บทที่5 กฎการแบ่งตามพินัยกรรม
“ที่จะตบก็คือเธอแหละ! นี่คือแค่โทษเล็กๆเท่านั้น แต่ ว่าโทษของพวกเธอสองแม่ลูกจะดุเดือดรุนแรงกว่านี้!”
รินรดาเชิดคางขึ้น มองที่สศิชา
“รินรดา! แกต้องรับกับผลกรรมที่แกทำวันนี้!”
หน้าทีบวมแดงของสศิชา จ้องที่รินรดาอย่างแรง
ถึงแม้สศิขาดูเหมือนจะกล้ามาก แต่ว่ายังไงเธอก็ มาแค่คนเดียว ไม่มีที่พึ่งพิง และเธอเองก็กำลังท้องอยู่
ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่กล้าที่จะทำอะไรกับรินร ดา แต่ว่า ในใจของเธอก็มีแผนการที่ชั่วร้ายกว่านี้
“สศิชา เธออยากให้ฉันแลกกับอะไร?”
นิสัยที่ดีของรินรดาถูกทำลายไปอย่างสะอาด ตอนนี้ เธอแค่อยากจะสั่งสอนเอาคือสศิชาให้สะใจ
“รินรดา แล้วคอยดูกัน!”
สศิชารู้ดีว่าถ้าเสียเวลากับเธอต่อ เธอเองก็คงจะเสีย เปรียบ เลยตะโกนคำนึงไว้ แล้วก็รีบหันหลังเดินจากไป เลย
รินรดารู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ ก็ไม่ได้ไล่ตามไป ความเกลียดแค้นของเธอที่มีต่อสองแม่ลูกนี้ ไม่ใช่แค่ตบกี่ที ก็สามารถจบลงได้เลย
กลับไปถึงห้อง นั่งเงียบไปสักพัก เธอก็รู้สึกไม่ สบายใจ
ไม่ใช่กลัวว่าสศิลาจะเอาคืน แต่เรื่องพวกนี้เธอควรที่ จะพูดกับชฎายุให้เข้าใจ
ในเมื่อความรักครั้งนี้ สูญเสียพื้นฐานของสามรักที่ เคยมีต่อกันแล้ว เธอเองก็ไม่ต้องที่จะยื้อต่อไปแล้ว
เพราะฉะนั้น เธอก็คิดว่าจะไปบริษัทของชฎายุทีเดียว จบเรื่องนี้ของทั้งสองคน
เพราะแต่งตัวอย่างเรียบง่ายเสร็จ ออกมาจากบ้าน ใน ขณะที่กำลังรอรถอยู่หน้าปากซอย
รถยนต์สีดำคันนึงก็หยุดลงข้างๆเธอ เธอดูที่ทะเบียน รถสักครู่ ในใจก็เต้นแรงขึ้น
รถคันนี้คือรถของบริษัทคุณพ่อ หรือว่าเร็วขนาดนี้ สศิชาก็หาคนมาเอาคืนเธอได้เร็วขนาดนี้แล้ว?
ประตูรถเปิดออก คนที่เดินออกมากลับเป็นผู้ช่วยของ พ่อเธอ
“คุณหนูใหญ่ ท่านประธานให้ผมมาหาคุณ ท่านอยาก เจอหน้าคุณ!”บนหน้าของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่
“จะเป็นไปได้ยังไง ทําไมท่านถึงอยากจะเจอฉันกะทัน ห็นแบบนี้?”
กลับมาหลายปีมานี้ พ่อของเธอไม่เคยถามไถ่เธอเลย ปล่อยให้แม่เลี้ยงและน้องสาวคนละแม่ของเธอทำร้าย เธอ วันนี้กลับอยากจะเจอเธอ ดูเหมือนจะมีเงื่อนงำ
เพราะเรื่องของสศิลา? หรือว่าเป็นแผนของสศิชา?
“คุณหนูใหญ่ ความคิดของท่านประธาน ผมไม่ควรแส ดงความคิดเห็น แต่ว่าท่านประธานก็เป็นมะเร็งตับระยะ สุดท้ายแล้ว ความหวังสุดท้ายของท่านประธานแล้ว คุณคงไม่ปฏิเสธนะ?”
“มะเร็งตับ? ระยะสุดท้าย?”
คำนี้ของธีรโรจน์ ทำให้ใจของเธออ่อนยวบ ทำให้เธอ ลืมเรื่องเมื่อก่อนว่าพ่อเคยทำอะไรไม่ดีต่อแม่และเธอ บ้าง
“ใช่ หมอบอกว่า เหลือแค่ไม่กี่วันแล้ว ตอนนี้ท่าน ประธานอยู่โรงพยาบาลแล้ว”
เหมือนรินรดาจะเข้าใจแล้ว ทำไมพ่อถึงไม่มาเข้าร่วม งานแต่งของเธอ แต่เพราะแม่เลี้ยงและลูกของเธอปิด เรื่องนี้ไว้มิด ในนี้ต้องมีแผนการแน่?
นึกถึงสถานการณ์ในงานแต่ง การแสดงตัวของแม่ เลี้ยงและน้องสาว คำถามในใจของเธอก็ยิ่งมากขึ้น
“ได้ ฉันไปกับนาย!” รินรดาหยุดร้องแล้วตอบ
ธีรโรจน์ขับรถพารินรดามาโรงพยาบาล แล้วให้คน พาเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วยvipของพ่อเธอ
แล้วธีรโรจน์ก็ค่อยๆออกไปจากห้อง แล้วปิดประตูลง แล้วในห้องนั้นก็เหลือแค่สองพ่อลูก
สีหน้าที่ป่วยของทยากร ใบหน้าเหลือง เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นพูด “รินรดา มาแล้วหรอ”
“พ่อคะ”
นึกถึงพ่อของเธอที่ดุและใจร้ายในเมื่อก่อน และมองดู ท่านในตอนนี้ พ่อที่คงอยู่ต่อได้อีกไม่นาน เสียงของรินร ดาก็เรื่องสั่นเครือ
“รินรดา เมื่อก่อนพ่อทำผิดกับลูกและแม่มาก เป็น ความผิดของพ่อ ทำให้แม่เธอตาย ตอนนี้ในใจของพ่อ คือรู้สึกผิดจริงๆ!” เสียงของทยากรแสดงถึงความรู้สึก ผิด
“พ่อคะ ตอนนี้พ่ออย่าคิดอะไรมากเลย พักรักษาตัวให้ หายก่อน” รินรดาเช็ดน้ำตาบนหน้าแล้วพูด
“พ่อเหลือเวลาไม่มากแล้ว ในใจพ่อรู้ดี แต่แค่มีเรื่อง อยากจะจัดการให้เข้าใจ
ทยากรสลึมสลือ นี่เป็นอาการของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย จะอยู่ในลักษณะของการสลบไปบ่อยๆ
“พ่อคะ พ่อพูดเถอะ! หนูฟังอยู่!” รินรดาพยายามเก็บ อาการความเสียใจไว้
“พินัยกรรมพ่อเขียนไว้ที่ทนายไวทินไว้ก่อนแล้ว หลัง จากที่พ่อตายแล้ว ทนายไวทินจะทำตามเนื้อหาข้างใน พินัยกรรมแบ่งสมบัติหลังจากที่พ่อตายไป สมบัติทาง บริษัททั้งหมดเป็นของลูก พ่อจะไม่เหลือเงินสักบาทให้ สองแม่ลูกนั้น!”
“พ่อคะ นี่”
สําหรับการตัดสินใจของพ่อเธอแล้ว แม้แต่รินรดาเอง
ก็รู้สึกแปลกใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไรกันแน่ ถึงทำให้พ่อตัดสินใจแบบนี้?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ