บทที่ 15 ค่ำคืนมีความสุข
ดูข้อความนี้แล้ว ผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ทำงาน ไถนามาอย่างหนักเป็นเวลาสามวันติดกันได้ค่าตอบแทนกลับมา สักที
ยังเป็นค่านั้น ขอแค่เสี่ยวเฟยมีความสุขผมก็มีความสุข เพื่อเธอแล้ว ให้ผมทำอะไรก็ได้
และในตอนนี้ เรื่องของเสี่ยวเฟยก็สำเร็จจบไปแล้วจากนั้น ผมก็ต้องมาคิดไตร่ตรองวันนี้ที่เฉินหลานมาทดสอบผมแล้ว
ปกติแล้ว เป็นผู้บังคับบัญชาอันดับสองของหน่วยแล้ว แน่นอนคนนี้ต้องมีฝีมืออยู่แล้ว
หน่วยงานแตกต่างกับองค์กรบริษัท ไม่ใช่แค่มีเส้นสาย
สามารถเป็นมือขวาได้แล้ว
หรือจะพูดอีกแบบว่า เฉินหลาน กับ เฉิน จะเป็นพวกผู้หญิง แข็งแกร่งแบบเดียวกัน
และผู้หญิงแบบนี้ปกติจะแสดงออกภายนอกแข็งแกร่งแล้ว ดังนั้นความต้องการที่นั้นก็จะเยอะ เพราะว่าผู้หญิงก็คือผู้หญิง หวังจะให้ผู้ชายมารักเสมอ
จากที่ผมทราบ ในฐานะผู้บังคับบัญชาอันดับสองของหน่วย เฉินหลาน กับท่านอธิบดีงานหวางกั๋วจะมีความสัมพันธ์ที่ อธิบายไม่ถูกอยู่ แต่ว่าเป็นสัมพันธ์แบบไหนนั้นก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมก็แค่ได้ฟังเขาพูดมา โดยบังเอิญ
ละในตอนนี้ ปัญหาในตอนนี้ของผมคือ ดูเหมือนผู้บังคับ
บัญชาอันดับสองจะจ้องผมเข้าแล้ว
แล้วก็ ดูเหมือนจะกินผมให้ได้เลย
พูดจริงนะ ในฐานะผู้ชายอย่างผมรู้ปวดผมมาก
เกิดมาก็ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้แล้ว
แค่มีบางครั้งที่ต้องใช้เสน่ห์ไปโปยแค่นั้น
ก็เหมือนเยน ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวเฟยละก็ ผมก็คงจะไม่ ไปยุ่งเกี่ยวกับโปรดิวเซอร์ที่แข็งแกร่งอย่างเช่น
และในตอนนี้ ผมก็ไม่มีทางแก้ ได้เพียงค่อยเป็นค่อยไป ก็ชีวิตนิ มันก็คือหนทางการค่อยเป็นค่อยไป
พริบตาเดียว
ก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว
ผมเตรียมซื้อของกลับไปฉลองกับเสี่ยวเฟยหน่อย เพราะว่า ก้าวแรกที่มาในวงการบังเทิง
วันนี้เธอออดิชั่นสําเร็จแล้ว ถือได้ว่าประสบความสำเร็จของ
แต่ว่า ผมยังไม่ได้ก้าวออกจากประตูที่ทาน ผู้บังคับบัญชา อันดับสองเฉินหลานก็ออกมาละ
“หลี่เจิ้ง เดียวมีดินเนอร์กับอีกท่านหนึ่ง นายต้องไปแบบ หนึ่ง ” เฉินหลานเข้ามาแล้วพูด แล้วท่าน้ำเสียงการพูดเหมือนห้ามให้ผมปฏิเสธ
“ดินเนอร์กับอีกท่านหนึ่ง ผมอดที่จะคิดในใจไม่ได้ ที่ บอกว่าดินเนอร์กับอีกท่านคงจะใช่ผมกับเฉินหลานสองคนนะ ?
เฉินหลานพูดอีกว่า : “เหมือนคราวที่แล้วท่านอธิบดีงานจัด โปรดิวเซอร์คนนั้นเยฉันก็อยู่
ดังนั้นฉันเลยแนะนำให้เธอไปอยู่ด้วย ”
อะไรนะ? เฉินก็อยู่ ดังนั้นเฉินหลานแนะนำให้ผมไปด้วย
ผมฟังออกความหมายแอบแฝงของเฉินหลานทันที เธอ ชัดเจนที่จะบอกกับผมว่าเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของผมกับเยฉัน แล้ว
ดังนั้นผมกำลังสงสัยอยู่ เฉินหลานรู้ได้ไง ?
ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยเฉินหลานก็พูดอีกว่า : “ไปตอนนี้เลยนะ นายกับฉันไปด้วยกัน ”
ทำไงได้ ผมได้แต่ไป เพราะว่าถ้าไม่ไปละก็ ไม่เพียงผู้ บังคับบัญชาอันดับสองจะหาเรื่องผม แล้วก็เยฉันก็จะหา
โอกาสมาถามผมอีก
ไม่นาน ผมกับเฉินหลานก็นั่งรถของบริษัทมาถึงร้านอาหาร แห่งหนึ่ง
ไม่ใช่ร้านอาหารคราวก่อน งานเลี้ยงหัวหน้าหน่วยงานไม่
เคยจะซ้ำร้านอาหาร ปกติจะเปลี่ยนที่ทุกครั้ง
เข้าไปในห้องร้านอาหารแล้ว ผมพบว่ายังเป็นคนคราวที่ แล้ว หัวหน้าหน่วยงานหวางกั้วฟูผู้บังคับบัญชาอันดับ สองเฉินเดียจวนแล้วก็กับผมที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างโปรดิว เซอร์เยจิน
“เสี่ยวหมี่ เสี่ยวเฉิน(เฉินหลาน) มา นั่งลง ” หวางนิ้ว ยกมือขึ้นมาทักทายผมกับเฉินหลาน
บนโต๊ะที่เหลืออยู่สองที่พอดี ชัดเจนเตรียมไว้เพื่อผมกับเฉิน
หลาบ
สองที่นั่งใกล้กัน อยู่ระหว่างตรงกลางของเฉินกับหวา งกัวฟู่
ที่จริง ผมอยากจะเดินไปนั่งข้างๆของหวางนิ้ว แต่ว่าเฉิน หลานกลับไปนั่งลงข้างๆหวางนิ้วก่อนผม
จากนั้น ผมได้เพียงแต่ไปนั่งตรงกลางระหว่างเฉิน กับ
เฉินหลาน
ดูเหมือน เฉินหลานกับหวางกั๋วจะมีความสัมพันธ์แบบที่ ข่าวลือกันจริงๆ แต่มันทำให้ผมเครียดเลย ต้องมานั่งตรง กลางระหว่างเฉินหลานกับ เฉิน ผู้หญิงสองคนนี้ ทำให้ผมรู้ สึกเกรงๆบอกไม่ถูก
“เสี่ยวหล อ้า เธอดูที่นั่งเธอดีแค่ไหน อยู่ตรงกลางสองสาว สวยพอดีเลย ฮ่าๆๆ” หวางกั๋วฟูตอนนี้ล้อเล่นพูดขึ้นมา
ทุกคนหัวเราะขึ้นมาตาม ทำให้บรรยายกาศดีขึ้นเยอะเลย
และมื้อเย็นก็เริ่มขึ้น เมื่อผมกำลังคิดในใจว่าหลังจากจบกิน ข้าวแล้วจะทำอย่างไงให้หลุดพ้นจากเดินดี หัวหน้าหน่วย งานหวางกัวฟูก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ใช่แล้ว คุณเย่ กองถ่ายของ พวกคุณเลือกคนเลือกเป็นยังไงบ้างแล้ว? ”
ได้ยินคำนี้ เฉินเหลือบมองผมอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แล้วค่อยยิ้มพูดกลับไปว่า “พระเอกกับนางเอกเลือกได้แล้วละ แต่ว่า ถ้าหัวหน้าหวังอยากให้เสี่ยวหลีของพวกคุณไปเป็น พระเอกละก็
ก็สามารถเปลี่ยนกะทันหันได้
คำพูดของเฉินพูดได้ดีมาก ให้ความคิดของหวางนิ้วที่จะมา ยุ่งเกี่ยวนั้นสลายไป
ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หักหน้าหวางนิ้วไม่ผิดเลยที่เป็น
โปรดิวเซอร์ที่มากความสามารถ
“ฮ่าๆๆ” หวางถั่วพู่หัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดยิ้มพูดไปว่า : “เป็นบุญ มากที่คุณเย่ยังใส่ใจเสี่ยวหลีของพวกเราอยู่ ถือข้อนี้ เสี่ยว หลี่ เธอต้องแสดงอะไรสักอย่างแล้วละ ”
แน่นอนผมฟังออกแล้ว ผมรีบยกแก้วเหล้าขึ้นมา ยิ้มไป ด้วยใบหน้าอย่างจริงจังพูดว่า :
“คุณเย่ยังจําผมได้เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ผมชนแก้วคุณ
เฉันก็ยิ้มยกแก้วเหล้าขึ้น แต่ไม่ได้พูดอะไร แค่ใช้สายตา ที่ร้อนแรงเต็มไปด้วยความรักใคร่จ้องมองผมไปสองวินาที แล้วแก้วที่เต็มจนหมด
“คุณเย่ดื่มได้ดี ผู้บังคับบัญชาอันดับสองเฉินเดียจวนตะโกน จากด้านข้าง
ขมคิ้วขึ้นมา
หางผมเหลือบไปเห็น
เห็นได้ชัด เฉินหลานจากแววตาเฉันมองผมสังเกตถึง อะไรแน่เลย
แต่ผมสนใจอะไรมาก
เหมือน
จากนั้น ตลอดมื้อเย็นผมรู้สึกได้เฉินหลาน มองมองคิดเดาหลานกำลังคิดความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเยฉันแน่เลย
เป็นว่าไม่อะไรเกิดขึ้นไม่งั้นยิ่งทำให้
เฉินหลานสงสัยแน่เลย
ว่าเฉินเอาของเธอออกจากโต๊ะครั้งคราวมา แตะเอาเท้าใส่นองอยู่ถอดรองเท้า แล้วมาร่างกายส่วนล่างของผม
ความถูก แต่มันได้แต่ทนแสดงออกเหมือนไม่ไรเกิดเพราะว่า ถ้าคนในเย็นสังเกตเห็นอะไรแล้ว ผมคงจะ ทําตัวถูกแน่
แต่ว่า ถึงตอนที่มื้อเย็นนี้ใกล้จะจบแล้ว เฉันยืดขามาอีก จากนั้นถูตรงส่วนล่างของผมแรงๆสองครั้ง
ผมอดทนไม่ได้จนมือสั่น ทำให้น้ำในแก้วกระเด็นออกไปตก
ไว้ที่เสื้อผ้าด้านข้างของเฉินหลาน “ขอโทษขอโทษ” ผมรีบยึดมือไปเอากระดาษทิชชู น้ำกระเด็นใส่ตรงคอปกข้างบนของหน้าอกเฉินหลาน ผมเลยไม่
เพราะ
สามารถไปช่วยเช็ดให้เธอได้
ยังดีนะที่หวางกั๋วฟูกับเฉินเดียจวนไปเข้าห้องน้ำยังไม่กลับมา ไม่งั้นผมคงจะอธิบายไม่ถูกว่าทำไมอยู่ดีๆถึงทำน้ำในแก้ว กระเด็นออกมา
และในตอนนี้ จึงแม้ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ตอนอยู่ ตรงหน้าเฉินหลาน ผมคงจะไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะ
เพราะว่า ตอนเฉินหลานขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหยิกทิชชู่ไป
ก้มศีรษะลงไปที่โต๊ะข้างล่างโดยตรง
ที่นี้ ความสัมพันธ์ผมกับเย่ฉันถูกเปิดเผยใต้แววตาของเฉิน หลานแล้ว ถึงแม้เฉันจะเอาเท้ากลับไปใส่ไว้ที่รองเท้าแล้ว ก็ตามแต่เฉินหลานเป็นผู้หญิงที่มีไหวพริบดีเป็นผู้บังคับบัญชา อันดับสองมานาน ยังไงก็สามารถเดาได้นิดหน่อยอยู่
“คุณเฉิน มา พวกเราชนแก้วกัน ” เย่นยกแก้วขึ้นแล้วยิ้ม พูดกับเฉินหลานไป เห็นได้ชัดว่ารู้สึกไม่ดีเลยรีบเบี่ยงเบน ความสนใจของเฉินหลาน
นั้นไง เฉินหลานรีบยกแก้วขึ้นมาข้างหน้า ยิ้มแล้วพูดเหมือน กันกลับไปว่า “คุณเยนคอแข็งจริงๆเลย น่าถือจริงๆ คำพูดของเฉินหลานผมฟังแล้วเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมา พูดแบบ
นี้ชัดเจนเลยที่จะสืบความหมายอย่างว่าให้กับเยฉินนิ ? “ไม่หรอกไม่หรอก “ส่วนเฉันคิดก็ไม่คิดก็ตอบไปว่า : “คุณ
เฉันคอก็แข็งมากเลย ไม่งั้นหัวหน้าหน่วยจะให้ความสำคัญได้
ยังไง”
ผมอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉิน ผู้หญิงสองคนกำลังแสดง
ละครกัน เป็นแบบนั้นจริง!
แต่ว่าผมรู้สึกแปลกๆก็คือ เยฉันทำไมถึงรู้เรื่องของเฉิน
หลานกับหวางกัวฟูด้วยละ ?
แน่นอน อันนี้ไม่ใช่จุดสำคัญ
สำคัญคือ เวลามื้อเย็น
ให้ผมไปส่งเธอที่บ้าน
ของวันจบแล้ว
เยฉันบอกหวางกัวฟู
หวางกัวฟูก็ต้องตกลงอยู่แล้ว และเวลามองผมแววตาเต็ม
ไปด้วยความชื่นชม
ผมรู้สึก หวางนิ้วก็ใกล้จะสงสัยถึงความสัมพันธ์ผมกับเย
ฉินแล้วละ
แต่ผมทำยังไงได้? เป็นสิ่งที่ผมเลือกเอง
อยู่ในวงการนี้ตามใจตัวเองไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่ายังไง
ก็ยังเป็นคำนั้น
เพื่อเลี้ยวเฟย
สู้เว้ย
ไม่นาน ผมนั่งรถแท็กซี่ไปส่งเฉันถึงตึกข้างล่างบ้านเธอ
“เจ้าตัวแสบ ไปอยู่กับฉันแบบหนึ่ง” ลงจากรถแล้ว เช่ ฉินกระซิบที่หูผมว่า
ผมกะว่าจะปฏิเสธไป แต่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไร เฉันก็ พูดมาลอยๆว่า “น้องสาวนายรู้สึกอยู่ที่กองถ่ายละครจะเจอ ปัญหา พอดีเลยจะคุยกับนายหน่อย ”
เสี่ยวเฟยมีปัญหาที่กองถ่ายละคร ? หมายความว่าไง ? ตอน
นั้นผมอดจะใจร้อนไม่ได้ แต่ว่า
หน้าผมไม่มีความใจร้อนแสดงออกมา
“เอาสิ จะได้ทรมานคุณอีกครั้ง “หน้าผมยิ้มแบบกวนๆ ตอบกลับไปว่า จากนั้นล้วงกระเป๋าตังออกมาหนึ่งใบห้าสิบเดิน ไปบอกให้พี่คนขับรถแท็กซี่แล้วพูดว่า “ผมยังไม่กลับแล้ว ขอบคุณ
คนขับรถแท็กซี่มองเยฉันแล้ว ยิ้มแล้วก็เริ่มทอนตัง ขณะที่ ทอนตั้งวางไว้บนมือผมแล้วพูดกับผมว่า : “สุขสันต์ยามราตรี!”
สุขสันต์ยามราตรี หมทีม เฉินบอกเสียวเฟยมีปัญหาที่กอง ถ่ายละคร ผมใจร้อนจะตายอยู่ละ
มีความสุขขึ้นมาได้หรอ?
หรือว่า สุขสันต์ยามราตรีคำนี้
คนขับแท็กซี่พูดกับเยฉันจะถูกเห้อ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ