ฝันชะตา:ชายาเกิดใหม่

ตอนที่ 17 มีชีวิตใหม่เพื่อตนเอง



ตอนที่ 17 มีชีวิตใหม่เพื่อตนเอง

กลางดึก ณ ห้องหลังตำหนักไท่ซือ เสียงอ่อนๆแต่ สว่าง

ในห้องไม่ได้จุดเทียน ไฟสว่างมาจากไข่มุกกลางคืน บนโต๊ะ ไข่มุกใหญ่เท่ากำปั้น ดูก็รู้ว่าราคาแพงแค่ไหน

แสงสว่างของมันสามารถทำให้ทั้งห้องสว่างไสว

เพราะงั้นเลยจำเป็นต้องจุดไฟที่ไหน?

ตอนนี้เวลาก็ดึกแล้ว เสี่ยวเฟิงเดินเข้าไป ใช้ผ้าสีขาว บางห่อไข่มุกกลางคืนไว้ แสงสว่างในห้องเลยจางลง เล็กน้อย วิธีนี้ช่วยลดแสงสว่างของไข่มุกกลางคืนได้ดี เลยทีเดียว ถ้าอยากให้มืดกว่านี้ก็แค่ไปห่ออีกหนึ่งชั้น หรือเปลี่ยนเป็นผ้าที่สีมืดกว่านี้

มีเสียงน้ำดังมาจากหลังผ้าที่กั้นไว้ เห็นเงารูปร่างสวย งามลางๆบนผ้า ทำให้คนสามารถคิดไปได้ไกล เห็นได้ ชัด คนในนั้นกำลังอาบน้ำอยู่

เสี่ยวเฟิงถือดอกไม้หนึ่งตะกร้าเดินไปหลังผ้า จากนั้น ก็ค่อยๆโปรยดอกไม้ลงไป

“คุณหนูคะ อุณหภูมิน้ำพอดีไหมคะ?”

“อืม ใช้ได้”

จางยวี่โหร่วอาบน้ำ เสี่ยวเฟิงคอยรับใช้อยู่ข้างๆ นี่ทําให้นางนึกถึงชาติที่แล้วชีวิตที่ลำบากของพวกเขาทั้ง สองในวังคูนหนิง ถึงแม้ฮองเฮาอย่างนางจะเหลือแค่ชื่อ ความเป็นอยู่นั้นลำบากยิ่งกว่าบ่าว แต่เสี่ยวเฟิงก็ไม่เคย ทอดทิ้งนาง

ความลำบากทำให้รู้ว่าใครจริงใจ คำนี้พูดถูกจริง

เวลาที่สงบสุขอย่างตอนนี้ นางกลับรู้สึกมีค่าเหลือเกิน

“เสี่ยวเฟิง เจ้าไม่ต้องอยู่ดูแลข้าแล้ว เจ้าไปพักผ่อน เถอะ”

เสี่ยวเฟิงยิ้มแล้วพูด “คุณหนูพูดอะไรกัน การได้รับใช้ คุณหนูเป็นบุญวาสนาของข้า ข้าดีใจมากกว่า”

“เจ้าโตมาพร้อมกับข้า เป็นน้องสาวที่ดีของข้า หลัง จากนี้ห้ามว่าตนเองเป็นบ่าวนะ” จางยวี่โหร่วจับมือของ นางแล้วพูดด้วยความจริงจัง

เสี่ยวเฟิงตกใจจนรีบคุกเข่าแล้วกราบ “คุณหนูพูด อะไรกัน ข้าน้อยต่ำต้อย จะมีศักดิ์เท่าคุณหนูได้เยี่ยงไร ไม่คู่ควรที่จะเป็นน้องสาวของคุณหูหรอกค่ะ”

จางยวี่โหร่วมองดูเสี่ยวเฟิงในตอนนี้ ก็นึกถึงตอนนั้นที่ นางโดนคนของจ้าวซินซินตีจนตาย

ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับกัดฟันไม่ เอ่ยปากสักคำ และไม่ขอชีวิตด้วย

น้ำตา ไหลออกมาเต็มเบ้าตา อาจจะเป็นเพราะว่ามีไอน้ำจากน้ำอุ่นเลยเห็นไม่ค่อยชัดเจน เสี่ยวเฟิงยังคง คุกเข่าอยู่ที่พื้นไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของนาง

“ข้าว่าเจ้าคู่ควร เจ้าก็คู่ควร ยังไม่รีบลุกขึ้น จากนี้ไป ถ้าเวลาไหนไม่มีบ่าว เจ้าก็เรียกข้าว่าพี่สาว และห้าม เรียกตนเองว่าบ่าว

ชาติก่อนนางดีกับจ้าวซินซินขนาดนั้นกลับแลกกับการ หักหลังและใส่ร้าย นางมีตาหามีแววไม่ดี เลยต้องเจอ กับเคราะห์พวกนั้น แต่ในเมื่อตอนนี้นางเข้าใจทุกอย่าง แล้ว ทำไมถึงไม่ทำดีกับคนที่ดีกับตนเองล่ะ? หลังจากนี้ นางจะทำดีกับเสี่ยวเฟิง ไม่ทำให้บุญคุณที่นางเคยช่วย นางด้วยชีวิตให้สูญเปล่า

“แต่ว่า นี่.………….”

“ถ้าเจ้ายังไม่ฟัง ข้าจะโกรธแล้วนะ”

เสี่ยวเฟิงไม่ยอมให้นางโกรธแน่ เห็นนางพูดเช่นนี้ เสี่ยวเฟิงเลยลุกขึ้น แล้วเรียกนางด้วยความระมัดระวัง “ท่านพี่”

“อืม น้องรัก!”จางยวี่โหร่วจับมือของนาง ใบหน้าเผย ให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย

“ท่านพี่ เสี่ยวเฟิงไม่ค่อยเข้าใจ คิดไปพักใหญ่ก็ไม่รู้ จะเอ่ยปากยังไง คือ…เรื่องของคุณหนูจ้าว”

พูดถึงจ้าวซินซิน สีหน้าของจ้าวยวี่โหร่วก็เย็นชาเล็กน้อย นางพูดเบาๆ “เรื่องอะไร?”

“เห็นวันนี้ที่คุณหนูท่ากับคุณหนูจ้าว หมายความว่า คุณหนูออกห่างนางหรือ? หลังจากนั้นท่านก็ให้ข้าสั่งคน ตามนางไป ปรากฏว่านางไปที่ตำหนักองค์ชายสามจริง ในเมื่อคุณหนูสงสัยนางนานแล้ว ทำไมยังพูดจาพวก นั้นต่อหน้านางอีก ไม่กลัวนางไปฟ้ององค์ชายสามหรือ คะ?”

“เหอะ….ข้าต้องการแบบนี้แหละ ถึงนางจะไปฟ้องแล้ว ได้อะไร? องค์ชายสามจะฟังนางแล้วทิ้งการแต่งงาน กับข้าหรือ? เขาทิ้งข้าได้ แต่กลับทิ้งตระกูลจางไม่ได้ หรอก อีกอย่างเขาเป็นคนที่มีใจที่สงสัยแรงมาก ถ้าข้า ไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความอันตราย เขาอาจจะคิดว่าข้า ยังคงเป็นจางยวี่โหร่วที่อ่อนแอ ใจทั้งดวงให้เขาเอาไป ทำลาย มีแต่ของที่ยังไม่ได้รับเท่านั้นแหละ ที่มีค่าที่สุด”

ถ้าให้เป่ยจื่อห้าวมั้นใจอยู่อย่างงั้น นางไม่ทำอะไรทั้ง สิ้นให้ตนเองรักเขาอย่างโง่ๆ งั้นแผนแก้แค้นของนาง ก็ คงไม่สนุกแล้วสิ

เสี่ยวเฟิงมีสีหน้าที่แปลกใจ ตอนแรกคิดว่านางแค่ สงสัยคุณหนูจ้าว กลับคิดไม่ถึงว่านางสงสัยองค์ชาย สามด้วย คุณหนูชอบองค์ชายสามมากเลยไม่ใช่หรือ?

ถึงเสี่ยวเฟิงจะเป็นแค่สาวใช้ แต่ตำหนักไท่ซือเกิด เรื่องแบบนี้ นางก็พอจะรู้อยู่บ้าง

ก่อนหน้านี้ที่คุณหนูอยากแต่งงานกับองค์ชายสาม ทั้งท่านไท่ซือและนายท่านกับนายหญิงท่านก็เคยเตือน แล้วอีกทั้งพี่ชายของคุณหนูก็ไม่เห็นด้วย แต่คุณหนูก็ ยังยืนยันจะแต่งงานกับองค์ชายสาม บอกว่านอกจาก เขาแล้วจะไม่แต่งกับใครทั้งนั้น ทุกคนเลยทำอะไรไม่ ได้

ถึงนางจะไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าไท่ซือเป็นคนที่มีความ รู้มาก ถ้าพวกท่านไม่ชอบใจใครก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคุณหนูดื้อรั้นมากเกินไป

แต่นางขอบคุณหนูในตอนนี้มาก สามารถแยกแยะ ความแค้นและความดีได้ชัดเจน ฉลาดหลากแหลม แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก

“คุณหนู……” เสี่ยวเฟิงเหมือนอยากพูดอะไร แต่พูดถึง ครึ่งก็โดนจางยวี่โหร่วขัดก่อน

“เจ้าเรียกข้าว่าอะไร ถ้ายังเรียกผิดอีก ต้องตบหน้า แล้วนะ”

“ค่ะท่านพี่ ข้าพบว่า หลังจากที่ท่านพี่ขึ้นเกี้ยวผิด ท่าน ก็เปลี่ยนไปมากเลยค่ะ”

ใช่สิ นางเปลี่ยนไปเยอะเลย เพราะใครก็คิดไม่ถึง ชาติก่อนนางผ่านเรื่องที่น่ากลัวมากขนาดไหน ถ้านาง ยังไม่หลักจำ และให้คนอื่นทำร้ายอยู่อย่างงั้น นางก็ คงจะโง่จนไม่มียาอะไรช่วยได้อีกแล้ว

“ไม่ใช่ข้าเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนข้าโง่เกินไปอยากจะมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นแค่นั้นเอง” นางตักน้ำขึ้นมา จากอ่างน้ำแล้วราดลงตัวตนเองเบาๆ ร่างกายแช่อยู่ใน น้ำอุ่นถึงจะอบอุ่นมาก แต่ใจของนางกลับเย็น

เสี่ยวเฟิงไม่เข้าใจคำพูดของนางอยู่แล้ว แต่คิดว่านาง เป็นแบบนี้เพราะเรื่องนี้ เลยรู้สึกแย่แค่นั้นเอง

“เอาเถอะ เจ้าไปพักก่อนเลย เดี๋ยวข้าอาบน้ำเสร็จก็จะ ไปนอนแล้ว เจ้าไม่ต้องมาเฝ้าอยู่ตรงนี้หรอก”

“ค่ะ!” เสี่ยวเฟิงวางเสื้อและผ้าเช็ดตัวไว้ที่ข้างๆที่นาง สามารถหยิบขึ้นมาได้ง่าย และปิดประตูเดินออกไป

จางยวี่โหร่วเริ่มเงียบสงบ ตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่า เป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซินร่วมมือกันแล้ว หลังจากนี้นาง ต้องคอยระวังจ้าวซินซินให้มากขึ้น คาดว่าเรื่องทุกอย่าง ของตำหนักไท่ซือนางต้องไปรายงานให้เป่ยจื่อห้าว แน่นอน งั้นนางก็ต้องทำให้กลับด้าน หลอกใช้เพื่อนสนิท คนนี้ให้ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ