บทที่ 9 ฉันโดนไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว
“มานี้ อย่าพูดมาก”พูดด้วยเสียงต่ำ ประตูด้านหลังรถถูกเปิด ออก
เยี่ยนหานทำได้แค่เดินไป ทั้งเดินไปถามไป คุณคือ?”
เมื่อเธอโค้งตัวมองดูในรถ ถึงได้เห็นว่าคนในรถคือเผยตงเฉิน เยี่ยนหานอึ้งไปทั้งตัว “คุณ คุณรู้เบอร์ฉันได้ไง?”
เผยตงเฉินยักคิ้ว แล้ววางสาย พูดด้วยเสียงต่ำ “ขึ้นรถ!
เยี่ยนหานเก็บโทรศัพท์ กลืนน้ำลาย ประหม่าตอบไปอย่าไม่รู้ ตัว “ไม่ ไม่ต้องแล้ว!”
“เข้ามา!”น้ำเสียงสูง เสียงดุเข้มทำให้เขียนหานตกใจเกือบจะ กระโดด
“ไม่แล้วไง!”
“อย่าให้ฉันพูดเป็นรอบที่นี่นะ
“เฮ้ย” น้ำเสียงของเขาทำให้เยี่ยนหานตกใจอึ้งไปหน่อย แล้ว ยอมขึ้นรถไปโดยดี
“ปิดประตูรถด้วย”เขาบอกเสียงต่ำ
เยี่ยนหานเชื่อฟังแล้วลากประตูปิด มองไปออกไปรอบๆข้าง นอก สายตาที่แหลมเฉียบมองไปรอบๆ จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง รถเคลื่อนไปเหมือนกับลูกศร
“เฮ้ย.. เยี่ยนหานพิงเก้าอี้หลังไปด้วยความเคยชิน “คุณ คุณ จะทําอะไร?”
เผยตงเฉินไม่พูด ขับรถไปต่อประมาณสามกิโลเมตร ซึ่งหยุด รถลง ใกล้ซอยเปลี่ยว หันหน้ามองเยี่ยนหานพูดด้วยเสียงต่ำ “พูดมา คืนมาวานใครส่งเธอมาให้ฉันที่โรงแรม?”
เธอตกตะลึง ถึงแม้ถานหยุนเฟยจะให้เธอไป แต่ว่าถ้าเธอบอก เผยตงเฉินไป กลัวว่าต่อไปถานหยุนเฟยจะวุ่นวาย ถึงแม้พูดได้ ว่าเธอเกลียดงานหยุนเฟย แต่ไม่ควรจะไปซ้ำเติม ส่ายหัว “ฉัน ไม่มี คืนเมื่อวานเป็นแค่อุบัติเหตุ ขอโทษด้วยค่ะ เป็นเพราะฉัน เองวิ่งเข้าผิดห้อง”
เธอขอโทษ แค่หวังว่าตัวเองไม่ได้ไปยั่วคนร่างใหญ่ เพื่อให้ เขาจะได้ปล่อยเธอ “หัวหน้าเผย ฉันมีเรื่องด่วน ไปได้รึยังคะ?
“ไม่พูด ก็ไม่ต้องลงรถ”เขาพูดทิ้งด้วยเสียงเยือกเย็น
“เฮ้ย เธอถอนหายใจ น้ำตาคลอเบ้า เสื้อผ้าบนตัวเองก็ สกปรก นั่งบนรถหรูของเขา ดูโทรมและไม่เข้ากันเลย “ขอร้อง เถอะ ให้ฉันลงรถได้ไหมคะ? ฉันไม่รู้จะบอกคุณยังไง ขอโทษ ค่ะ!”
“จะไม่พูดใช่ไหม?”เขาทำเสียงต่ำลง
เสียงกึกก้อง น้ำตาคลอเบ้า ทันใดนั้นใบหน้าเคร่งขรึมเข้า ใกล้ ใบหน้าเล็กของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เผชิญดวงตาอินทรี พิง ข้างหลังด้วยความประหม่า “ฉัน ฉันพูดไม่ได้จริงๆ!
เสียงเย็นชาของเผยองเฉิน แววตาที่แวววับมองไปที่ใบหน้า เธอ พูดด้วยเสียงต่ำ “เธอไม่บอกฉันก็ตามสืบได้
“งั้นคุณก็ไปตามสืบเถอะ ฉันลงรถไปรึยังคะ ? ฉันมีเรื่องรีบ จริงๆ” เยี่ยนหานนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ย้ายของ แถบตัวเองก็ หมดตัว แม่กับน้องก็ใกล้จะมา เธอไม่รู้จะจัดการยังไง
คิดถึงเรื่องพวกนั้น ใจก็หด ความเจ็บปวดกระจายไปทั่ว เธอ
ซวยมากพอแล้ว พูดไป เธอกำลังจะลงรถ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เธอเตรียมตัวลงรถจะรับสาย แต่มือของเผยตงเฉินคว้าไวทันที แถมล็อกประตูรถด้วย
“คุณจะเอายังไงกันแน่?” เยี่ยนหานตกใจเพราะเขา คนนี้มี ความน่าเกรงขามทำให้คนอื่นรู้สึกว่าไปหมด เธอรู้สึกว่ามือเท้า เย็นไปหมด
“รับโทรศัพท์ก่อน เขาปล่อยเธออย่างง่ายดาย
โทรศัพท์ยังคงร้องดัง เยี่ยนหานเลยกดรับสาย “ฮัลโหล คุณครูลู่อะไรนะคะ? พวกเขาเอาของฉันย้ายออกไปแล้วเหรอคะ? แล้วทําไงดีคะ?”
อึ้งไปสักพัก น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว โรงเรียนเอาของ เธอทิ้งแล้ว แต่ยังดีที่เขาช่วยเก็บไว้ให้ ทำให้เธอไม่ต้องรีบ “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ อืม รอ รอ ฉันหางานได้ฉันมาย้ายไปได้ไหมคะ? ฉันพึ่งหาห้องได้ แต่ กระเป๋าฉันโดนชิง เลยเซ็นสัญญาไม่ได้ ก็เลย….
“อืม ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะ คุณครูลู่ ถ้าไม่มีคุณ ฉัน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง! หลังเช็ดน้ำตา ขอบคุณ ก็กดวาง สายไป
เผยตงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอจะย้ายบ้านเหรอ?” เธอสูดหายใจเข้าจมูก “ย้ายไม่ได้แล้ว กระเป๋าโดนซิ่งไป หลังพูดเสร็จ เธอก็ตื่นตกใจ ทำไมเธอต้องพูดเรื่องนี้กับเขา เผยตงเฉินกระดูกคิ้ว
เยี่ยนหานไม่อยากเสียเวลากับเขาแล้ว” หัวหน้าเผยคะ รบกวน ท่านเปิดประตูรถหน่อยค่ะ ฉันจะไม่ทันแล้ว ฉันมีเรื่องด่วนจริงๆ
“งั้นก็บอกฉันมาก่อนว่าใครส่งเธอมาห้องฉัน
ในตอนนี้ ได้ยินคำพูดเด็ดเดี่ยวของชายคนนี้ ดูเหมือนถ้าไม่ ได้ตามเป้าหมายก็จะไม่เลิกราแน่นอน เธอจนปัญญา “งั้นเธอก็ ถ่วงไปสิ ฉันเชื่อว่าเธอไม่ยุ่งเท่านั้น”
ถ้าผู้นำยิ่งใหญ่มีเวลาว่างขนาดนี้ละก็ ก็คงไม่ใช่ผู้นำแล้ว
“เธอถูกไล่ออกเหรอ?” เขาพูดอย่างเฉยเมย
“ใช่ โรงเรียนไล่ฉันแล้วเธอตอบไปอย่างไม่รู้ตัว “เฮ้ย พอ เถอะ ฉันจะบอกคุณเรื่องนี้ทำไมกัน!
“ทำไมล่ะ?”เขาไม่สนใจ น้ำเสียงไม่ดีของเธอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ