พ่อฮะ หนูบได้หม่ามีคนหนึ่ง

ตอนที่12 คนรู้จักทั้งนั้น



ตอนที่12 คนรู้จักทั้งนั้น

เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ทำนองนี้อยู่บ้าง

แต่นี่ครั้งแรกก็เจอเลย

อันที่จริง เพื่อนร่วมงานบางคนได้พบกับความสัมพันธ์ที่ดี เพราะร่วมดื่มและดูแลแขกเป็นอย่างดีอยู่ครึ่งค่อนเดือน

สีหน้าท่าทางของคนคนนี้ไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงไม่สามารถบอก ได้ว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี

“ได้”

เฉียวอวถึงพูดพลางนั่งลง

แล้วเธอก็ดื่ม …

“โอเคมั้ยคะ!” เมื่อเฉียวอวถงยอมแต่โดยดี คุณผู้ชายก็จ่าย ให้สามพันหยวน

แค่ไวน์แก้วเดียวเท่านั้น ปริมาณแอลกอฮอล์ก็ไม่ได้เยอะเท่า ไหร่

เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นไม่ได้คิดเหมือนเฉียวอวถง เมื่อต้อง เสียค่าใช้จ่ายในการดื่มไวน์สักแก้ว มันจะไม่ใช่แค่ไวน์หนึ่งหรือ สองแก้วอย่างที่พูด มันหมายถึงไม่มีที่สิ้นสุด

“จะดื่มกับฉัน? หรือจะดื่มมันด้วยตัวเอง?”
เฉียวอวถงชะงัก

“พี่หวาง เธอเพิ่งมาใหม่ยังไม่รู้กฎ ฉันจะดื่มกับพี่เอง” เพื่อน ร่วมงานเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย

เขาเป็นแขกประจํานี่เอง เฉียวอวถึงส่ายหน้า ในเมื่อเธอเลือก มาทำงานที่นี่เอง จึงชนแก้วกับพี่หวังดังกริ๊ก

ยังมีกฎอะไรอีกไหม?

ตอนนี้เธอแทบจะประคองสติเอาไว้ไม่ไหวแล้ว

“อย่ามายุ่งน่า!” พี่หวางยังคงอารมณ์ดีอยู่ “ฉันคุยกับผู้หญิง คนนี้ก็ดีอยู่แล้ว”

แล้วเพื่อนร่วมงานก็ถูกไล่ออกไป

พี่หวาง ฉันดื่มไม่ไหวแล้ว ฉันยังต้องทำงานอีก” เธอหาทาง

ถอย เงินก็สำคัญ แต่ความปลอดภัยสำคัญที่สุด

“ขอบคุณสำหรับไวน์ของคุณนะคะ” เขาจิบไวน์ไปแค่อีกเดียว เพราะมันไม่อร่อย เพราะปกติแล้วเขาจะไม่ดื่มไวน์ธรรมดาพวกนี้

“พอเหรอ ดื่มอีกสิ นี่เป็นไวน์ของเธอนะ!”

มองธนบัตรปเหมาสองปีกนั่นแล้วน่าจะราวๆ 20,000 หยวน

สำหรับผู้หญิงตระกูลเฉียวเงิน 20,000 หยวนนั้นถือว่าไม่มาก แต่สำหรับเฉียวอวถึงในตอนนี้นั้น เงิน 20,000 หยวนนั้นเท่ากับ เงินเดือนถึงสามเดือน

เงินยังคงเอาชนะความกังวลในใจได้
“พี่หวาง คุณพูดแล้วห้ามกลับค่านะ” เฉียวอวถึงในเวลานี้ ท่าทางแล้วเหมือนเด็กผู้ชายคนหนึ่ง “ฉันทำแน่ เธอหายห่วงได้ เลย!”

“ขอบคุณค่า!” สําคอของเฉียวอวถงแสบร้อนไปหมดเพราะ เธอดื่มไวน์เข้าไปไม่น้อย “ถ้างั้นฉันไปทำงานนะ

เมื่อรับเงินแล้วเฉียวอวถงก็รีบวิ่งไปที่บริเวณพักผ่อนของ พนักงาน

“ไอหยา! พระเจ้าช่วย! นี่เธอดื่มไปมากขนาดไหนเนี่ย!” เพื่อน ร่วมงานสาวที่เคยคุยกับเฉียวอวถึงก่อนหน้านี้ถามขึ้น

“ ไม่เป็นไร ว่าแต่เสี่ยวจิ้งทำไมเธอถึงไม่ออกไปข้างนอกล่ะ?” มีเวลาก็พักก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ไม่งั้นก็จะไม่มีโอกาสแล้ว

“ถ้าหากว่าฉันมีข้อเสนอให้เธอ เธอจะทำได้ไหม?” เสี่ยวจิ้งหัน กลับไปหาเฉียวอวถงทั้งตัว “จะให้ฉันช่วยหารถพาเธอกลับบ้าน เหรอ”

เฉียวอวถง โบกมือ “ไม่ใช่หรอก ฉันไม่เป็นไร แค่ไวน์สองแก้ว ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก เธอก็เห็น!” เธอหยิบธนบัตรขึ้นมาโบกไป มา “โอ้สองหมื่น เยี่ยมไปเลย!”

ค่าเล่าเรียนของเสี่ยวจิ๋นได้รับการแก้ปัญหาแล้ว เธอจึงมี ความมั่นใจที่จะหางานอื่น แต่ก่อนที่จะหางานใหม่ที่เหมาะสมได้ นั้น ตอนนี้เธอต้องทนทำงานที่นี่ไปก่อน

คิดได้ดังนั้นความสุขก็เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ดวงตาของเฉียวองพร่ามัว เธอยิ้มอย่างมีความสุข

เสี่ยวจิ้งมองไปที่นาฬิกา “ถงถง ฉันออกไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยว เรากลับบ้านด้วยกัน ฉันไม่สบายใจถ้าต้องปล่อยให้เธอกลับไป คนเดียว!”

ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ค่อยๆ ส่งผลต่อเฉียวอง

พื้นที่ห้องพักไม่ได้ใหญ่มากนัก ไม่เพียงพอที่สร้างความ เพลิดเพลิน ให้เธอ

“ประธานฉิน มาตรงเวลาจริงๆเลยนะครับ”

ฉินลี่เยี่ยกับกู้เจ๋ออวี่เปิดประตูตรงเข้ามาที่เลานจ์ของบาร์ “ประธานหวางอย่าหัวเราะเยาะผมเลยครับ ต้องขออภัยที่ ทำให้ประธานหวังต้องรอ” กู้เจ๋ออวี่รับบทเป็นตัวกลางเจรจา

ส่วนฉินลี่เยี่ยและประธานหวางทำเพียงแค่พยักหน้าเพียงเล็ก น้อยเท่านั้น

คนทั้งคู่เคยติดต่อกันมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง

การเลือกสถานที่ในการเจรจาครั้งนี้นับว่าถูกใจประธานหวา งมากที่สุด

“ประธานหวางพอใจกับสถานที่นัดเจรจาที่เราเลือกในวันนี้ ไหมครับ?”

“พอใจสิ เมื่อกี้มีผู้หญิงที่น่าสนใจด้วยนะ”
“โอ้?” กู้เจ๋ออวี่เองก็สนใจเรื่องนี้เช่นกัน แต่เรื่องการเจรจาก สำคัญทำให้เขาต้องเบี่ยงประเด็นการสนทนาเข้าสู่หัวข้อการ เจรจา ฉินเยี่ยทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ชมระหว่างการสนทนาที่เลา นจ์บาร์แห่งนี้เท่านั้น

ผู้จัดการใหญ่เข้ามาในห้องส่วนตัวและพูดกับเสี่ยวจิ้งว่ามี ลูกค้าคนสำคัญมา ไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้แต่ก็จะสามารถ ทําเงินได้มากขึ้น

“จริง? เพื่อนร่วมงานใหม่ของเธออยู่ที่ไหน เรียกเธอมา หน่อย” ประธานหวางหรือพี่หวางคนเมื่อกี้บังเอิญว่าเป็นคนคน เดียวกัน

เขาไม่รู้จักชื่อของเฉียวอาง แต่ได้ยินเพื่อนร่วมงานของเฉียว อถงบอกว่าเธอเป็นพนักงานใหม่ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยืนยัน ตัวตนของเธอด้วยวิธีนี้

พนักงานใหม่งั้นหรือ? เสี่ยวจิ้งเดาออกอย่างรวดเร็วว่าน่าจะ เป็นเฉียวอวี่ถง

“คุณหมายถึงถงถงเหรอ?”

“ฉันไม่รู้ชื่อ แต่เธอลองเรียกถงถงมาก่อน ฉันจะดูว่าเธอเป็น หรือเปล่า”

ถงถง? ฉินลี่เยี่ยมีปฏิกิริยาทันที ยอมเปิดปากพูดในที่สุดว่า “ไปเรียกมาเร็ว” แน่นอนว่าเขามีเหตุผลที่มาหาเฉียวอวถึงในวันนี้ คือเพื่อดูเธอทำงานและพาเธอกลับบ้านไปพร้อมกัน

แม้ว่าความคิดความอ่านของเฉียวอวถึงจะแตกต่างจากคนอื่น แต่ความจิตใจดีของเธอนั้นเป็นเรื่องจริง

เสี่ยวจิ้งลังเล ด้วยสภาพของเฉียวองในตอนนี้ เกรงว่าเมื่อ มาถึงแล้วลูกค้าจะ……..

“ไปสิ!”

เมื่อถูกคนถึงสามคนเร่งเร้า เสี่ยวจิ้งก็เดินออกไปอย่างจำใจ

“พี่หลิง แขกเรียกให้ถุงถุงไปพบ” โชคดีที่หัวหน้างานอยู่ที่ ประตู “แต่ถงถงเมามากแล้ว “ถ้าแขกอยากพบก็ต้องพาเธอไปพบ เดี๋ยวพอสบโอกาสแล้ว

ค่อยพาเธอออกมา ฉันจะไปกับพวกเธอด้วย” เธอไม่อยากให้

เฉียวอวี่ถงไป

เพราะไม่รู้ว่าไปแล้วจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง

เฉียวอวถงยืนมึนงงอยู่ท่ามกลางฝูงชนทำให้เสี่ยวจิ้งมองเห็น เธอได้ในแวบเดียว

“ตามฉันมา” เสี่ยวจิ้งทำท่าทางประกอบคำพูด “ลูกค้าที่เพิ่ง ให้เงินเธอไป 20,000 ต้องการพบเธอ มากับฉันเร็ว” “สองหมื่น?” เมาแค่ไหนก็ยังไวต่อคำว่าเงิน

“พี่หลิง” เฉียวอวี่ถงยังจำคนอื่นได้อยู่ “อึก” พี่หลิงถอนหายใจแล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “เธอล่วงหน้าเข้าไปคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อนนะ แล้วดูว่าแขกมีปฏิกิริยา อย่างไร” คำอธิบายสถานการณ์ของเสี่ยวจึงไม่ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ อย่างที่เธอต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ฉันเขียและเจออ

ร้อนใจอยากพบเฉียวอวถึงมากขึ้น

ที่น่าประหลาดใจก็คือฉันลี่เยี่ยไม่เคยเป็นกังวลเกี่ยวกับผู้หญิง คนไหนมาก่อน

“เข้ามา!”

เฉียวอ ถงเดินเซ

พี่หลิงเลยช่วยประคองเข้ามา

ฉินลี่เยี่ยที่เห็นแบบนั้นใบหน้าของเขาก็จมลงทันที

“นี่ถ้าจะบอกว่าดื่มไวน์สองแก้วแล้วเมาขนาดนี้ ก็ดูจะเกินไป หน่อยไหม” ประธานหวางที่รู้สถานการณ์ดีอยู่แล้วยังไม่อยากจะ เชื่อ

เจ๋ออยิ้มเยาะ พลางกวาดหางตาไปทางฉินเยี่ย

“พี่หวาง!”

“ฉินลี่เยี่ย!”

“กู้เจ๋อย!”

เฉียวอวถึงกวาดตามองอย่างรวดเร็ว คนรู้จักทั้งนั้น พิมพ์ เรียกชื่อของพวกเขาออกมาเบาๆ
เสี่ยวจิ้งกับพี่หลิงถึงกับสูดลมหายใจ

“พวกเธอออกไปก่อน” เจออรู้สึกได้ว่ากำลังจะได้ดูเรื่อง สนุกๆ เขาพร้อมแล้วที่จะรับชมการแสดงเล็กๆ ผ่านที่นั่งวีไอพีใน แถวหน้า!

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วก็พากันออกไป

ในเมื่อเป็นคนที่เฉียวอวถึงรู้จักเธอก็คงจะไม่เป็นอะไร

“ประธานฉิน ผู้ช่วย พวกคุณรู้จักกับผู้หญิงคนนี้มาก่อนเหรอ ครับ”

“รู้จัก” กู้เจ๋ออ กลั้นหัวเราะจนปวดท้องไปหมด “รู้จักมาก

ด้วย”

หลังจากดื่มเข้าไปพอสมควร เฉียวอวี่ถงจึงดูกระตือรือร้นมาก

ขึ้น

“มาดื่มกันเถอะ!” หลังจากที่เทขวดหนึ่งทิ้งไปเสียครึ่งขวด จึง เหลืออยู่ในแก้วแค่นิดหน่อยเท่านั้น จะว่าไปแล้วผู้ชายสามคน ไม่มีใครดื่มไวน์ในแก้วเลยสักคน แต่คนที่มาใหม่กลับเมาซะ แล้ว

“คุณดื่มสิ!” เธอไม่คุ้นเคยกับคนอื่นก็จริง แต่กับฉินเยี่ยนั้น เธอไม่เคยกลัวเลยจากใจจริง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ