ยังหัวใจประธานซาตาน

ตอนที่22 ได้พบเขาอีกครั้ง



ตอนที่22 ได้พบเขาอีกครั้ง

แต่เพราะที่นี่คือแผนกนารีเวช

รอบๆล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิง

ได้ยินเช่นนี้ สายตาของทุกคนล้วนมองมา

ทุกคนเห็นติณณาที่กำลังตะโกนยืนปกป้องฉันไว้ จึงรู้ได้ทันทีว่าจิณณาคือเมียน้อยคนนั้น

ผู้คนโดยรอบต่างชี้นิ้วไปที่จิณณา หล่อนมีเสียหน้า เป็นอย่างมาก รีบผลุนผลันออกไปชนิดหายใจแทบไม่ทัน

ฉากที่สับสนวุ่นวายนี้ได้จบลง ฉันและติณณาไม่ได้ ตอบคำถามอะไร และออกไปหาร้านกาแฟเพื่อนั่งพักกัน

“มอคค่าหนึ่งแก้วค่ะ”

“ไม่ได้นะ!”

ฉันเพิ่งจะเอ่ยและชี้ไปที่สิ่งที่ต้องการ แต่กลับถูกหยุด โดยติณณา

เธอไม่เพียงแต่ไม่ยอมให้ฉันดื่มกาแฟ แต่ยังไม่ยอมให้ ฉันดื่มเครื่องดื่มเย็นๆอีกด้วย

ท้ายที่สุด ฉันที่กำลังโกรธ เพราะสายตาตำหนิของ พนักงานจึงสั่งน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว
รอจนน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ เมื่อฉันดื่มไปได้หนึ่งอีก ติณ ณาก็ถามฉันว่า”เธอคิดจะทำอย่างไรกับเด็กคนนี้?”

เดิมทีฉันคิดว่าตัวเองจะสามารถพูดได้อย่างเด็ดขาด ว่า“จะทำแท้ง”

แต่พอคำพูดมาถึงริมฝีปาก ฉันก็ลังเลที่จะพูดเสียแล้ว

ฉันมองดูคลื่นของน้ำตรงหน้า แล้วพูดว่า”การแต่งงาน ครั้งนี้ ถ้าต้องใช้ลูกมาประคับประคองไว้ มันน่าเศร้าเกิน ไปนะ”ฉันชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อว่า“โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรักลูกของเราหรือ เปล่า”

ฉันก้มหน้าอย่างไม่สบายใจและรู้สึกกดดัน

ติณณามองฉัน แล้วพูดว่า “โธ่เอ๊ย งั้นเธอก็คลอดเด็ก ออกมา เลี้ยงไม่ไหวฉันจะช่วยเองไม่เห็นเป็นไร ผู้ชายฉัน ไม่เลี้ยง แต่เลี้ยงเด็กได้นะ”

“ถ้าพูดแล้ว หากฉันคลอดออกมา เธออย่าบิดพลิ้วนะ”

“ไม่หรอกน่า คลอดเขาเถอะนะ”

คำพูดของฉันกับติณณา แท้ที่จริงทั้งหมดทั้งมวลคือ การพูดหยอกล้อกันเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามเด็กย่อมต้องการพ่อ

ฉันแพ้ท้องอย่างรุนแรง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ยินมาว่าช่วง 3 เดือนแรกเด็กยังฝังตัวไม่แน่น ทันใดนั้นฉัน ก็รู้สึกเสียใจ เพราะเดือนหน้าฉันจะกระดิกตัวไม่ได้เลย เรื่องของเรื่องก็คือฉันได้รับมอบหมายงานถึง 6 โปรเจกต์

ไม่มีทางเลือก ฉันทําได้แค่ไปหา ธนิน ซึ่งเป็นหัวหน้า แผนกออกแบบถามเขาว่าสามารถมอบงานให้กับคนอื่น ได้หรือไม่

ผลคือ เมื่อฉันพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการร้องขอจบ ธนิ นทำหน้าลำบากใจและส่ายหน้า”ณิชา ไม่ใช่ว่าผมจะ กลั่นแกล้งคุณนะ แต่ไม่นานมานี้ บริษัทมีการเปลี่ยนผู้ จัดการ เพื่อให้ทุกคนได้แสดงประสิทธิภาพในการทำงาน ต่างก็ได้รับมอบหมายงานกันไปไม่น้อย

บริษัทเปลี่ยนผู้จัดการนั้นฉันรู้

ผู้จัดการคนนี้ได้รับการว่าจ้างมาจากผู้จัดการคน เก่าในราคาสูง แต่เพราะระยะหลังมานี้ฉันทำงานยุ่งมาก แถมยังมีเรื่องยุ่งอื่นๆเพิ่มเข้ามาอีก ฉันจึงไม่เคยได้พบกับ ประธานนเลย

ฉันเองไม่อยากให้ธนินเกิดความลำบากใจ จึงกลับไป ทำงานตามตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ทำงานไปเงียบๆ

งานมีมากเหลือเกิน ฉันทำได้เพียงแค่ทำงานล่วงเวลา เพิ่มมากขึ้น และไม่รู้ว่าต้องทำถึงกี่โมง ตอนนี้ฉันง่วง นอนมากจริงๆ จึงนอนคว่ำงีบหลับบนโต๊ะสักพัก…

ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ พอรู้สึกได้ว่ามีคนมาตบ เบาๆที่ไหล่ ฉันสะดุ้งตื่น โดยจิตใต้สำนึกพูดออกมาว่า“ขอโทษค่ะ ฉันจะทำงานแล้ว…”

พอฉันพูดจบก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้ชายคนหนึ่งดัง ขึ้นที่ข้างหู

หันไปดู ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลัง…

ดูคุ้นตา…

“นภทีป์”ดวงตาง่วงงุนของฉันจำอีกฝ่ายได้แล้ว

นภทีป์ เป็นเพื่อนร่วมคณะสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของ ฉัน เป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงของคณะเรา อาจารย์พูด เรื่องความสําเร็จของเขาทุกวัน

และเป็นคนที่ฉันยกย่องมากที่สุดเมื่อสมัยเรียน

ตอนที่ฉันมาฝึกงานที่นี่ ก็เป็นเขาที่ช่วยแนะนำให้

ฉันมองเห็นเขาแล้วรู้สึกมีชีวิตชีวาทันที พูดอย่างยินดี ว่า“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“ฉันเองก็คิดจะถามเธอว่า ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”นภทีป์ ยกมือขึ้น ช่วยจัดการกับผมที่ติดแก้ม รอยยิ้มนั้นอ่อน โยนและสวยงาม

ในตอนนั้นฉันเกิดอายขึ้นมา เอาผมไปทัดหลังหูแล้ว พูดว่า”งานยังไม่เสร็จเลยต้องทำงานล่วงเวลา
“มา ลุกขึ้นเถอะ”

นกที ตบไหล่ฉันเบาๆ

ฉันลุกขึ้น เขานั่งลงในตำแหน่งของฉัน ตรวจสอบการ สร้างภาพแบบจำลอง (ภาพเร็นเดอร์) ของฉัน แล้วถาม ฉันถึงความต้องการของลูกค้า

หลังจากนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ภาพงาน 3D ในมือฉันก็เสร็จเรียบร้อย และรายละเอียดยังสมบูรณ์ แบบอีกด้วย

มองดูคนที่อยู่ข้างๆแล้ว ฉันรู้สึกชื่นชมจนอยากจะก้ม

กราบเลยทีเดียว

เมื่องานทุกอย่างเสร็จสิ้น นกทีป์ปิดคอมพิวเตอร์ ลุก ขึ้นยืดเอว แล้วพูดกับฉันว่า “ไป ส่งเธอกลับบ้านกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ