ตอนที่ 11 โอกาสที่แย่งชิงกันอย่างเป็นธรรม
ห้องหนังสือเงียบสงบเหมือนความตาย ราวกับว่าแค่ เสียงที่ดังจากเข็มตกลงพื้นยังได้ยินอย่างชัดเจน เผย ให้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ตกอยู่ในความตรึง
ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมปล่อยมือ ตอนนี้ก็ทำได้ เพียงรอคนที่มีอำนาจตัดสินสูงสุด——ฮ่องเต้ มาไต่สอน แล้วล่ะ!
เห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สำหรับท่านแล้ว เป็นเรื่องที่ยากที่จะแก้ไขพอสมควร เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล ตัดสินใจลำบากมาก
คนหนึ่งเป็นลูกชายของท่าน เลือดข้นกว่าน้ำ อีกคน เป็นข้าราชการที่ท่านพึงพอใจมากที่สุด เสียเหงื่อและ แรงนับไม่ถ้วนเพื่อช่วยท่านคุ้มครองบัลลังก์และขยาย เอกราช
ตามเหตุและผลแล้ว ท่านไม่สามารถลำเอียงฝ่ายไหน โดยตรงได้!
เวลานี้ ลี่เฟยสบตากับเป่ยจื่อห้าวกะทันหัน จา กนั้นเป่ยจื่อห้าวก็เข้าใจแล้ว ทันใดนั้นก็หยิบมีดสั้นออก มาจากแขนเสื้อ และแทงเข้าใส่ตัวของตนเองในพริบตา เลือดสดย้อมเสื้อของเขาจนแดงไปหมด
ทุกคนต่างก็ตกใจกันหมด ไม่คิดว่าเขาจะทํ พฤติกรรมเช่นนี้ จางยวี่โหร่วยังไม่สามารถดึงสติกลับ มาได้ เพื่อที่จะแต่งงานกับนางเป่ยจื่อห้าวกลับทำเรื่อง ทําร้ายตนเองแบบนี้ได้
แต่ในใจของนางนั้นไม่มีความซึ้งเลยแม้แต่น้อย กลับ ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย เขากล้า ทำร้ายตนเองขนาดนี้ ช่างเป็นผู้ที่จิตใจเล่ห์เหลี่ยมจริง น่ากลัวที่สุด
ถ้าเขาอยากตายจริง สู้ควักหัวใจออกมาทีเดียวให้ เรื่องจบๆไม่ดีกว่าหรือ หน้าซื่อใจคดแบบนี้ ก็แค่อยาก หลอกให้นางเชื่อใจ ช่างน่าตลกจริงๆ
วินาทีนั้น ภายใต้หน้ากากและแววตาที่เย็นชาของหัน ยี่ฉีเปลี่ยนเป็นคมลึกมากขึ้น องค์ชายสามคนนี้ ใช่ย่อย เลยจริงๆ
เรื่องของราชการเขาไม่เคยถามไถ่ สำหรับเป่ยจื่อ ห้าวแล้ว เขาไม่มีความจำใดๆ เคยได้ยินแค่ว่าองค์ชาย สามนิสัยอ่อนโยน โฉมงาม ไม่ดื่มฉ่ำกับอำนาจ เป็นคน ที่น่ายกย่องคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูแล้ว เป็นเพียงแค่ข่าวลือ จริงๆ
ฮ่องเต้ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน ท่านลุกขึ้นมาจาก บัลลังก์มังกรกะทันหัน “รีบไปตามหมอหลวงมา!”
ลี่เฟยเห็นแบบนี้แล้วก็รีบพุ่งเข้าไปบนตัวของเป่ยจื่อ ห้าวแล้วร้องไห้เสียงดังใหญ่ “ลูก ทำไมเจ้าโง่เยี่ยงนี้ แม่มีเจ้าแค่คนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า จะให้แม่มีชีวิต ต่อยังไง!”
ถึงเป่ยจื่อห้าวจะบาดเจ็บ แต่สายตาของเขากลับมอง ไปทางจางย โหรวอย่างอาลัยอาวรณ์ สีหน้าแบบนั้น ใครๆก็ต้องหลงเชื่อและซึ้งในความหลงใหลของเขา
ฮ่องเต้พูดด้วยความสงสัยและแฝงด้วยความเกลียด ที่ลูกไม่รักดี “จื่อห้าว เจ้าเป็นถึงองค์ชายสาม ทำร้าย ตนเองเช่นนี้ได้อย่างไร ถ้าเจ้าเกิดเป็นอะไรไป เจ้าจะ ให้เสด็จแม่ของเจ้าทำเยี่ยงไร? หรือเจ้าจะให้พวกข้าทน อยู่กับความโศกเศร้าที่ต้องเห็นลูกตายก่อนตนเอง?”
สีหน้าของเป่ยจื่อห้าวซีดขาว พูดด้วยเสียงอ่อนแรง “เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ขออภัยครับที่ลูกอกตัญญู แต่ลูก ชอบจางยวี่โหร่วมากจริงๆ ลูกรักนางอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ พบกันครั้งแรก ชาตินี้จะไม่แต่งงานกับใครนอกจากนาง นางก็คือชีวิตของลูก ถ้าไม่ได้ลงเอยกับคนที่ลูกรัก แล้ว ที่ลูกยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร
“เจ้า……ลูกอกตัญญู ทำไมถึงไม่มีอนาคตได้เยี่ยง นี้!” ฮ่องเต้โกรธกริ้วจนไอไม่หยุด ท่านเหนื่อยเรื่องงาน ราชการอยู่แล้ว จนกลายเป็นโรคประจำตัว ขณะนี้ยัง โดนเป่ยจื่อห้าวกระทบเช่นนี้อีก
เป่ยจื่อห้าวก้มหน้าลงเบาๆ “ใช่สิ สำหรับลูกแล้ว บัลลังก์ไม่สำคัญเท่าคน ‘ขอแค่หนึ่งเดียวที่จริงใจ จน แก่เท่าไม่จากกัน’ ลูกไม่ดีเอง ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง”
วินาทีนี้ แม้กระทั่งจางไท่ซือก็ซึ้งไปกับเขา ก่อนหน้านี้ เขาพยายามกีดขวางงานแต่งงานของหลานสาวตนเอง และองค์ชายสาม เพราะเขารู้สึกมาตลอดว่าองค์ชาย สามไม่ได้ผ่าเผยเหมือนเปลือกนอก แต่ว่าตอนนี้…….เขา สามารถทิ้งชีวิตได้เพื่อยวี่โหร่ว นี่คงเพียงพอแล้วต่อ การพิสูจน์ความจริงใจของเขา
ชาติก่อนก็เป็นเช่นนี้ ในตอนแรกตระกูลจางไม่เชื่อ ใจเป่ยจื่อห้าว อาจจะเป็นเพราะว่าเขาซ่อนไว้ดีเกินไป ค่อยๆคลายความระมัดระวังที่มีต่อเขา จากนั้นก็เต็มใจ ที่จะช่วยเขาในการขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้
มีแค่จางยวี่โหร่วเท่านั้นที่รู้ว่านี่เป็นเพียงแผนการของ เขา เขาทำตัวท้อใจแบบนี้สามารถทำให้ฮ่องเต้คลาย ความระมัดระวังในตัวเขาได้ คิดว่าเขาคงไม่มีใจที่จะไป แย่งชิงบัลลังก์ และคงไม่เป็นภัยคุกคามให้กับองค์ราช ทายาท เมื่อลดความระวังจากเขาไปหนึ่งส่วน ความรัก ที่มีต่อเขาก็ย่อมเพิ่มขึ้นมาหนึ่งส่วนเช่นกัน
วิธีนี้ของเป่ยจื่อห้าวเทพจริงๆ ยิงปืนนัดเดียวได้นก สองตัว ตอนนี้ท่านปู่ของนางก็หลงเชื่อเขาไปแล้ว
องค์ชายแท้ๆกลับทิ้งชีวิตเพื่อนางได้ ถ้าเวลานี้นาง ยังจะปฏิเสธอีก ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการบังคับให้เขาไป สู่เส้นทางแห่งความตายไม่ใช่หรือ? อย่าพูดถึงลี่เฟย เลย แค่ฮ่องเต้ก็คงไม่ปล่อยนางไว้แน่ อีกอย่างอาจจะ ลามปามไปถึงตระกูลจางด้วย
แล้วตอนนี้…ควรจะทำเยี่ยงไรดี?
นางพยายามคิดหาวิธี ทํายังไงถึงมีข้อแก้ตัวที่ดี ที่จะ สามารถทำให้หลุดพ้นจากเป่ยจื่อห้าวได้ และสามารถ ปิดปากพวกเขาได้
ทันใดนั้น มือที่กว้างใหญ่ออกแรงเบาๆจับไปยังเอว ของนาง จางย โหร่วเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นแววตาที่คม สนิทราวกับเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดจ้องนางอยู่ เหมือน กําลังบอกนางว่า ยังมีข้าอยู่
ไม่รู้ทำไม ในใจของนางกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมามาก เลยทีเดียว
ถึงเป่ยจื่อห้าวจะต้องใช้ชีวิตในการต่อรอง ก็จะแย่ง นางกลับมาให้ได้ เวลานี้ก็น่าจะมีเพียงเขาคนเดียวแล้ว แหละที่มีศักดิ์และสถานะที่สามารถช่วยนางได้
ทันใดนั้น ในห้องหนังสือก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น สะกด สายตาของทุกคน หันกลับไปก็พบกับเงาของแผ่นหลัง สูงที่เป็นเอกลักษณ์ หน้ากากหมาป่าที่น่ากลัว ทำให้คน ไม่เห็นโฉมหน้าของเขา แต่ผิวที่อยู่ภายนอกหน้ากากนั้น ขาวเนียน รูปทรงริมฝีปากสวยที่น่าดู ทำให้คนคิดภาพ ไม่ออกว่าเขาจะน่าเกลียดและน่ากลัวเหมือนกับที่ลือกัน
ริมฝีปากบางของหันยี่ฉียิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา “องค์ชายสามหลงใหลในความรักเช่นนี้ ขนาดข้ายังซึ้ง ไปด้วยเลย!”
ประโยคนี้ฟังดูประชดมากกว่า เป่ยจื่อห้าวรู้สึกโมโห ในมากอยู่ในใจ อ๋องชิงผินคนนี้สมควรตาย แย่งผู้หญิงของเขาไม่พอ ตอนนี้ยังมาดูถูกเขาอีก สักวัน เขาต้อง ได้ตำแหน่งที่มีศักดิ์ที่สุดนี้ให้ได้ และกำจัดคนพวกนี้ที่ เหยียดหยามเขา ขวางทางเขา และไม่เข้าตาเขาทิ้งให้ หมด
ฮ่องเต้ไออยู่สักพัก ในที่สุดก็เริ่มดีขึ้น ตอนนี้ท่านยิ่ง ปวดหัวมากขึ้น เขาหวังว่าหันยี่ฉีจะเสียสละจางยวี่โหร่ว ทำให้ลูกชายของเขาสมหวัง ไม่เช่นนั้นต้องมีคนตายแน่ ถ้าเผยแพร่ออกไป ลูกชายของท่านทั้งคนตายเพราะผู้ หญิง คงจะเป็นเรื่องขบขันไปทั่ว เสียหน้าราชวงศ์หมด
“อ๋องชิงผินหมายความว่าอะไร?”
“ฮ่องเต้ ข้าน้อยแค่เห็นแก่ความรักลึกซึ้งที่องค์ชาย สามมีต่อชายาของข้าน้อย เลยคิดทางออกได้ สามารถ ให้เขาได้รับโอกาสที่แย่งชิงกับข้าน้อยอย่างเป็นธรรม”
แย่งชิงกันอย่างเป็นธรรม? ทุกคนต่างมองเขาด้วย ความตกใจและไม่เข้าใจ เขาหมายความว่าอะไร?
จางย โหรวก็รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ ทุกครั้งที่ผู้ชายคนนี้ ออกไพ่ จะอยู่นอกแนวคิดนางเสมอ และไม่เป็นไปตาม เหตุผล
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ