บทที่ 14 มีเรื่องแล้ว
บทที่ 14 มีเรื่องแล้ว
เขาพูดอย่างคลุมเครือ สายตาก็จงใจยั่วเธอ แต่เธอก็ยัง นิ่ง “หมายความว่ายังไง
เขายิ้มเยาะแล้วกระซิปที่หูของเธอด้วยเสียงเข้ม “ฉันก็ หมายความว่า ฉันสนใจเธอนะสิ”
“เมื่อเห็นท่าทางที่เธอไม่เข้าใจ เขาก็พูดกับเธออย่างนุ่ม นวล ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงบอกไปตรงแล้ว ว่าเขาอยากขึ้นเตียงกับเธอ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อที่ ทําให้อยากครอบครองเธอและอยากเล่นเกมส์กับเธอ
แม้เขาจะไม่ได้พูดตรงๆแต่ก็ทำให้เสิ่นเสี่ยวซีหน้าแดงไป
หมด
กู้หมิงจวิ้นที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ไม่ได้ยินเลยว่าที่ เฉิงซือหมินกำลังพูดเรื่องอะไรกับเขา ตอนนี้เขาโมโหจน แทบบ้าอยู่แล้ว เสิ่นเสี่ยวซีเธอแน่มาก เรายังไม่ได้หย่า กันด้วยซ้ำ เธอยังกล้าคุยกับผู้ชายอื่นต่อหน้าเขา แถมยัง เป็นไปในทางชู้สาวอีกด้วย
กู้หมิงจวิ้นได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ เขาบีบแก้วแน่น พยายามฝืนยิ้ม ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเสิ่นเสี่ยวซืแล้วนั่งลงข้างเธอเอามือโอบไหล่ของเธอดึงเธอเข้าหา ตัวอย่างต้องการแสดงความเจ้าของ เขาฉีกยิ้มแล้วถาม ว่า “ที่รัก คุณจะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอ”
“ภรรยา”
เสิ่นเสี่ยวซีมองไปที่กู้หมิงจนอย่างประหลาดใจ นี่เป็น ครั้งแรกที่เขาเรียกเธอว่าภรรยาต่อหน้าคนอื่น
ใบหน้าบึ้งตึงของเขาทำให้เธอสังหรณ์ว่าจะมีเรื่อง
หยิ่นหานขมวดคิ้ว มองหน้าเสิ่นเสี่ยวซีอย่างสงสัย เขา ยิ้มแล้วก็รอคำตอบจากเสิ่นเสี่ยวซี
เสิ่นเสี่ยวซีเอามือของกุ้หมิงจวิ้นออก แต่เขาก็เปลี่ยน เป็นกอดเอวเธอแทน เสี่ยวซีไม่รู้จะทำตัวอย่างไร เธอพูด เบาๆว่า”กู้หมิงจวิ้นคุณจะทำอะไร”
เขาหัวเราะอย่างโหดเหี้ยว ทำให้ทุกคนกลัว “ที่รัก ไหน เธอบอกว่าเธอไม่สบายไง ฉันว่าเรากลับกันก่อนดีกว่า คุณเฉิงคงไม่มีปัญหาอะไรนะครับ”
พูดแล้วเขาก็สบตาไปที่เฉิงซือหมินอย่างจงใจ
เฉิงซือหมินคิดได้ ก็รีบพนักงานอย่างตกลง “แน่นอนครับ ไม่ค่อยสบายก็ควรที่จะรีบไปพัก
เสี่ยวซีขมวดคิ้ว “ฉันไม่ได้ไม่…”
“ดูสิ คุณเฉิงพูดแล้ว ที่รัก เรากลับบ้านกันเถอะ”
เขารับขัดจังหวะเธอ คำว่า”กลับบ้าน”สองคำนี้กู้หญิงจ วิ้นเน้นมาก ทำให้เสิ่นเสี่ยวซีมีความรู้สึกว่าไม่อยากจะรีบ กลับไป แต่เธอใช่คู่ต่อสู้ของเขา มือเขาก็อยู่ที่เอวของเธอ เขาดึงเธอเดินออกไปจากห้องแล้ว
เมื่อออกจากห้องมา
สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เขาเปลี่ยนมาจับข้อมือเธอ เดินก้าวอย่างเร็วเดินออกไป จากร้าน เธอมองไม่เห็นว่าตอนนี้เขามีท่าทีอย่างไร แต่ เขาบีบข้อมือเธอแน่นทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังโมโห
เพราะเธอไม่ยอมพูดว่าเธอภรรยาของเขา
สุดท้ายเขาก็ปล่อยมือเธอ พูดเสียงเย็นว่า “ขึ้นรถ”
ใบหน้าของเขาน่ากลัวเป็นพิเศษ เขาขับรถด้วยความเร็ว สูง เสี่ยวซีที่นั่งอยู่ข้างๆมองตรงไปยังถนนข้างหน้าใจเต้นระรัว
รถจอดที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ไม่ได้กลับบ้าน
กู้หมิงจวิ้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แค่เห็นเธอใกล้ชิ
ดกับหยื่นหาน เขาก็ใจคอไม่ดีหายใจไม่ทั่วท้อง เสี่ยว ทบที่หน้าอกเพื่อคลายอาการตกใจ เขาไม่รอเธอ
ถาม ก็ได้ยินเขาออกคำสั่งกับเธอ “พรุ่งนี้ไปลาออกซะ”
เธอไม่เข้าใจ “เพราะอะไร
ตอนนี้หางานสักงานคิดว่ามันง่ายเหรอ
เขามองดูเธอด้วยสายตาอึ้งๆ”เสิ่นเสี่ยวซี เธออยากทำ งานจริงๆหรือว่าอยากจะแค่ใช้ข้ออ้างว่าทำงานไปยั่ว ผู้ชาย”
เห็นเธอกับหยิ่นหานคุยหยอกล้อกระซิปกระซาบกัน กู้ห มิงจวิ้นก็แทบจะทนไม่ได้
เขาเพิ่งจะรู้ว่า เขายังไม่มีวิธีที่จะได้เธอเลย
“กู้หมิงจวิ้น ฉันว่าคุณพูดเกินไปหน่อยแล้ว ยั่วผู้ชายเหรอ คุณเองก็มีผู้หญิงตั้งเท่าไหร่ข้านนอกนั่น”
เสียวสีน้ำตาคลอเบ้า เป็นครั้งแรกที่เธอพูดออกมาตรงๆ ถึงเรื่องนี้
เขาขมวดคิ้ว มองดูเธออีกครั้ง น้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ก็ไป สะกิดใจเขา
“เธอทำหน้าที่สามีที่ดีไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกร้องอะไร ยัง ไงซะเราก็กำลังจะหย่ากัน เรื่องของคุณฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง เรื่องของฉันคุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเหมือนกัน”
เธอโมโหแล้วก็เปิดประตูจะหนีไป แต่เธอถูกดึงไหล่ ไว้ แล้วสองมือก็จับลงที่ท้ายทอย ไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็ ประกบริมฝีปากลงมา
“อูอว์
เสี่ยวซีขมวดคิ้วอยากจะขัดขืนแต่เธอก็ไม่มีแรง
เขายกตัวขึ้นมากดเธอไว้ที่ข้างรถ จูบของเขาไม่อ่อน โยนเลยสักนิด เป็นจูบที่เหมือนกับต้องการจะลงโทษเธอ เหมือนจะกัดลิ้นเธอ
จูบที่ช่างกระโชกโฮกฮาก ทำให้เธอปวดใจ
ทำไมผู้ชายเอาแต่ใจแบบนี้ตัวเองทำได้แต่คนอื่นทำไม่
ได้
เขาเอาอะไรมาคิดว่าเธอไปยั่วผู้ชาย
เธอร้องไห้ทำให้เขาสำนึกได้อยู่ไม่น้อย เขาโมโหจนมอง ไม่เห็นว่าเธอกำลังร้องไห้ เขาก็หยุด
เธอมองไปในนัยน์ตาเขาอย่างกล้าหาญ มากไปกว่านั้น คือความเฉยชา
ใจที่มันด้านชา
“เราหย่ากันเถอะ” เธอพูดอย่างเบาๆแต่ใจของกู้หมิงจ นกลับรู้สึกปั่นป่วนมาก
คืนนี้ กู้หมิงจวิ้นไม่ได้กลับบ้าน
ที่น่าประหลาดคืออานนี่ก็ไม่อยู่ที่บ้าน
ตอนที่เธอเรียกรถกลับบ้านถึงได้เห็นข้อความที่ถูกส่งมา [พี่คะ เพื่อนฉันชวนฉันไปเที่ยวปารีส ไม่กี่วันก็กลับ]
เธอทําอะไรไม่ถูก ยัยคนนี้ ช่างหมีเรื่องจริงๆ…
ชายหนุ่มไม่กลับบ้านทั้งคืนไม่รู้ว่าไปไหน คงจะไปอยู่กับ คนรัก
เสี่ยวซีรู้สึกเจ็บปวด นอนไม่หลับทั้งคืน เกือบสว่างถึง ได้รู้สึกง่วง แต่ว่าเสียงโทรศัพท์ก็สั่นซะจนเธอตื่นขึ้นมา อยากจะเอาหัวโขกกำแพง
เธอยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์มาแนบหู พูดอย่างขี้เกียจว่า
“คุณคือญาติของคุณกู้หมิงจวิ้นใช่ไหมคะ ที่นี่คือโรง พยาบาลหรินมิน คนไข้ขับรถชนตอนเช้าเมื่อวาน ขอเชิญ ให้คุณรีบมาด่วนเลยค่ะ”
“ว่ายังไงนะคะ” ตอนนี้เธอไม่ง่วงสักนิด มีสติสัมปชัญญะ อย่างครบถ้วน
“รถชน”
“รถชนได้อย่างไร
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ