พายุรักร้ายในสายลมหนาว

Ep.2



Ep.2

เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เสียงร้องอันไพเราะของนักร้องสาว ก็ตามมา บลิซเซิร์ดยอมรับว่า น้ำเสียงของหล่อนช่างหวาน ไพเราะจับใจเขาจริงๆ และทันทีที่ร่างระหงที่เต็มไปด้วยส่วนโค้ง ส่วนเว้าไร้ที่ติค่อยๆ หันกลับมา ผู้ชายทุกคนก็ต้องน้ำลายสอไป ตามๆ กัน

บลิซเซิร์ดเองก็ตะลึงมองใบหน้าสวยซึ้งตาไม่กะพริบ ชาย หนุ่มไม่คิดเลยว่า เด็กผู้หญิงที่เขาตามหาจะกลายมาเป็น เทพธิดาแสนสวย ในค่ำคืนนี้ หล่อนสวยกว่าในรูปหลายเท่านัก แต่ถึงหล่อนจะน่ากินไปหมดทั้งตัว เขาก็คงจะกระเดือกผู้หญิงชั้น อย่างหล่อนไม่ลงหรอก แต่จะให้ลูกน้องของเขาจัดการแทน

ไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อการแสดงจบลง นักร้องสาวสวยก็เดินลง มาจากเวทีตรงไปหาแขกหนุ่มรูปหล่อที่มาม่าซังบอกว่า เธอต้อง ไปบริการเขาเป็นพิเศษหน่อย

เอมฤทัยเห็นแล้วล่ะว่า หนุ่มลูกครึ่งคนนี้มองดูการแสดงของ เธอด้วยความสนใจ เพราะแทบจะทุกครั้งที่เธอหันมาสบตาคมๆ ของเขา หญิงสาวก็พบว่า เขามองมาทางเธออยู่ก่อนแล้วอย่างไม่ วางตา แต่ทว่าแววตาของเขามันช่างเย็นชานัก และดูเถื่อนๆ จน น่ากลัว แต่เมื่อเป็นคำสั่งของนายจ้างเธอจะปฏิเสธได้อย่างไร

“สวัสดีค่ะ ฉันเอมมี่ค่ะ” ร่างระหงยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อย มองสบตาคนตรงหน้าด้วยอาการสำรวมมากที่สุด แม้ว่าภายในใจเริ่มจะประหม่ากับดวงตาคมกล้าที่มองมาคล้ายจะชื่นชมหรือ ดูหมิ่น เธอก็ยังไม่แน่ใจนัก เพราะแสงไฟสลัวในยามค่ำคืนมัน อาจจะหลอกตาเธอก็เป็นได้

“นั่งลงสิ” บลิซเซิร์ดสั่งสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เอมฤทัยนั่งลงตามที่เขาบอก แต่ดวงตาคู่สวยก็มองสบตาชาย หนุ่มนิรนามที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอย่างไม่ไว้ใจนัก ไม่รู้ว่า ผู้ชายคนนี้ต้องการแค่นั่งดริ้งค์ หรือแค่ต้องการให้เธอเป็นเพื่อน คุยกันแน่ เพราะท่าทางของชายหนุ่มแตกต่างจากแขกผู้ชายคน อื่นๆ ที่ผ่านมา เขาไม่ส่งแววตากรุ้มกริ่มมาให้ ไม่ยิ้ม หรือพูด ง่ายๆ เขาแทบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลยมากกว่า

“ท่าทางของคุณคงไม่ได้แค่ต้องการจะให้ฉันมานั่งดริ้งค์ด้วย เฉยๆ ใช่ไหมคะ”

“คุณฉลาดเหมือนกันนี่ที่เดาใจผมออก คงต้อนรับแขกหนุ่มๆ

มานักต่อนักสินะ ถึงได้เรียนรู้จิตใจผู้ชายไปเสียหมด

เอมฤทัยชักเลือดขึ้นหน้า เมื่อถูกบุรุษหนุ่มตรงหน้าพูดจา เหน็บแนมให้เจ็บใจเล่น แต่อาชีพอย่างเธอในสถานที่แบบนี้ ใครๆ ก็คงมองเธอ และคิดอกุศลกับเธอทั้งนั้น แต่ว่าผู้ชายคนนี้ ปากคนยิ่งกว่ากรรไกร ดวงตาของเขาก็ดูคมกริบเชือดเฉือน ราวกับจะบาดหัวใจของเธอให้เจ็บแปลบได้ด้วยการมองเพียง อย่างเดียวเท่านั้น

“ก็ไม่มากนักหรอกค่ะ แต่ถ้าเพิ่มคุณเข้าไปอีกคนก็ครบสาม ร้อยพอดี” นักร้องสาวตอบน้ำเสียงกระด้างกระเดื่องอย่างถือดี
“ถ้าอย่างนั้น ก็ดีใจด้วยนะที่คืนนี้คุณจะได้ต้อนรับผมเป็นคนที่ สามร้อย ออกไปข้างนอกกับผม ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง คุณต้องการ เท่าไร” ชายหนุ่มไม่พูดจาอ้อมค้อมให้เสียเวลา เพราะแค่มานั่ง ฟังหล่อนร้องเพลงจนจบก็เสียเวลามากพออยู่แล้ว

“ขอโทษนะคะ เผอิญว่าคืนนี้ฉันมีแขกคนที่สองร้อยเก้าสิบเก้า รออยู่ค่ะ”

“เขาให้ค่าตัวคุณเท่าไร ผมจะให้มากกว่าสามเท่า

เอมฤทัยยิ้มหยัน ผู้ชายคนนี้คิดว่า เธอเป็นผู้หญิงหากินจริงๆ หรือนี่ หน้าตาก็ดี แต่นิสัยแย่ชะมัด ทั้งคำพูด ทั้งดวงตาที่ดูจะ กระด้างเย็นชาในคราแรก มาบัดนี้มีแต่แววดูถูกดูหมิ่น คิดแล้ว มันน่าเจ็บใจนัก หญิงสาวจึงตอบออกไปแบบส่งๆ ว่า

“เขาให้ฉันแสนหนึ่ง”

“คิดว่าผมกินหญ้าหรือสาวน้อย ผู้ชายดีๆ ที่ไหนจะมาให้ค่าตัว คุณแพงขนาดนั้น แต่อ่านดูนี่เสียก่อนนะ ก่อนที่จะปฏิเสธผม

มือเรียวสวยยื่นออกมารับแผ่นกระดาษแผ่นเล็กจากมือคร้าม ไปคลี่อ่าน

ถ้าอยากให้แม่นวลอนงค์ของคุณอยู่อย่างสงบสุข ก็ตามผม ออกไปข้างนอก เดี๋ยวนี้!

เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกที บุรุษนิรนามที่เอมฤทัยยังไม่รู้จักแม้ กระทั่งชื่อของเขาก็เดินออกไปนอกผับเสียแล้วจนหญิงสาวต้อง รีบลุกขึ้นเดินตามหลังร่างสูงใหญ่ไปแทบไม่ทัน เพราะต้องรีบไปเอากระเป๋าใบเล็กและเสื้อโค้ทแขนยาวของตนเองหลังร้าน จน กระทั่งเดินไปถึงรถเก๋งคันหรูที่มีร่างสูงคุ้นตายืนอยู่ เจ้าของ ใบหน้าคมคาย จึงหันหน้ามาแล้วสั่งให้เธอขึ้นรถไปกับเขา

เมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องพักของโรงแรมที่ไม่หรูมากนักสอง ต่อสอง มือใหญ่ที่แข็งดุจปลอกเหล็กก็ปล่อยข้อแขนเล็กให้เป็น อิสระ และเริ่มมองนักร้องสาวด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง

สำหรับเอมฤทัย แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย แต่ เพราะสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอให้เข้ม แข็งอยู่เสมอ แม้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องร้ายใดๆ ก็ตาม แต่การที่ ผู้ชายแปลกหน้าเอาแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอมาเป็นข้อต่อรอง ทำให้สาวน้อยขาดความมั่นใจไปมากกว่าครึ่ง แต่ก็ยังทำใจดีสู้ เสือ

“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม คงไม่คิดว่าจะแอ้มฉันฟรีๆ โดยการ เอาแม่ของฉันมาบังคับข่มขู่หรอกนะ” เอมฤทัยพยายามมาก เหลือเกินที่จะบังคับไม่ให้เสียงของตนเองสั่น แต่ทว่าดวงตากลม โตกลับไหวระริกไปมาอย่างไม่อาจเก็บความรู้สึกหวาดกลัว ภายในใจได้ เนื่องจากผู้ชายที่เธอกำลังเผชิญหน้า ดูคุกคามน่า กลัวอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อน

ท่าทางของผู้หญิงตรงหน้าคงจะหิวเงินน่าดูถึงได้กลัวว่า เขาจะ แอ้มเธอฟรีๆ สงสัยลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้น แม่เป็นอย่างไร ลูกสาวก็คงจะเป็นแบบนั้น หลอกล่อผู้ชายด้วยปีกสวยๆ ของ ตนเอง ถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะมีลูกมีเมียแล้วพวกหล่อนก็ไม่สน ขอ แค่ให้ได้เงิน ได้ความสะดวกสบาย พวกหล่อนก็ยอมทอดกายให้กับพวกเศรษฐีกระเป๋าหนักอย่างหน้าด้านๆ เขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่ คิดจะเกลือกกลั้วกับพวกผู้หญิงขั้นต่ำแบบนี้เลย

“คิดว่าผมอยากจะแตะต้องร่างกายที่ถูกเสียบจนเป็นรูพรุนไป หมดทั้งตัวอย่างคุณหรือไง” คำพูดและแววตาที่แสนดูถูกราวกับ คมมีดที่กรีดลึกลงกลางใจ ทำให้เอมฤทัยควบคุมสติอารมณ์ของ ตนเองแทบไม่อยู่

“คุณ…คุณกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” เอมฤทัยกำมือเข้าหากันแน่น อย่างโมโห ผู้ชายอะไรปากร้ายที่สุด เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเจอ

“พูดเรื่องจริงทำเป็นรับไม่ได้ แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลา รีบ โทรศัพท์ไปบอกแม่ของคุณ ถ้าหากยังอยากมีลมหายใจก็ให้เลิก ยุ่งกับพ่อของผมเสีย เพราะถ้าไม่เลิกทั้งคุณและแม่ของคุณเดือด ร้อนแน่” ชายหนุ่มไม่ใช่แค่ขู่แต่เขาจะทำจริงๆ เวลานี้สิ่งที่บลิซ เซิร์ดต้องการมากที่สุดก็คือ สืบรู้ให้ได้ว่า แม่ของนักร้องสาวคน นี้อยู่ที่ไหนเพื่อที่เขาจะได้ตามไปสั่งสอนให้เข็ดหลาบ

“คุณจะทำอะไรแม่ฉัน

“ไม่ต้องถามมาก รีบโทรไปบอกแม่คุณเดี๋ยวนี้ ก่อนที่คุณจะ เสียตัวฟรีๆ ให้กับลูกน้องของผม

“ฉันไม่โทร.”

“ทำไมถึงไม่โทร. ไม่กลัวว่า ผมจะตามไปฆ่าแม่ของคุณ และ ไม่กลัวตัวเองจะเดือดร้อนหรือ” บลิซเซิร์ดมองผู้หญิงตรงหน้า ด้วยแววตาดูถูกเข้าไปใหญ่ หรือว่าหล่อนไม่ได้รักแม่ของตนเอง ถึงไม่ยอมโทร.ไปหา
“ฉันไม่มีเบอร์โทร.ของแม่” หญิงสาวตอบ หากชายนุ่มจะทัน มองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มสวยซึ้ง เขาก็คงจะเห็นแวว เศร้าเล็กน้อยฉายวาบออกมา แต่มันก็แค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น แววตาของเธอก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

“เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่มีเบอร์มือถือของแม่ตัวเอง อย่ามา โกหกเสียให้ยากเลย หรือว่าเธอ ไม่ได้รักแม่ของตนเอง เอม ฤทัย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ