ตะวันพ่ายจันทร์ ซีรีส์ชุดเมีย

๒.๑ พระจันทร์ไร้แสง



๒.๑ พระจันทร์ไร้แสง

พระจันทร์ไร้แสง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยากเห็นหน้าสวยๆ ของพี่สาว หรืออยาก เห็นหน้าหวานปนเศร้าของคนเป็นน้องกันแน่ รังสิมันต์จึงได้พา ตัวเองมาบ้านหลังนี้อยู่บ่อยครั้ง เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วนับ ตั้งแต่วันที่เขามาตามหาเจ้าเมสซี่ เขาก็มักจะพาตัวเองมาที่นี่ เป็นประจำ แต่ไม่ว่าเจตนาของเขาจะมาเพื่อต้องการเห็นหน้า ใครก็ตาม เหตุการณ์มันก็ดูเหมือนว่าจะมีคนเลือกให้เขาแล้ว ว่า ต้องเห็นหน้าใคร เพราะทุกครั้งที่มาบ้านหลังนี้ คนที่เขาเจอเป็น ประจำคือศศิประภา ซึ่งคอยต้อนรับขับสู้และชวนคุยอย่างสนิท สนม ส่วนจันทริกานั้นเขาแทบจะไม่เคยเห็นเธอเลยด้วยซ้ำ

รังสิมันต์เคยเจอพ่อกับแม่ของทั้งคู่ ซึ่งคุณเมธาและคุณสิริ มาก็ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน แน่ละ…เขาเชื่อว่าต่อ ให้เขาเดินเข้าบ้านหลังไหน ก็คงไม่มีใครรังเกียจหรือไม่ต้อนรับ ในเมื่อเขาออกจะเพียบพร้อมซะขนาดนี้ แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคย คิดจะทำตัวอวดรวยกับเพื่อนบ้านที่ดีแต่อย่างใด จะมีบ้างที่ แสดงน้ำใจ ด้วยการซื้อของฝากติดไม้ติดมือมาให้

วันนี้ก็เช่นเคย เขามาพร้อมกับถุงของฝากสองถุง ถุงหนึ่งซื้อ มาให้ทั้งครอบครัว แต่อีกถุงตั้งใจจะให้จันทริกาโดยเฉพาะ คิด เอาไว้ว่าถึงจะไม่ได้เจอตัว แต่ได้ฝากขนมให้กินก็ยังดี
“ทําไมช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เจอจันทร์เลยล่ะครับ น้องเค้าไป ไหนเสียล่ะ” รังสิมันต์ถามกับศศิประภาที่ตอนนี้ยังอยู่ในชุด ฟอร์มของโชว์รูมรถยี่ห้อดัง ซึ่งชุดนั้นเป็นชุดเดรสกระโปรงสั้น ทำให้คนใส่ได้มีโอกาสอวดเรียวขาและหุ่นอันสมส่วนอย่าง มั่นใจ

“ช่วงนี้ยัยจันทร์มีสอบน่ะค่ะ ศศิก็เลยให้อ่านหนังสืออย่าง เดียว พวกงานบ้านต่างๆ ศศิกทำแทนหมด”

“ศศินี่ใจดีกับน้องจริงๆ เลยนะครับ”

“ทำไงได้ล่ะคะ ถึงแม้ว่าศศิกับจันทร์จะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่ก็โตมาด้วยกัน ศศิเลยอดไม่ได้ที่จะรักจันทร์เหมือนน้องสาว แท้ๆ”

“ศศิกับจันทร์ไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆ กันเหรอครับ”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ยัยจันทร์เป็นลูกของลุงเมธาส่วนศรีเป็นลูก แม่นะค่ะ”

นั่นเป็นเรื่องใหม่ที่รังสิมันต์เพิ่งได้รู้ ตอนแรกเขาไม่เคยนึก แคลงใจเลย เพราะทั้งจันทริกาและศศิประภาต่างก็สวยชวนมอง ไปคนละแบบ จนเขาคิดว่าเป็นลูกพ่อแม่เดียวกันเสียอีก แต่ ความเศร้าในดวงตาคู่นั้นของจันทริกาเกิดจากอะไรล่ะ ในเมื่อพี่ สาวต่างบิดามารดาที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกันก็ดูรักเธอดี

ขณะที่ความคิดกำลังว้าวุ่น สายตาพลันเหลือบไปเห็นคนที่ตัว เองกำลังคิดถึง และปากก็เร็วกว่าสมอง รีบเอ่ยเรียกชื่อเจ้า ตัวอย่างไม่ลังเลแม้แต่วินาที
“จันทร์…”

แม้นั่นจะเป็นการเรียกเพียงครั้งเดียว แต่น้ำเสียงก็หนักแน่น และดังกังวาน จนคนเป็นเจ้าของชื่อที่กำลังจะเดินออกจากครัว เพื่อหลบเข้าห้องตัวเองต้องหันมา

“มาหาพี่หน่อยสิ พี่ซื้อขนมมาฝาก

จันทริกาเหมือนจะหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง หากสุดท้ายก็เดินมา ตามเสียงเรียก และหยุดอยู่ตรงหน้าพี่ชายใจดี ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ เขามาตามหาแมว เธอก็ถูกศศิประภาและสิริมาสั่งห้ามไม่ให้ ปรากฏตัว ซึ่งเช่นเคยพ่อของเธอก็ไม่มีปากมีเสียงหรือเอ่ยคัด ค้านใดๆ

“พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ

“พี่ซื้อขนมมาฝากนะ เห็นว่าช่วงนี้เราอ่านหนังสือหนักเหรอ” รังสิมันต์เอ่ยถามพลางยื่นถุงขนมที่ตัวเองตั้งใจเอามาฝากให้กับ เด็กดีของเขา

“ค่ะ”

“งั้นก็สู้ๆ นะพี่เป็นกำลังใจให้

“ขอบคุณค่ะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาเบาๆ ขณะยื่นมือไปรับ ถุงขนมจาก คุยกับแม่ ‘พี่ตะวัน’ ซึ่งเธอแอบรู้ชื่อเขาเพราะได้ยินศศิประภา

“ได้แล้วก็ไปอ่านหนังสือสอบต่อซะยัยจันทร์ จะอยู่กวนใจคุณตะวันทําไม”
เสียงของศศิประภาดังขึ้น ทำลายบรรยากาศการพูดคุย ระหว่างคนสองคนที่เพิ่งจะได้เจอกัน จันทริกาจึงแค่ยิ้มบางๆ แล้ว หมุนตัวกลับห้องตัวเองอย่างที่ตั้งใจเอาไว้

เย็นนั้นรังสิมันต์ทานอาหารเย็นที่บ้านตามคำเชิญของ เจ้าของบ้าน โดยจันทริกาถูกศศิประภาสั่งห้ามไม่ให้ออกไปร่วม โต๊ะ เธอจึงได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้อง พยายามจะไม่คิดมาก พร้อม กับบอกตัวเองว่าชิ้นเสียแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็อดน้อยใจไม่ ได้ที่ตัวเองถูกกีดกันอย่างคนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงใดๆ และพ่อก็ ยอมให้เธอถูกกระทำเช่นเคย

เป็นอีกครั้งที่จันทริกาคิดถึงแม่เหลือเกิน แม่ตั้งชื่อให้เธอว่าฉัน ทริกา ซึ่งมีความหมายว่า…แสงจันทร์ แม่คงอยากให้ชีวิตของ เธอมีแต่ความงดงามประดุจดวงจันทร์ที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า แต่ แสงของพระจันทร์ดวงนี้ช่างริบหรี่เหลือเกิน ไม่เหมือนกับแสง ของตะวันซึ่งทอรัศมีเจิดจ้าเฉิดฉาย ที่แม้แต่พระจันทร์อับแสงเช่น เธอ ความอบอุ่นนั้นก็ยังแผ่ซ่านมาถึง

มือเล็กเอื้อมไปหยิบกล่องขนมซึ่งวางอยู่บนโต๊ะตรงหน้า มอง มันด้วยความซาบซึ้งใจอีกครั้ง ก่อนจะเปิดฝาออกเพื่อกินประทัง ความหิว ในระหว่างรอให้คนที่ซื้อมันมากลับบ้านไป

แครกเกอร์ธัญพืชชนขนาดเท่าเหรียญสิบบาท ถูกหยิบออกมา จากกล่องพลาสติกรูปทรงสวยงามเป็นชิ้นแรก จันทริกาตั้งใจว่า หลังจากขนมในกล่องนี้หมด เธอก็จะเก็บกล่องสวยๆ นี้ไว้อย่างดี เพื่อระลึกถึงความใจดีของพี่ตะวันที่มีให้กับเธอตั้งแต่วันแรกที่ได้ พบกัน ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้ส่งขนมชิ้นแรกนั้นเข้าปาก ประตูห้องก็ถูกศศิประภาผลักเข้ามา โดยไม่ได้เคาะตามมารยาทอัน ควร พอจันทริกาหันไปมองก็ถูกอีกฝ่ายตวาดใส่เสียงดัง

“นั่นแกจะทำอะไรนังจันทร์

“จันทร์กำลังจะกินขนมค่ะ”

“เอามานี่!”

ไม่พูดเปล่า แต่ศศิประภายังปราดมาแย่งกล่องขนมไปจากมือ ของจันทริกา ทำให้จันทริกามองอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมศ ประภาจะต้องไม่พอใจ

“คุณตะวันเป็นของฉัน ของทุกอย่างของเขาก็เป็นสิทธิ์ของฉัน แกอย่าสะเออะ” ศศิประภาประกาศลั่น ทำให้จันทริการู้ทันทีว่า รังสิมันต์คงกลับไปแล้ว ศศิประภาถึงได้กล้าแผดเสียงแว้ดๆ เช่น นี้ใส่เธอ

“จันทร์ไม่ได้สะเออะ แต่ขนมนี่พี่ตะวันซื้อมาฝากจันทร์ คืนให้ จันทร์เถอะนะคะ”

“อยากได้นักใช่ไหม ได้…ฉันจะคืนให้

จันทริกากำลังจะยิ้มที่ได้ขนมกล่องนั้นคืน แต่เพียงแค่เสี้ยว วินาทีต่อมาตาคู่สวยก็เบิกกว้าง เมื่อเห็นศศิประภาเทขนมใน กล่องทั้งหมดลงพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบย่ำ จนแครกเกอร์พวกนั้น แตกละเอียดเช่นเดียวกับความรู้สึกของจันทริกา
“อยากได้ก็เก็บเอาเองก็แล้วกัน” ศศิประภากไหล่และเบ้ปาก อย่างสะใจ ก่อนจะทิ้งกล่องที่จันทริกาตั้งใจว่าจะเก็บรักษาไว้ อย่างดีลงพื้น แล้วเดินสะบัดตูดออกจากห้องไป โดยไม่คิดจะ สนใจว่าจันทริกาจะเสียใจมากแค่ไหน

ร่างบางทรุดตัวลงกับพื้น ค่อยๆ กวาดเศษแครกเกอร์นั้นมาก องรวมกันด้วยความอาดูร เธอไม่ได้ชิมด้วยซ้ำว่ารสชาติของ ขนมที่รังสิมันต์ซื้อมาฝากเป็นอย่างไร ขนมซึ่งถูกเหยียบย่ำจน แหลกละเอียดแล้วพวกนี้ มันคงกลายเป็นอาหารของมดตัวเล็กๆ แทน ทว่าอย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ศศิประภายังทิ้งกล่องขนมนี้ไว้ ให้ มือบางเอื้อมไปหยิบกล่องนั้นมาแนบอก พลางรำพึงขึ้นเบาๆ ด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อนึกถึงน้ำใจของคนที่อุตส่าห์เอามาฝาก หากเธอกลับไม่สามารถจะรักษาน้ำใจของเขาเอาไว้ได้

“จันทร์ขอโทษนะคะพี่ตะวัน…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ