พ่อฮะ หนูบได้หม่ามีคนหนึ่ง

ตอนที่ 5 ข้อตกลง



ตอนที่ 5 ข้อตกลง

เฉียวอ ถงมองไปรอบๆ ห้องที่ดูเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน บนโต๊ะ ก็เต็มไปด้วยอาหาร จนเกือบจะนึกว่าเป็นบ้านของ “แม่ศรีเรือน” ซะอีก

ผู้ชายคนนี้จริงๆแล้วก็ยังพอจะมีความดีอยู่บ้าง

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอกลับต้องอยู่ที่นี่เพราะถูกพวกเขา สองคนบังคับ

เห็นๆกันอยู่ว่าเธอเป็นคนที่ตกงาน แล้วยังต้องให้เธอมารับผิด ชอบอีก

แล้วทำไมเธอถึงต้องทำตามที่ผู้ชายสองคนนี้บอกด้วยล่ะ

เธอสะบัดความคิดภายในใจของเธอ ทันใดนั้นก็กระแอมออก มาทีหนึ่ง แต่ก่อนที่จะทันได้อ้าปากพูดอะไรออกไป

เสี่ยวจิ๋นก็กระโดดเข้ามากอดต้นขาของเธออย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับเงยขึ้นมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“หม่ามี้ หม่ามีกลับมาแล้ว ผมกับป่า รอหม่ามีอยู่ตั้งนาน

เมื่อเห็นความไร้เดียงสาของเขา เธอก็นึกถึงชีวิตของเขาอีก ครั้ง หัวใจของเธอก็อ่อนยวบลง เธอคุกเข่าลงแล้วลูบหัวเล็ก ๆ ของเขา
“หิวมั้ย?”

เขาพยักหน้าอย่างแรง

เฉียวอวถงยิ้มพลางพูดว่า “งั้นมากินข้าวกันเถอะ” เขาพยักหน้าอีกครั้งแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ “หม่ามี วันนี้หม่ามีไป ทํางานอะไรมา

“ขายเสื้อผ้า”

“เหนื่อยมากมั้ย?” เขาพูดต่อพลางเดินไปกับเธอ

“ไม่หรอก มันมีสองกะ ดังนั้นฉันจะได้มีเวลาดูแลหนู” เธอพูด ในขณะที่สายตาจับจ้องเขาอยู่

“จริงๆเหรอ?”

“ยิ้ม จริงสิ”

มีความรู้สึกแปลกๆ พาดผ่านดวงตาของฉันเยี่ย เมื่อเขา เหลือบมองเธอ ก็พบว่าทั้งคู่ดูมีความสุขดี เห็นๆกันอยู่ว่าเขาเป็น คนที่เลี้ยงลูกมาคอยเช็ดเช็ดให้เขามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แล้ว ทำไมตอนนี้เขาถึงได้กลายเป็นคนนอกไปซะล่ะ?

เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่เดี๋ยวจีนก็เห็นเข้าพอดี จึง พูดกับเขาเบาๆว่า “ปาป๊ ป่าเองก็ต้องไปทำงานด้วยนะ ดีมั้ย?”

“ทำไม?”

เขาแสดงออกอย่างจริงใจว่า “เพราะผมไม่อยากให้หม่ามีต้อง ทํางานหนัก”
ใบหน้าของฉันเยี่ยจมลงทันที เขากำลังคิดอยู่ว่ามีเหตุผล อะไร แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ ความลำเอียงนี่คือ อะไร

ทำไมเขาไม่คิดถึงพ่อบ้าง? พ่อของเขาก็เหนื่อยมากเหมือนกัน

เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างไม่พอใจนัก ก่อนจะเหลือบมอง เธอ “เธอบอกว่าจะเลี้ยงฉันด้วยนี่”

ความไม่พอใจของเฉียวอวถึงถูกจุดขึ้นทันที เธอคิดว่าผู้ชาย คนนี้จะมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้างเล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยว่า เธอจะตาบอดไปเพราะความหล่อของเขา

เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเธอ เขาก็รู้สึก สะใจ

“ทำไม? หรือจะไม่ทำอย่างที่พูด?”

“ไม่หรอก” เธอยิ้มและส่ายหน้า “นึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะมี ลูกชายทั้งสองคน ช่างโชคดีซะจริง จะได้พึ่งพาอาศัยได้ตอนที่ ฉันอายุมากขึ้น”

ลูกชายสองคน?

นี่เขากลายเป็นลูกชายของเธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

เมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเขา เธอก็ยิ้มอย่าง อ่อนหวานพลางลูบศีรษะน้อยๆของเสี่ยวจีน
“ลูกชายทุกคนต้องกินข้าวบดใช่มั้ย?

เขาส่ายหน้าด้วยท่าทีขึงขัง “ไม่ใช่”

“งั้นคุณจะบอกว่าคุณไม่ใช่ลูกชายของฉันเหรอ?”

เขาพยักหน้า

“ถ้างั้น ใครใช้ให้คุณเหมารวมกันล่ะ”

เขาทำท่าเคร่งซึม “ไม่ใช่”

“ใช่” เธอทำเคร่งขรึมกว่า

ฉินลี่เยี่ยได้แต่ส่ายหน้าไปมา การโต้เถียงกันไปมาเช่นนี้ช่าง

ไร้ประโยชน์จริงๆ

“มั่นใจได้เลยว่าผมมีงานทำ ไม่ต้องกินข้าวบด

เธอปรบมือให้เขาอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดว่าภาระของเธอเบาลง ไปกว่าเดิม เธอก็รู้สึกพึงพอใจมากขึ้น กินข้าวไปร้องรำทำเพลง

ไป

อาหารที่เขาทำนั้นอร่อยจริงๆ ตอนนี้เมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ นี้แล้วเธอรู้สึกว่าได้กำไรเห็นๆ

บางทีครั้งต่อไป อาจจะยังสามารถใช้ผู้ชายคนนี้เพื่อเอาชนะ พวกบ้าๆ ในครอบครัวของเธอได้อีก

แม้ว่าจะน่าสงสารไปหน่อยก็ตาม

เธอสายศีรษะด้วยท่าทางเศร้าสร้อย
“คุณคิดอะไรอยู่?”

“ไม่มีอะไร”

เขาวางตะเกียบลงและมองเธออย่างจริงจัง แม้ว่าเขาจะลังเล ใจ แต่ถึงยังไงเสี่ยวจีนก็เลือกเธอ

“คุณเป็นแม่ของเสี่ยวจิ่น ดังนั้นเราจึงถูกมองว่าเป็นสามี ภรรยากัน ผมไม่ต้องการให้คุณปิดบังอะไรกับผม แน่นอนว่าผม ก็จะไม่ปิดบังอะไรกับคุณเช่นกัน ผมไม่อยากให้มีเหตุการณ์ที่ ต้องเจอคนข้างนอกถามคุณว่าผมชื่ออะไรแล้วคุณไม่รู้ว่าจะตอบ เขาว่ายังไง

แม้ว่าเฉียวอวถึงจะคิดว่าเขามีเหตุผล แต่เมื่ออยู่ๆต้องกลาย เป็นสามีภรรยากับคนแปลกหน้า เธอก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

ทำแบบนี้ก็แทบจะไม่ต่างจากการนัดบอด

เธอหายใจเข้าลึก ๆ “ถ้างั้นคุณก็พูดก่อนสิ” เขาพูดขึ้นมาเบาๆอย่างไร้ยางอายว่า “อย่างที่คุณรู้ ผมเป็น คนทําความสะอาด”

คนทําความสะอาด

พ่อของเขาไปเป็นคนทำความสะอาดตั้งแต่เมื่อไหร่?

เสี่ยวจีนเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ กำลังจะ เปิดปากพูด แต่เมื่อเห็นสายตาข่มขู่เขาก็ได้แต่หรุบตาลง เขาทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ
พ่อนิสัยไม่ดีเลย ขี้โกหก

“บ้านที่ผมอยู่นั้นก็เล็กกว่าของคุณนิดหน่อย”

โกหก! เห็นๆกันอยู่ว่าใหญ่มาก!

“บ้านเกิดของผมอยู่บนภูเขา”

อืม นี่เป็นเรื่องจริง

“ผมไม่เคยมีแฟนสาว”

เฉียวอวถึงเมื่อได้ยินดังนี้ ก็ขยับมือเล็กน้อย ย้อนนึกไปถึงคำที่ เสี่ยวจีนบอกว่า เขาถูกล้อมรอบไปด้วยผู้ชาย

เธอจึงมองดูเขาด้วยสายตาที่มีเลศนัย

“เอาล่ะ ตาคุณแล้ว”

“ฉัน” เธอคนอาหารในชามอย่างหงุดหงิด เธอไม่อยากพูดถึง เรื่องพวกนี้ แต่คนอื่นได้พูดเรื่องของเขาไปแล้ว ก็คงจำเป็นต้อง พูดบ้าง

“แม่ของฉันเสียชีวิตไปแล้ว และพ่อของฉันก็อยากให้ฉัน แต่งงานกับคนที่คุณเห็นเมื่อวันก่อน ฉันเสียใจก็เลยหนีออกจาก

บ้าน

ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว”

เสี่ยวจิ่นตบมือของเธอเบาๆมือ พลางแก้ไขคำพูดเสียใหม่ว่า “ไม่หรอก หม่ามีผมกับป่าปีอยู่ด้วย
เธอลูบใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาด้วยรอยยิ้ม “อั้ม ตอนนี้มีพวก คุณแล้ว”

ฉินลี่เยี่ยมองเธอแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก ถึงแม้ว่าข้อมูลที่ได้มา จะไม่ตรงกัน แต่บทสรุปก็ยังเหมือนเดิม

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะโกหกเธอ

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เฉียวอวลงนั่งดูทีวี กับเสี่ยวจีนอยู่ที่โซฟา เมื่อหันกลับไปก็เห็นร่างสูงผูกผ้ากันเปื้อน ลายดอกไม้ยืนล้างจานอยู่ในห้องครัว

ถึงจะเห็นอยู่ว่าเป็นการทำงานบ้านตามปกติ แต่ภายใต้ ใบหน้าสวรรค์สร้างของเขานั้น มันกลับดูเย้ายวนน่าดึงดูดเป็น พิเศษ คนอะไรดูดีจนไม่สามารถละสายตาได้

เมื่อเขารู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองอยู่ เขาก็หันกลับมา มอง เธอรีบเบือนหน้าหนีทันที แต่ก็ยังไม่วายจะเหลือบมองเขา ด้วยหางตา

มุมปากของเขายกขึ้นอย่างช้าๆ มองดูคนทั้งสองคลอเคลียกัน อยู่ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจ

เสี่ยวจิ๋นหลับไปอย่างรวดเร็วในอ้อมแขนของเธอ

เฉียวอวถงแตะใบหน้าของเขาเบาๆ แล้วกระซิบว่า “เขาเป็น เด็กที่คุณรับมาเลี้ยงเหรอ”

“อืม”
“น่าสงสารจัง”

“ถ้างั้นคุณก็ต้องดีกับเขาหน่อย

“อืม” เธอก้มลงจูบที่หน้าผากของเขา “จริงสิ พวกเรามาทำข้อ ตกลงกันเถอะ”

“ข้อตกลง?”

เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ก็ใช่น่ะสิ ถึงแม้ว่าเราจะมีลูกชายคน เดียวกัน แต่เราก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆสักหน่อย แน่นอน ว่าระหว่างเราต้องมีข้อตกลงร่วมกัน”

เขาพยักหน้าพลางทำสีหน้าครุ่นคิด ฟังดูแล้วก็มีเหตุผลอยู่

แต่ …

“มันยุ่งยาก”

“คุณว่าไงนะ?

“พวกเราก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆเสียก็สิ้นเรื่อง”

เธอกลอกตา พลางกัดฟัน “กรอด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ