บทที่1. ต่อ
โรมิโอผุดลุกผุดนั่งอยู่กว่าครึ่งชั่วโมงในออฟฟิศเล็กๆ ของ ฟาร์มม้าที่กำลังจะเจ๊งและเขานี่ล่ะคือคนที่ต้องมาช่วยฟื้นฟู กิจการฟาร์มม้ามิลเลอร์ไว้ด้วยการของร้องแกมบังคับจาก มารดาของเขาเอง ดวงตาคมกวาดมองไปรอบห้องนี้ไม่รู้กี่รอบ ต่อกี่รอบก็ยังไม่เห็นถึงความน่าพิสมัยเลยสักนิด ห้องเล็กๆ ที่ที่มี พัดลมเพดาน โต๊ะไม้เก่าๆ ตัวหนึ่งและโซฟาหนังแสนเก่าที่ไว้ใช้ สําหรับรับแขก
“สภาพยังกับรังหนูไม่แปลกใจเลยที่มันเจ๊งไม่เป็นท่า
ชายหนุ่มบ่นแล้วขยับคอเสื้อเชิ้ตยี่ห้อหรูเบาๆ เพื่อให้มันมีลม พัดผ่านเข้าออกคลายความร้อนระอุจนเหงื่อกาฬแตกพลั่กๆ อยู่ ในตอนนี้
“แล้วนิยายใบไม้แห้งหายหัวไปไหนวะ หรือแกล้งให้เรารอ
โรมิโอหงุดหงิดเมื่อต้องนั่งรอใครสักคนมากกว่า 10 นาที สำหรับเขารอแค่สามนาทีก็ถือว่านานเกินไปแล้ว หากไม่เพราะ มารดาบังคับขู่เข็ญมารับยายใบไม้แห้งคู่หมั้นจำเป็นของเขาละก็ ไม่มีทางที่โรมิโอจะนั่งรอใครนานขนาดนี้
“ร้อนชะมัด อยู่กันไปได้ยังไงวะห้องก็เล็กเท่ารูหนูร้อนก็ร้อน น้ำดื่มเย็นๆ สักขวดก็ไม่มี” บ่นไปอย่างหงุดหงิดแล้วชายหนุ่มก็ พลันนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวที่จะมาเป็นคู่หมั้นของตนไม่ได้ และแอบเข่นเขี้ยวกับตัวเองที่ไม่ทันนึกว่าเจ้าหล่อนคือคนเดียวกับยายทอมบอยจอมซ่าที่แข่งขี่ม้ากับเขาเมื่อเกือบสองปีก่อน
ตอนนั้นเขาเองก็เห็นหน้าเจ้าหล่อนไม่ชัดนักหรอกแต่ก็จํา ดวงตากลมโตนั้นได้ดี ตอนแรกคิดว่าเรือใบไม้นี่เป็นชื่อเล่น เพราะได้ยินบางคนเรียกเธอว่าเรือใบ ตอนนั้นเขาไม่ใส่ใจนัก เพราะกำลังรู้สึกเสียหน้าเลยรีบกลับ
ชายหนุ่มนึกถึงภาพจากภาพถ่ายที่เขาได้มาจากมารดาก็เห็น เด็กสาวคนหนึ่งกับทรงผมซอยสั้นรูปร่างผอมบาง คาดเดาอายุ ของเธอคงจะประมาณเริ่มแตกเนื้อสาวประมาณสิบห้าสิบหกพอ โตขึ้น ใบหน้าที่เปลี่ยนไปจากรูปร่างผอมผิวคล้ำไปสักนิดกับทรง ผมน่าเกลียด ซึ่งค่อนข้างต่างจากตอนที่เขาเจอเธอ ในสนามแข่ง มาก เพราะตอนนั้นเขาจำได้ว่าเจ้าหล่อนมีผิวสีน้ำผึ้งลอมทอง หรืออาจจะเรียกได้ว่าเธอมีผิวสีน้ำตาลทองสว่างนวลเนียนแบบที่ ผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาเคยควงอยากมีและพยายามจะมีผิวสี แบบนี้ แต่ให้ตายสิ.. ทำไมเขาจะต้องจำได้ด้วยนะว่าเจ้าหล่อนมี ผิวสีนี้ทั้งที่เขาเห็นเธอจากภาพถ่ายเพียงภาพเดียวเท่านั้น และได้ พบเอเพียงครั้งเดียวเช่นกัน แต่จะว่าไปในภาพเรือใบไม้ก็ไม่ได้ ตัวอย่างที่เขาค่อนขอดเลยสักนิด อีกทั้งเขายังจำได้ด้วย ใบหน้าเรียวรูปไข่ที่ประกอบด้วยดวงตากลมโตที่มีแววถือดีซื้อ รั้นนั้นวาววับเจิดจ้า และจมูกเรียวเชิดกั้นและริมฝีปากอิ่มที่ เหมือนจะอิ่มอ้อยและกว้างเกินไป แต่เวลายิ้มรอยยิ้มของเธอก็ ทำให้โลกสดใสขึ้นมาทันที เพราะเรียวปากอิ่มเต็มแย้มกว้าง อวดไรฟันขาวสะอาดเรียวตัวสวยงามน่ามองอย่างเป็น ธรรมชาติ ตัวเธอสูงประมาณเลยไหล่เขามาเล็กน้อยโปร่งบางแต่ดูระเหิดระหง…
แล้วทำไมเขาจะต้องจดจำรายละเอียดของแม่ใบไม้แห้งนั่นได้ มากขนาดนี้ด้วยวะ, โรมิโอถามตัวอย่างอย่างหงุดหงิดแล้ว ดวงตาคมก็เบิกกว้างขึ้น…
“ยายเด็กบ้าเอ๊ย หลอกด่าฉันนี่หว่า ”
และเมื่อถึงตอนนี้โรมิโอถึงได้รู้ว่าเขาได้พบกับเรือใบไม้แล้ว ตั้งแต่เหยียบย่างมาที่นี่ ก็ไอ้เด็กเลี้ยงม้าที่หลอกด่าเขานั่นล่ะ…
“แสบจริงๆ นะยายใบไม้แห้ง ที่ คอยดูเถอะจะเอาคืนให้สาม สมเลย”
โรมิโอกระแทกตัวนั่งลงที่โซฟาตัวเก่าอย่างไม่สบอารมณ์ พลางยกข้อมือดูเวลา นาฬิกาเรือนหรูราคาหายสิบล้านบอกว่า เขานั่งรอขายใบไม้แห้งมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว…
“รอไม่ไหวแล้วโว้ย” โรมิโอลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไปแต่ประตู ก็เปิดออกพร้อมกับใบหน้าคล้ำของชายวัยกลางคนคนหนึ่งโผล่ เข้ามา
“หวัดดีครับ คุณโรมใช่รึเปล่า”
“ใช่.. มีอะไร” โรมิโอเสียงแข็ง
“คุณหนูใบไม้ให้ไปพบที่ห้องรับรองครับ” ชายคนนั้นบอกแล้ว ยิ้มแห้งๆ ให้ โรมิโอหน้าตึงเดินอาดๆ ไปหาเขาทันที
“ว่าไงนะ”
“คุณหนูรอคุณโรมอยู่ในห้องรับรองตั้งนานแล้วครับไม่เห็น คุณไปที่นั่นสักทีผมก็เลยมาตาม
“แล้วทำไมไอ้เด็กเวรนั่นถึงให้ฉันมานั่งอุดอูร้อนตับแทบแตก อยู่ที่นี่ตั้งนานสองนาน..” โรมิโอหมายถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่บอก ให้เขามารอเรือใบไม้ที่นี่
“อ้อ.. เอ่อ ผมต้องขอโทษแทนไอ้เก่งมันด้วยนะครับ มันคง เข้าใจผิด”
“เข้าใจผิดเหรอ เข้าใจผิดบ้าอะไร คอยดูเถอะเจอหน้าพ่อจะ
เตะให้คว่ำเลย”
“คุณโรมอย่าเตะมันเลยครับ มันคงไม่รู้จริงๆ
“ลุงออกรับแทนมันทำไมเนี่ย
“ก็มันเป็นลูกชายผมนี่ครับ เดี๋ยวผมจะไปสั่งสอนมันเองครับ เชิญคุณไปพบคุณหนูดีกว่าครับ ทางนี้เลยครับ”
ลุงก้าน ผู้ซึ่งอยู่ที่ฟาร์มมิลเลอร์มานานหลายสิบปีบอกโรมิโอ อย่างนอบน้อมแล้วรีบเดินนำเขาไปพบเรือใบไม้ทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ