บทที่ 14 รีบมาอย่างเร่งด่วน
ตอนที่เขาเดินเข้ามาใกล้เขียนหานก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที เป็น
เผยตงเฉิน เขาสวมเพียงแค่เสื้อตัวใน ราวกับว่ารีบออกมาอย่างเร่งด่วน พอมองเห็นเยี่ยนหานเขาก็ชะงักไปชั่วครู่สายตาแฉลบผ่าน
ใบหน้าที่เงียบสงบของเฉิน
แววตาของเยี่ยนหานตกลงเล็กน้อย เธอมองไปที่กระดุมเสื้อ ตัวในของเขา ก็พบว่ากระดุมถูกแกะสลักเป็นอักษรรูปตัวเอาไว้ อย่างง่าย ๆ
อีกทั้งตัว ตัวนั้น น่าจะเป็นแบบเดียวกับสัญลักษณ์ที่เขียนอยู่ บนเสื้อคลุมของหลินเฉินพอดี
พวกเขาสองคนต่างก็สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมที่มีการตัดเย็บ ขึ้นมาอย่างจำกัด อีกทั้งดูเหมือนว่าพวกเขาสองคนน่าจะรู้จักกัน ถ้าอย่างนั้นพวกเขาทั้งสองคนจะต้องมีความสัมพันธ์พิเศษกับนัก ออกแบบลึกลับคนนั้นแน่ ๆ หัวใจของเยี่ยนหานสูดลมหายใจ เข้าไปลึก ๆ คนใหญ่คนโตพวกนี้เธอเข้าไปหาเรื่องด้วยไม่ไหว จริง ๆ ถ้าหากพวกเขาคิดจะให้เธอชดใช้ขึ้นมาละก็ ต่อให้ ขายตัวเองก็ยังคงไม่พอชดใช้ให้กับเสื้อผ้าของพวกเขา
หลินเฉินไม่พูดอะไรออกมาเผยตงเฉินก็เข้าไปถามเยียนหาน โดยตรง “ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่
เยี่ยมหานมองเห็นกล่องเสียงที่ขยับเบา ๆ ของเขา จึงตั้งสมาธิ ที่ลอยออกไปแล้วกลับมาหาตัวเองได้ เธอเงยหน้าขึ้นมา “ฉันไป จ่ายเงินก่อนนะคะ ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่นะคะ หัวหน้าเผย คุณ ตำารวจหลิน”
เผยตงเฉินขมวดคิ้วเยี่ยนหานเดินผ่านไปจากทางด้านข้างของ เขา ในชั่วขณะที่ร่างกายเฉียดผ่านกัน เธอก็ได้กลิ่นบุหรี่ลอยออก มาจากบนร่างกายของเผยองเฉิน
“ทำไมพวกนายถึงได้อยู่ด้วยกัน” เผยตงเฉินหันกลับไปมอง หลินยี่เฉิน
“ไม่เกี่ยวกับนาย!”
“ถ้าอย่างนั้นนายจะให้ฉันมาที่นี่ทำไม
“ใครใช้ให้นายสนใจเรื่องของชาวบ้านมากนัก” หลินเฉิ นพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ
“หลินเฉิน นายอย่ามายั่วโมโหฉันดีกว่า!”
“ฉันขอเตือนนายไว้เลยนะเผยถึงเฉิน นายไม่ต้องมาเสือกเรื่อง งานของฉัน แล้วก็ถ้ายังมาก่อความวุ่นวายให้กับแม่ของฉันอีกละ ก็ฉันจะจัดการนายซะ!”
“โกรธแล้วเหรอ” เผยตงเฉินยักไหล่ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา นั้นนิ่งสงบเป็นอย่างมาก “นายอยากจะมาเตือนฉันก็ไม่ได้ คัดค้าน แต่นายยินดีที่จะเป็นตำรวจเล็ก ๆ แบบนี้น่ะเหรอ”
“ฉันไม่ได้มีท่าทางเคร่งขรึมแบบนาย
“ทำงานในคณะกรรมการพรรคระดับมณฑลจะมีทางเคร่งขรึม ไปทําไม”
“ฉันจะเป็นตำรวจ แล้วนายก็ต้องเป็นคนที่รับผิดชอบไปคุยกับ แม่ฉัน ฉันไม่อยากจะทำเธอโมโหจนตาย เธอป่วยอยู่! ” “เรื่องนี้เหรอ นายเรียกฉันออกมาจากห้องทำงานก็เพียงเพราะ
เรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ”
“ใช่! เพราะเรื่องนี้ หลังจากนี้นายก็ไปพูดกับแม่ฉันว่าให้เธอ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เลิกทำเป็นแกล้งป่วยอยู่ที่นี่เสียที รีบกลับบ้านไปได้แล้ว อย่ามาแย่งที่ของคนอื่นเขา คนเขาไม่มี ห้องพักฟื้นจะอยู่!”
“เฉิน นั่นแม่นาย ไม่ใช่แม่ฉัน
“นั่นก็ป้าสะใภ้นาย เรื่องที่นายเป็นคนก่อ นายก็ต้องเก็บ กวาด!”
“ได้! ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบไปบอกเธอให้เอง แต่นายก็ต้อง ช่วยฉัน!”
“ช่วยอะไร”
“ตรวจสอบผู้เช่าบ้านเมื่อวานนี้ของหนีไปทุกคนให้หน่อย
“ทําไมนายไม่ไปตรวจสอบเอง”
“ฉันไม่ใช่ตำรวจ แล้วก็ไม่ใช่อำนาจที่อยู่ในความรับผิดชอบด้วย!”
ตอนที่เยี่ยนหานจัดการเรื่องขั้นตอนการขอเข้าพักในโรง พยาบาลเสร็จ เธอก็เห็นเงาแผ่นหลังของหลินเฉินก้าวเท้ายาว ๆ เดินออกไปแล้ว ทว่าหัวหน้าเผยยังคงยืนอยู่ตรงโถงใหญ่ รูป ร่างหน้าตาโดดเด่นเป็นเลิศ ผู้ชายคนนี้เดิมทีก็มีนิสัยเฉพาะตัว โดดเด่นเหนือผู้คน เขาเป็นคนที่มีผิวพรรณดี คิ้วสวย นัยน์ตาลึก ทั้งยังมั่นคงและใจเย็น ทำให้มีอัตราที่ดึงดูดคนให้หันกลับมา จ้องมองไปยังห้องโถงใหญ่สูงมาก
ตอนที่เยี่ยนหานจะหมุนตัวเดินออกไป เธอก็พบว่าดวงตาของ เผยตงเฉินกำลังจับต้องเธออยู่ จากนั้นเขาก็ยกยิ้มที่สามารถ ทำให้ผู้คนลงไหลขึ้นมา
เพราะเขาส่งยิ้มมาให้ เธอจึงไม่รู้ว่าควรที่จะทักทายเขาอีกครั้ง ก่อนขึ้นไปข้างบนหรือเปล่า หลังจากที่เธอค้นพบว่าผู้ชายคนนี้ไม่ ได้คิดจะทำร้ายเธอ ทั้งยังให้เธอยืมเงินอีก เธอจึงรู้สึกขึ้นมาว่า ตนเองติดค้างคนคนนี้อยู่
ตอนที่กำลังลังเลอยู่ว่าควรจะพูดอะไรออกมาไหม เขาก็ก้าว เท้ายาว ๆ เข้ามา
เยี่ยนหานก็รู้สึกได้ถึงลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านร่างกายของเผยอง เฉิน นำพาความรู้สึกกดดันอย่างหนักเข้ามา เธอรู้สึกแค่ว่าข้าง หลังของตนเองเย็นยะเยือก
เขาเดินเข้ามาใกล้ แต่กลับไม่ยอมพูดอะไรออกมาก ทำเพียง แค่จ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ
มีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับออร่าที่ทำให้คนเชื่อฟัง ด้วยความยินยอมพร้อมใจโดยไม่ต้องพูดอะไรออกมา ตอนที่ เงียบสงบก็ยังสามารถสร้างความกดดันได้ เผยตงเงินก็คือคน ประเภทนั้น เยี่ยนหานอดที่จะทอดถอนใจให้กับความมหัศจรรย์ ของพระผู้สร้างไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำแต่รัศมีที่น่า เกรงขามกลับพุ่งทะลุงออกมามากมายถึงเพียงนี้
เธอทำได้แต่ส่งเสียงออกมาอย่างติด ๆ ขัด ๆ “เผย…หัวหน้า เผย!”
เขาไม่ตอบ
เธอคิดถึงเรื่องที่ตัวเองค้างเงินเขาอยู่ขึ้นมาทันที จึงรีบอธิบาย ว่า “ฉันยังไม่ได้กดเงินออกมาเลยค่ะ เพิ่งจะจ่ายค่ารักษา พยาบาลไปเอง ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันไปกดเงินออกมาให้นะคะ คุณ รอสักครู่ได้ไหมคะ”
“ฉันไม่มีเวลามารอ!” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันโทรหาคุณตอนที่จะคืนเงินดีไหมคะ” เยี่ย นหานรีบพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องคืนแล้ว!” เขาตอบกลับมา
“ไม่ค่ะ! ไม่ได้! ฉันไม่ชอบที่จะติดหนี้ใคร!” เยี่ยนหานอธิบาย ขึ้นมาอย่างร้อนใจ
“อื้อ!” เผยตงเฉินส่งเสียงตอบรับต่ำ ๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนหัวข้อ สนทนา “ใครป่วยอย่างนั้นเหรอ”
เธอชะงักเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถามถึงเรื่องนี้ จึงจำใจ ต้องตอบกลับไปว่า “น้องสาวของฉันค่ะ”
“ป่วยเป็นอะไรละ
“” เยี่ยนหานไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เธอแค่รู้สึกว่าเขาค่อน ข้างที่จะชอบซุบซิบนินทา
โชคยังดีที่ว่าเผยตงเฉินเป็นคนที่เข้าใจเรื่องการเคารพเรื่อง
ส่วนตัวของบุคคล เขาจึงเปลี่ยนเป็นหัวข้อใหม่ “เงินพอไหม
เยี่ยนหานซะงักอีกรอบ เธอพยักหน้า “อื้อ! พอค่ะ! พอแล้ว
“ยืมมาเหรอ”เขาเลิกคิ้ว
“ค่ะ!”
“เธอจบจากสาขาวิชาอะไร
“ภาษาจีนค่ะ”
“มหาวิทยาลัยไหน”
“มหาวิทยาลัยจีนไม่ค่ะ!!
เผยตงเฉินขมวดคิ้วนิด ๆ เขามองเธออยู่ครู่หนึ่ง “ลาออกมา แล้ววางแผนจะทำอะไรต่อ
“เตรียมหางานค่ะ”
“โรงเรียนมัธยมทดลองเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดแล้ว เพราะอย่างนั้นเป็นครูดีไหม”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ