ตะวันพ่ายจันทร์ ซีรีส์ชุดเมีย

๑.๑ คนที่(ไม่) ใช่



๑.๑ คนที่(ไม่) ใช่

คนที่(ไม่) ใช่

“พี่คะๆ พี่ทำกระเป๋าเงินหล่นค่ะ”

เสียงหวานใสที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้ร่างสูงซึ่งเพิ่งกด วางสายโทรศัพท์หยุดชะงักอย่างเป็นอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่า เสียงเสียงนั้นกำลังเอ่ยเรียกใคร ทว่าความกังวานหวานใสนั้น กลับสามารถสะกดเขาให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ไปชั่วขณะ ก่อนจะ ค่อยๆ หันมามอง เพราะภายในใจร้องบอกและอยากรู้เหลือเกิน ว่าหน้าตาเจ้าของเสียงอันแสนไพเราะนั้นเป็นอย่างไร

และคำตอบที่ได้รับก็ทำให้หัวใจของรังสิมันต์เกิดอาการ กระตุกอย่างไร้เหตุผล ภาพเด็กสาวรูปร่างเพรียวระหงที่มัดผม หางม้าเป็นพวงไว้ด้านหลัง อวดใบหน้ารูปไข่อันหวานสมตัว จน เขาอดไม่ได้ที่จะต้องสำรวจมองทุกรายละเอียดบนใบหน้านั้น อย่างไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน

‘เธอ’ อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย บนหน้าอกปักอักษรย่อ ชื่อโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเชียงใหม่ ผิวหน้าใสละมุนเหมือนผิวเด็ก ไร้เครื่องสําอางใดๆ ปกปิดความงดงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้รังสิ มันต์พอใจไม่น้อย คิ้วเรียวได้รูปรับกับดวงตาที่สวยดั่งนางกวาง สาว ตาคู่นั้นเปล่งประกายแต่เจือไว้ด้วยความเศร้าบางอย่างที่ ชวนให้อยากค้นหา จมูกโด่งรับกับเครื่องหน้า และสิ่งที่ทำให้จังหวะการหายใจของเขาผิดปกติ เช่นเดียวกับจังหวะการเต้น ของหัวใจเมื่อครู่นี้ก็คือ ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อแบบ ธรรมชาติให้มา มันทำให้เขาเกิดคำถามในใจว่า เคยมีผู้ชายคน ไหนประทับรอยจูบลงบนปากสวยๆ นั้นหรือยัง และถ้าหากว่า ปากของเขาได้ประกบลงไปบ้างล่ะ มันจะให้ความรู้สึกเช่นไร

“กระเป๋าของพี่ค่ะ”

เสียงหวานใสดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมือเรียวบางยนกระเป๋า หนังสีดำแบบบุรุษมาให้ตรงหน้า ทำให้รังสิมันต์หลุดจากภวังค์ ความคิดของตัวเอง ตาคมกะพริบถี่ๆ และละจากดวงหน้าใส หวานเป็นครั้งแรก เพื่อก้มลงมองว่ามันใช้กระเป๋าสตางค์ของเขา จริงๆ หรือไม่

“ขอบคุณครับ” รังสิมันต์เอ่ยขึ้นและยื่นมือไปรับเมื่อเห็นว่า กระเป๋าอันคุ้นตาใบนั้นเป็นของตน เขาคงทำมันหล่นตอนล้วง เอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง

เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แค่พยักหน้าน้อยๆ แล้ว ทำท่าว่าจะเดินหนีไป ทำให้รังสิมันต์ต้องรีบเรียกไว้ทันที

“เดี๋ยวก่อนครับน้อง”

“คะ? พี่มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ”

รังสิมันต์ไม่ตอบในทันที แต่เปิดกระเป๋าแล้วหยิบเอาธนบัตร ฉบับละพันออกมาห้าใบ ก่อนจะยื่นสิ่งที่ใครๆ ก็เรียกว่าเงินให้ กับเด็กสาว เพื่อเป็นรางวัลตอบแทนน้ำใจความเป็นเด็กดีของ เธอ
“พี่ให้รับไป”

“หนูไม่รับหรอกค่ะ หนูแค่เห็นว่าพี่ทำกระเป๋าเงินหล่นก็เลยเอา มาคืนพี่” เด็กสาวปฏิเสธพร้อมกับส่ายหน้า

“แต่พี่อยากให้รางวัลกับเด็ก”

“หนูไม่ได้ทำอะไรมากถึงขนาดจะต้องได้รางวัลขนาดนี้ เงิน ตั้งหลายบาท พี่เก็บไว้เถอะค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ

ว่าแล้วเด็กผู้หญิงในชุดมัธยมปลายก็เดินจากไปพร้อมกับดึง สายตาของรังสิมันต์ให้มองตามไปด้วย จนกระทั่งเห็นว่าเธอเดิน เข้าไปในร้านเค้กแห่งหนึ่ง

เท้าของเจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นก้าวตามไปอย่างเป็น อัตโนมัติ เธอไม่รับเงินจากเขา อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้ตอบแทน น้ำใจอันงดงามของเธอเป็นอย่างอื่นบ้างนะ แม่เด็กน้อยผู้น่ารัก ของฉัน

ไฟร้านเบเกอรี่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเชียงใหม่ ถูก ประดับด้วยสีส้มนวลตาผิดกับบรรยากาศภายนอกร้านซึ่งสว่าง จ้าด้วยแสงของดวงไฟสีขาว เค้กมากมายหลายแบบวางเรียง รายกันอยู่ในตู้กระจกใส เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างละลาน ตา จันทริกากวาดมองความสวยงามของเค้กก้อนนั้นก้อนนี้อยู่ชั่ว ขณะ ก่อนจะบอกพนักงานร้านหยิบก้อนที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นแล้วให้ ชิ้นหนึ่ง

“ทำไมไม่เอาใหญ่ๆ กว่านี้ล่ะ”
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับเจ้าของร่างสูงซึ่งเพิ่งได้เจอกันเมื่อครู่นี้ ทําให้จันทริกาเกิดอาการสะดุ้งเล็กน้อย ไม่เชิงว่าตกใจแต่แปลก ใจมากกว่าที่เห็นว่าเป็นเขา

“พี่” เสียงหวานเอ่ยเรียกสั้นๆ เพราะไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้า มีชื่อว่าอะไร

เลือกสิ อยากได้กี่ปอนด์ก็ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ซื้อให้” รังสิ มันบอกอย่างใจดี แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขากำลังเริ่มสวม วิญญาณป่าสายเปย์กับเด็กคนนี้ต่างหาก เธอจะรู้ไหมนะหนูน้อย ว่าต่อให้เธอเหมาเค้กทั้งร้าน เขาก็จ่ายได้ โดยไม่แม้แต่จะ กระเทือนยอดเงินในบัญชีธนาคารของเขาด้วย

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเอาชิ้นนี้ชิ้นเดียวก็พอ หนูกินคนเดียวน่ะค่ะ” จันทริกาปฏิเสธเช่นเดิมและอธิบายถึงเหตุผลที่เลือกเค้กชิ้นตัด แบ่งนั้น

“ให้พี่จ่ายให้นะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูจ่ายเองได้”

“เถอะน่า ถือว่าเป็นการตอบแทนที่เราเก็บกระเป๋าตังค์คืนให้พี่ เมื่อกี้พี่ให้เงินเราก็ไม่รับ คราวนี้พี่ขอเลี้ยงเค้กก็แล้วกัน”

“งั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เสียงใสๆ กล่าวขอบคุณ พร้อมทั้งยกมือไหว้อย่างน่ารัก น่าเอารังสิมันต์รับไหว้แทบไม่ทัน คาสโนวาผู้มีประสบการณ์ของรีบควบคุมอาการเงอะงะของ ตัวเองให้สงบ ก่อนจะพาเธอขยับไปยังหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจ่าย เงินค่าเค้กชิ้นเท่าขี้ตาแมวในความคิดของเขา
จันทริกาส่งเค้กชิ้นนั้นให้กับพนักงานเพื่อใส่ถุงหิ้ว ส่วนรังสิมัน ทําหน้าที่เป็นคนจ่ายเงิน เธอยืนรอเงียบๆ ขณะที่อีกคนใช้ช่วง เวลาสั้นๆ นั้นมองมายังเด็กสาวที่ยืนข้างๆ ราวกับจะประทับภาพ เธอเอาไว้ในใจให้ได้มากที่สุด

“ได้แล้วค่ะ พนักงานร้านเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นถุงเค้กและเงิน ทอนมาให้

เด็กมัธยมปลายรับเค้ก หากแต่เจ้าของห้างกลับไม่ยอมรับเงิน ทอน เขาบอกให้พนักงานเก็บไว้เป็นทิป ทำให้จันทริกาเงยหน้า ขึ้นมองผู้ชายตรงหน้า ด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความประทับใจ และซาบซึ้งใจ นอกจากเขาจะมีน้ำใจกับเธอแล้ว เขายังมีน้ำใจ กับพนักงานร้าน ซึ่งเธอรู้ดีว่าคนทำงานระดับแบบนี้ต้องเหนื่อย แค่ไหนกว่าจะได้เงินแต่ละบาท แม้อาจจะไม่เหนื่อยดังเช่น กรรมกรที่ต้องตรากตรำกร่าแดด ท างานบริการไม่มีงานไหนที่ สบายหรอก

“ขอบคุณพี่อีกครั้งนะคะ นี่เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกในปีนี้ ของหนูเลย” จันทริกาบอกเสียงสั่น เช่นเดียวกับแววตาที่เจือ ความเศร้าเอาไว้นิดๆ แต่ก็เพียงแวบเดียวเธอก็คลี่ยิ้มให้เขาเห็น เป็นครั้งแรก

“วันนี้วันเกิดเราเหรอ”

“ค่ะ…หนูต้องไปแล้วนะคะ ขอบคุณพี่จริงๆ พี่ใจดีมากค่ะ”

จันทรกายกมือขึ้นไหว้ผู้ชายที่รูปร่างสูงเกือบหกฟุตนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากร้านเค้ก รังสิมันต์รีบขยับตามออกมาติดๆอยากจะเดินตามไปอีกแต่ก็ทำได้แค่ยืนมอง จนกระทั่งเขาเห็นว่า เธอเดินผ่านประตูหน้าห้างออกไปแล้ว เขาจึงได้รำพึงกับตัวเอง ในใจ

เด็กอะไรวะน่ารักชะมัด หน้าสวย ยิ้มหวาน ฟันก็ขาวเป็น ระเบียบราวกับเม็ดไข่มุก ปากนิดจมูกหน่อยรับกันลงตัวไปหมด โดยเฉพาะปากสีชมพูอิ่มเอิบอย่างคนสุขภาพดีกับแก้มใสๆ นั้น มันชวนให้คิดว่า หากเขากดจมูกลงไปสูดเอาความหอมและ รสชาติความละมุนจากผิวขาวๆ นั้น มันจะให้ความรู้สึกที่วิเศษ สักแค่ไหน

คิดบ้าอะไรวะตะวัน! เด็กนั่นอย่างมากก็น่าจะอายุแค่สิบแปด ส่วนเขาปีนี้ก็เกือบจะสามสิบแล้ว อายุห่างกันเป็นรอบได้มั้ง แถม เขายังมีสาวๆ สวยๆ หมวยๆ ขาวๆ เอ็กซ์ๆ อิ่มๆ เข้าแถวมาให้ เลือกเยอะแยะเป็นหางว่าว แต่เสือกคิดอกุศลกับเด็กมัธยม แม่ง! ถ้าไม่เรียกว่า โคตรเลวจะเรียกว่าอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ