ตามสบายเถอะ”

“พะย่ะค่ะ”

เขากำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้องทรงอักษรของบิดา แต่ เสียงแหบแห้งของท่านเรียกขึ้นเสียก่อน เขาจำต้องชะงัก และหัน

ไปมอง

“เสด็จพ่อมีอะไรกับกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ

กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ระบายยิ้มน้อยๆ มองบุตรชายผู้เลอโฉมของ ตนเองอย่างรู้ทัน

“เจ้าก็รู้ธรรมเนียมของคาร์มาลย์ใช่ไหม อัฟฟาน

“ข้อไหนพะย่ะค่ะ”

“ในคืนเข้าหอ เลือดพรหมจรรย์จากเจ้าสาวจะต้องถูกนำมา แขวนไว้ที่หน้าพระราชวัง

กรามแกร่งของเจ้าชายอัฟฟานขบกันแน่น เขาพยายาม กล้ากลืนความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าสาวลงไปในลำคออย่างยาก

รําบาก

“กระหม่อมทราบพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีมาก เจ้าจะได้ไม่แตะต้องเจ้าสาวก่อนถึงวันเข้าหอยังไงล่ะ”
แม้ประเทศคาร์มาลย์จะเป็นประเทศเอกราชที่ปกครองด้วย กษัตริย์หัวสมัยใหม่ แต่กระนั้นบางเรื่องก็ยังยึดถือเอาไว้ไม่เสื่อม คลาย อาทิเช่น… เลือดพรหมจรรย์ของเจ้าสาว

เลือดพรหมจรรย์หรือ แม่นั่นเสียมันไปตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสอง หลักด้วยซ้ำล่ะมั้ง

เจ้าชายรูปงามค่อนแคระอย่างเกลียดชัง แต่ริมฝีปาก พยายามที่จะระบายออกมาเป็นรอยยิ้ม

“กระหม่อมจะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของคาร์มาลย์เอา

ไว้ยิ่งชีพพะยะค่ะ”

องค์กษัตริย์สูงวัยระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะโบกมือให้ลูกชาย ออกไป

เจ้าชายอัฟฟานก้าวออกมาพ้นห้องทรงพระอักษรของบิดาแล้ว

ก็ยืนนิ่ง ดวงตามืดดำ สองมือข้างลำตัวกำแน่นเป็นหมัด

“เราจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงสำส่อนแบบเธอแน่นอน มาริ สา กอบกุล!”

“องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

มาฮัดเดินมาหยุดคุกเข่าอยู่ตรงหน้าองค์ชายผู้สูงศักดิ์ และมี รูปโฉมราวกับเทพบุตร

“อืม งั้นเราออกเดินทางกันได้แล้ว”
“พะยะค่ะ”

เจ้าชายอัฟฟานก้าวเท้าไปเบื้องหน้าด้วยท่าทางสง่างาม โดย ไม่ต้องปั้นแต่ง มุ่งหน้าตรงไปยังลานจอดเครื่องบินส่วนพระองค์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองไทย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ