ฝันชะตา:ชายาเกิดใหม่

ตอนที่ 20 ข้าอยากได้หัวใจของเจ้า



ตอนที่ 20 ข้าอยากได้หัวใจของเจ้า

ตอนนี้ถือว่าเปิดใจคุยกันแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ คือตระกูลจางมีอำนาจใหญ่ในราชสำนัก ใครเล่าที่ไม่ อยากประจบท่านปู่ของเขาจางไท่ซือ

เพียงแต่ว่าท่านปู่ของเขาเป็นข้าราชการที่ดี ไม่ชอบ เรื่องประจบประแจง ถึงอำนาจของตระกูลจางจะใหญ่ แต่ก็ไม่เคยทําเรื่องที่ไม่ดีต่อราชสำนักลับหลัง รวมกับ ที่ฮ่องเต้เป็นผู้ที่เก่งกาจ เห็นความสำคัญและชื่นชม ตระกูลจางมาก ไม่งั้นเป่ยจื่อห้าวคงไม่ทำทุกวิถีทาง เพื่ออยากแต่งงานกับนางหรอก ก็แค่ถูกใจอำนาจของ ตระกูลจางไม่ใช่หรือ?

“ข้าดูไม่ออกเลยนะ เจ้าเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ควร อยู่แต่ในบ้าน แต่กลับรู้เรื่องการเมืองละเอียดเช่นนี้”

ผู้ชายคนนี้มองนางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาเคย จงใจให้คนไปสืบเรื่องของจางยวี่โหร่ว รู้แค่ว่านางโตมา ในท่ามกลางความรักจากจางไท่ซือและครอบครัว นิสัย โอหัง แต่กลับไม่เคยคิดว่าความคิดของนางจะไกลเช่น นี้ ไม่มีบุคลิกของหญิงไร้ความรู้ที่อยู่แต่ในบ้านเลย

ไม่รู้ว่าทำไม ทุกครั้งที่เขาพบนาง ก็รู้สึกได้ถึงความ เจ็บปวดและความแค้นลางๆในแววตาของนาง

นั่นไม่ใช่แววตาของหญิงสาวไร้เดียงสา ราวกับว่านาง เคยผ่านเรื่องหนักหนามาก่อน ให้คนทนไม่ไหวอยากจะ ไปปกป้องนาง
ในใจของเขามีความคิดนี้ผุดขึ้นมา เลยตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เกิดความคิดนี้ในใจให้อยู่ลึกๆ

“ท่านอ๋องน่าจะเข้าใจความหมายของการมีชีวิตที่สงบ เลยกลัวความอันตรายใช่ไหม?”จางยวี่โหร่วสบตากับ เขา นอกจากเรื่องของชาติก่อนที่นางพูดไม่ได้แล้ว นาง ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเขาอีกเลย

“ได้ ข้าเชื่อเจ้าก่อนก็ได้ แต่เจ้าอธิบายเรื่องของเจ้า แล้ว ต่อมาก็ถึงเวลาคิดบัญชีระหว่างเราแล้วสินะ โลก นี้ไม่มีอาหารกลางวันที่ทานฟรี เจ้าหลอกใช้ข้า ตอนนี้ก็ คิดดีๆเลยว่าจะตอบแทนข้ายังไง”

พูดคุยกับคนแบบนี้ ต้องคอยระมัดระวัง เพราะถ้าไม่ ระวังเพียงนิดเดียวก็อาจจะเจอกับเคราะห์อันใหญ่หลวง ได้

สำหรับนางแล้ว นางยอมทุกอย่าง แต่ถ้าเขากล้าคิด ทำร้ายตระกูลจางละก็ นางไม่มีทางทนได้แน่นอน

“ในเมื่อท่านอ๋องพูดแบบนี้ ก็น่าจะมีความคิดในใจแล้ว พูดออกมาตรงๆเถอะ”

แววตาที่ผู้ชายมองเขามีความชื่นชมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย “เจ้าฉลาดมาก แต่ข้าไม่ชอบผู้หญิงที่ฉลาดเกินไป ใน เมื่อเจ้าติดค้างข้า งั้นก็ใช้ตัวเจ้าเองมาตอบแทนละกัน ได้หรือไม่?”

ใช้นาง? เขาแน่ใจนะว่าต้องการแค่นางคนเดียว?
จางยวี่โหร่วไม่ค่อยเข้าใจ นางมองเขาด้วยความ ระมัดระวัง

“ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องไม่เคยรู้จักข้า ตอนนี้ท่านก็รู้ แล้วว่าถูกข้าตั้งใจวางแผนฉุดเข้ามาในเรื่องนี้ ในเมื่อรู้ แล้วยังอยากให้ข้าอยู่ต่อ หรือท่านรักข้าตั้งแต่แรกพบ หรือ?”

“เข้าประตูของข้าแล้ว ก็เป็นของของข้า ระหว่างทาง นั้นไม่สำคัญ สำคัญที่ผลต่างหากล่ะ”

เขาตอบได้ถูกต้องจริงๆ ไม่ทำให้ตนเองเสียเปรียบ เลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังทำให้ฝ่ายตรงข้ามเถียงไม่ได้

นางควรจะดีใจที่เขาไม่ใช่ศัตรู สู้ประจบเขาไม่ดีกว่า หรือ บางทีในอนาคตอาจจะต้องการความช่วยเหลือ จากเขา มีฐานะของสามีภรรยาแล้ว ก็น่าจะของความ ช่วยเหลือได้ดีมากขึ้น

ถ้าเช่นนั้น….ความต่อรองระหว่างพวกเขา ก็ถือว่า สําเร็จแล้ว

จางยวี่โหร่วไม่สงวนตนเองอีกต่อไป นางดึงเสื้อบนตัว ออกช้าๆ ร่างกายที่งดงามปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา

แค่ได้แก้แค้น ความบริสุทธิ์หรือชื่อเสียง ก็ไม่สำคัญ สักอย่าง

นางหลับตาลงเบาๆ แต่ขนตาที่สั่นเบาๆของนางดูท่าจะเผยให้เห็นถึงความไม่สบายใจและตื่นเต้นในใจของ นาง

รอไปสักพัก สิ่งที่นางคิดไม่ได้เกิดขึ้น กลับมีเสื้อตัว หนึ่งคุมที่ตัวของนางจากด้านหลัง ห่อร่างกายของนาง ไว้

จางยวี่โหร่วหันไปมอง ผู้ชายคนนั้นเป็นคนทำ ความ หมายของเขาคือ…จะปล่อยนางไปหรือ?

“ข้าต้องการตัวเจ้า ก็หมายถึงทุกอย่างของเจ้า ไม่ใช่ แค่ร่างกาย รวมถึงใจของเจ้าด้วย ถ้าสักวันที่ใจของเจ้า ทั้งดวงมีไว้เพื่อข้า ข้าถึงจะยอมสนุกกับเจ้า”

พูดจบ เขาก็เปิดมุ้งแล้วเดินออกไปเลย เงาของเขา หายไปจากห้องด้วยความเร็ว

จางยวี่โหร่วกำลังอึ้ง ดูก็รู้ว่ายังไม่ได้สติ

เขาพูดอะไรนะ? อยากได้ใจของนาง?

เหอะ….ใจของนางตายไปนานแล้ว เขาไม่มีวันได้ แน่นอน

ตอนนี้จางยวี่โหร่วก็รู้แผนของตนเองชัดเจนแล้ว นาง ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เรื่องทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่ นางหวัง
เช้าวันรุ่งขึ้น เสี่ยวเฟิงก็เข้ามากราบทูล บอกว่าองค์ ชายสามมาพบนาง และจะชวนนางออกไปเที่ยวเล่น และบอกอีกว่าคุณหนูจ้าวก็มา รออยู่ด้านนอกด้วยกัน

ดูแล้วจ้าวซินซินคนนี้ช่างมีความรับผิดชอบนัก แต่ก็ดี ตามที่นางหวังพอดีเลย

“พวกเขามาด้วยกันได้ยังไง?”

“ไม่ถือว่ามาด้วยกัน คุณหนูจ้าวมาก่อน ผ่านไปหนึ่งชั่ว ยามองค์ชายสามถึงมา มาหาคุณหนูทั้งคู่ค่ะ” เสี่ยวเฟิง ตอบ

“พวกเขาดูใจตรงกันดี ได้สิ อยู่บ้านเบื่อหน่ายมาสอง วันแล้ว ข้าก็อยากออกไปเดินเล่นข้างนอกพอดี ไปกัน เถอะ”

“งั้นดีเลย ข้ามาแต่งตัวให้คุณหนู จะต้องแต่งให้สวยๆ ก่อนออกจากบ้าน

นางสมควรจะแต่งตัวดีๆสักที ถ้าจะให้ดีต้องแต่งแบบ เมื่อคนเห็นแล้วสวยมากจนลืมไม่ลง นางไม่มีทางให้ ตนเองเสียเปรียบ และให้คนต่ำๆได้ดี

เป่ยจื่อห้าว ข้าจะทำให้เจ้ารู้ ว่าอะไรคือการที่มอบใจ ออกไปทั้งดวง จากนั้นก็โดนทอดทิ้งเหมือนขยะอย่าง โหดเหี้ยม ชาตินี้ ข้าต้องถือไพ่เหนือกว่า

ตอนนี้เป่ยจื่อห้าวและจ้าวซินซินก็รอไม่ค่อยไหวแล้วแต่เห็นที่นี่เป็นตำหนักไท่ซือ และมีบ่าวอยู่เต็มเลย เลย ไม่อาละวาด

ในที่สุด ก็มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากประตู จากนั้น ก็ตามด้วยจางยวี่โหร่วเดินออกมา

ตอนแรกเป่ยจื่อห้าวดื่มชาอยู่ แต่พอเห็นคนที่สวย ราวกับนางฟ้า เขาก็อึ้งไปหมด

นี่คือจาง วี่โหร่วไม่ผิด แต่เหมือนกับว่าเขาพึ่งเจอนาง ครั้งแรกเลย

ก่อนหน้านี้นางไม่เคยแต่งตัว เครื่องประดับก็ใส่น้อย มาก สภาพแบบนั้นเขายังรู้สึกเลยว่านางสวยธรรมชาติ ยิ่งไม่ต้องพูดในสิ่งที่นางแต่งในวันนี้เลย

กระโปรงยาวสีแดงสดทำให้ผิวของนางดูขาวราวกับ หิมะ ดูสง่างามมาก บนศีรษะมีปี่มปักผมรูปหงส์ปักอยู่ ดูหรูหราและสูงส่งมาก บวกกับการแต่งหน้าอ่อนๆของ นาง สวยสง่ามากจริงๆ เป่ยจื่อห้าวแค่มองไปแวบเดียว แต่กลับไม่สามารถละสายตาได้เลย

ตอนที่จ้าวซินซินรู้ว่าวันนี้จะไปเที่ยวเล่นกัน นางก็แต่ง ตัวเป็นพิเศษ แต่พอตอนนี้มาเทียบกับจางยวี่โหร่วแล้ว นางต่ำต้อยลงไปถึงดินเลยทีเดียว ยังจะให้ผู้คนหันมา สนใจนางได้เยี่ยงไร

นางน่าจะพึ่งรู้ตัวตอนนี้ว่า เมื่อก่อนจางยวี่โหร่วไม่ อยากเทียบกับนางจริงๆ ขอแค่จางยวี่โหร่วใส่ใจเล็กน้อย ตัวเองก็พ่ายแพ้อย่างสั้นหวังเลย

“โหรวเอ่อ เจ้าสวยมากจริงๆ!” เป่ยจื่อห้าวลุกขึ้นแล้ว เดินตรงไปยังข้างหน้าของจางยโหร่วเขามองนางจน อึ้งไปเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ