เพลิงพยาบาทผลาญใจรัก

3



3

ห้าปีต่อมาก็สมหวัง…

คุณเกสรทิพย์ สุระนันท์ อายุยี่สิบสี่ ไฮโซรูปร่างเล็กหน้าตาน่า รักราวตุ๊กตา เพียบพร้อมทุกอย่างทำให้อาเธอร์ยอมสละโสด คุณหมอไม่เย็นชาเมื่ออยู่กับว่าที่นายหญิง ทุกคนในบ้านรอคอย ให้คุณเกสรทิพย์เข้ามาอยู่ในบ้าน คุณม่านมุกน้องสาวคุณหมอ เองก็ยินดี

อาเธอ รักน้องสาวมากคิดว่าเมื่อตนเองแต่งงานจะส่งม่านมุก ไปเรียนเมืองนอกอย่าง แต่กลับมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแปลงทุก อย่าง อาเธอร์จับได้ว่า วีระเดช รักษ์มณี ชายหนุ่มอายุยี่สิบหก ไอ้ ผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตา เด็กในบ้านมีอะไรกับน้องสาว ทุกอย่าง รอดพ้นสายตาเขาเพราะงานหนักที่ต้องดูแลรับผิดชอบ

คนได้ชื่อว่าเข้าโดนซ้อมปางตาย ถูกขังในห้องใต้ดินอยู่สอง วันเต็มๆ ลมมะณีร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เธอกอดขา อ้อนวอนเจ้านายที่คิดเสมอว่าคือเทพบุตร นักบุญ วอนให้ปล่อย พี่ชาย ผลที่ได้คือโดนจับขังในห้องนอนห้ามออกไปไหน

ป้าแม่บ้านวิ่งวุ่นช่วยเหลือ พูดเสียงสั่นเธอสองพี่น้องต้องตาย อาเธอร์เกลียดคนอกตัญญูที่สุด เช่นเดียวกับคุณคืน คณิสร บิดา ของเขา

ภาพพี่ชายเปื้อนไปด้วยเลือดที่ใบหน้า จมูกหัก ปากแตกยับ ทำให้ลมมะณี ใจกล้าไปหากุญแจห้องใต้ดินแห่งนั้น แต่โชคร้ายที่โดนจับได้ ลมมะณียกสองมืออ้อนวอนแต่โดนไล่ตะเพิด โชคดี ที่เกสรทิพย์เข้ามาช่วยเหลือ

ลมมะณีเป็นเด็กรับใช้แต่ก็รุ่นราวคราวเดียวกับม่านมุกและ เกสรทิพย์ ทั้งสามคนจึงสนิทสนมกัน ลมมะณีไม่คิดตีเสมอแต่ผู้ หญิงทั้งสองก็ดีกับเธอมาก แตกต่างกับคุณหมอที่ไม่เคยแม้มอง

เห็นตัวตนของเธอ

“ไม่น่าน่าเลี้ยงไว้เลย กินบนเรือน บนหน้าฉัน ยังมีหน้ามา ขอร้อง คิดบ้างไหมเธอมีแค่สองคนถ้าพ่อแม่ฉันไม่เลี้ยงไว้ป่านนี้ จะไปเป็นขอทานที่ไหน เกิดมาอยู่สบาย จบก็ได้มีงานทำ

ร้องไห้กับคำพูดดูถูกเหยียดหยาม แต่ทุกอย่างคือเรื่องจริง “คุณม่านมุกจะเสียใจมากนะคะ ถ้ากลับมารับรู้เรื่องนี้

ในความหวาดกลัว เธอยังพยายาม ไม่กลัวเสียงตะคอก

คุณม่านมุกไปออกค่ายอาสาพัฒนาที่จังหวัดทางภาคใต้ ไม่มี ใครติดต่อไปบอก ใครจะช่วยเธอ ช่วยพี่ชายได้ นอกจากตัวเธอ เท่านั้น

“อย่าคิดว่าแค่น้องสาวฉันเอ็นดู เธอจะทำอะไรก็ได้ ” คางมน โดนบีบอย่างแรง ลมมะณีหลับตา

อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก แม่สั่งสอนให้รู้จักบุญคุณเจ้านาย เธอสิบ ขวบยังรับใช้เจ้านายห่างๆ เพราะแม่กลัวเข้าไปรุ่มร่าม ไม่รู้จัก กาลเทศะ โตขึ้นอีกหน่อยได้รับใช้เหมือนเดิมแม้เธอทำอะไรเป็น มากมายก็ยังไม่ได้เข้าใกล้สาเหตุเพราะคุณหมออาเธอร์ลูกชายคุณท่านไม่ชอบคนรับใช้ผู้หญิง และยิ่งถ้ายังเด็กก็ห้ามเข้ามา รุ่มร่าม

ไม่ได้รับใช้แต่รู้ทุกอย่างที่เจ้านายขอบทาน เธอเข้าครัวกับแม่ เสมอ จนแม่จากไปเมื่อเธออายุสิบห้า การดูแลอาเธอร์เป็นของ

ป้าอีกคน เธออยากดูแลเจ้านายทำได้เพียงแอบมองห่างๆ

“น้องดาครับเหม่อไปถึงไหน กิน กิน

“พี่นิมิตร” ลมมะณีสะดุ้งก่อนยิ้มให้เพื่อนพี่ชายซึ่งมารับเธอ หลังสอบเสร็จ ทั้งสองคิดว่าวันนี้จะไปเยี่ยมพี่เดชด้วยกัน

“รีบกินสิ พี่มีงานต้องทำนะครับ

นิมิตรหนุ่มวัยยี่สิบสี่เร่งน้องสาวเพื่อนที่คิดมากกว่าน้องสาว คิดมาตลอดต่อไปจะดูแลเธอเอง รอให้เธอพร้อมและหายเศร้า เวลานั้นลมมะณี คงเรียนจบพอดี

ลมมะณีรีบคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากเพราะเธอเองต้องกลับ บ้านให้ตรงเวลาทุกวัน นิมิตรจ่ายเงิน ลมมะณีลุกขึ้น ทั้งสองเดิน ออกจากร้านอาหารตามสั่งใกล้มหาวิทยาลัย นิมิตรส่งหมวกกัน น็อคให้ลมมะณี

“ดารู้ค่ะเดี๋ยวไม่ปลอดภัย”

สวมหมวกขึ้นนั่งบนรถคันโตทรงสปอร์ต ไม่อยากกอดเอวคน ขับแต่นั่งครั้งก่อนรู้ว่ารถนิมิตรแรงมากจึงต้องเกาะให้แน่นที่สุด ทางด้านคนขับอมยิ้มอย่างมีความสุข

ถึงวัดลมมะณีไปซื้อดอกไม้ก่อนเดินเคียงคู่นิมิตรไปหาพี่ชาย
สถูปขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าคือเงินเก็บส่วนหนึ่งที่ลมมะณีมี นิมิตรเป็นคนจัดการเรื่องนี้ขณะที่เธอกำลังโศกเศร้า

งานศพเล็กๆ ในวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำ เสมือนฝันที่ไม่ เคยตื่น หญิงสาวมือสั่นใส่ดอกไม้ในแจกัน น้ำตาก็พาลไหลออก มา “พี่สบายดีใช่ไหม อยู่กับพ่อและแม่ใช่ไหมคะ พร้อมหน้ากัน คิดถึงน้องคนนี้บ้างไหม

นิมิตรใจสะท้อนลูบเส้นผมดำขลับเบามือ “สัญญาพี่แล้วนะจะ ไม่ร้องไห้อีก คราวหน้าที่จะไม่พาเรามาถ้าร้องไห้แบบนี้”

“ขอโทษค่ะ”ลมมะณีป้ายน้ำตา นิมิตรเข้าไปใกล้มอบอกกว้าง ให้คนที่รักชบ

“พี่จะดูแลดาเอง อย่าร้องไห้

ดวงตามีน้ำตามองใบหน้าขาวนวล “กลับกันเถอะค่ะ

“ครับ” นิมิตรเองไม่อยากอยู่ต่อเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาคน ที่รัก เขาจูงมือนิ่มไปที่รถ ถามไถ่ว่าสอบเสร็จเมื่อไหร่ ถ้าว่างจะ ชวนไปเที่ยวที่บ้าน ลมมะณีอีกอัก

“พี่แค่อยากให้ดาเปิดหูเปิดตาบ้าง ทุกวันเรียนเสร็จกลับบ้าน ไม่เคยไปดูหนังกับพี่เลยนะ ชวนจนเหนื่อยล่ะ”

“ดาต้องช่วยแม่บ้านทำงานค่ะ

“บ้านนั้นมีคนเยอะนี่น่า ลาไม่ได้เลยหรือไงและพี่คิดว่าเจ้าของ บ้านไม่ดีกับดาเท่าไหร่หลังจากเดชมันเสีย” พูดไปมือสวมหมวก กันน็อกให้หญิงสาว ลมมะณีหาทางออก ไม่อยากให้นิมิตรู้เรื่องในบ้านคณิสร “ดายุ่งค่ะพี่ ขอโทษนะ

นิมิตรถอนหายใจแต่บอกว่าจะรอวันที่ว่าง ลมมะณีขึ้นรถก่อน รถจะเคลื่อนออกจากวัดเธอหันมองทางเดินไปยังสถูปพี่ชาย

พี่เดช เมื่อไหร่คุณม่านมุกจะฟื้นค่ะ ถ้าไม่มีวันนั้นหนูคงตาย ตามพี่ไปแต่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีนะพี่ ไม่ต้องอยู่เหมือนตายทั้งเป็น อย่างทุกวันนี้

รถเคลื่อนออกจากวัดช้าๆ ลมมะณีซบไหล่นิมิตรต้องการหา ที่พักพิงหัวใจ ร่างกายที่เหนื่อยล้า…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ