ปารีสพิศวาสหาม

Ep.3



Ep.3

“งั้น งั้นก็แสดงว่า เขามีตัวตนอยู่จริง แล้ว…แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ ได้ยังไงคะ” ขณะที่ถาม ร่างบางก็เหมือนจะโคลงเคลงไปมา เพราะไม่มีแรง แต่ก็ถูกคนตัวสูงเข้าไปพยุงเอาไว้ได้ทัน และ ประคองร่างบอบบางแต่ได้สัดส่วน ไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กหน้า โตะกับข้าว

แม่บ้านผู้สูงวัย ที่มีใบหน้าแสนจะเย็นชาไม่ตอบคำถามของ สาวน้อย แต่กลับพูดอีกอย่างแทน

“ข้าวสวยร้อนๆ กับซุปเห็ดทรุฟเฟิล กับผัดเห็ดปารีสใส่ลูกชิ้น เนื้อวัวโกเบค่ะ คุณชายเอริคสั่งให้ดิฉันทำให้คุณทาน เชิญตาม สบายเลยนะคะ ดิฉันขอตัวค่ะ”

เพราะเห็นว่าเจ้านายหนุ่มอยู่ในห้อง แม่บ้านผู้สูงวัยจึงไม่ อยากอยู่ให้เกะกะสายตาชายหนุ่ม เพราะพอจะเดาออกว่า เอริค คงมีเรื่องอยากจะพูดคุยซักถามสาวน้อยคนนี้เป็นการส่วนตัว

อลิชชามองอาหารตรงหน้าราวกับว่ามันคืออาหารทิพย์ จะ หยิ่งไม่กินก็ไม่ได้ ในเมื่อตอนนี้เธอหิวชนิดที่เรียกว่า ‘โคตรของ ความหิว’ เลยละ มือเล็กจึงรีบตักข้าวสวยใส่ปากทันที กินมัน ทั้งๆ ที่ร้อนๆ แบบนี้แหละ พร้อมกับซดน้ำซุปอย่างโหยหิว ผัด เห็ดปารีสถูกตักมาราดข้าวจนหมดจาน มือเล็กที่ถือช้อนข้าวสั้นๆ เพราะความหิวที่ไม่ได้กินข้าวมาทั้งสองมื้อ และนี่มันก็คงจะเลย มื้อเที่ยงไปนานแล้ว
เอริคมองคนตัวเล็กที่นั่งกินข้าวอย่างสวาปามด้วยความเอ็นดู นี่หล่อนคงหิวจนลืมเจ็บไปเลยสินะ เพราะชายหนุ่มจำได้ว่ารถ ของเขาพุ่งชนที่ขาของเธอ ถึงจะไม่แรงมาก แต่ก็คงจะมีรอย ฟกช้ำดำเขียวและปวดระบมอยู่บ้าง แต่คงเพราะความหิวที่มี มากกว่า จึงทำให้เธอไม่ได้สนใจความเจ็บระบบที่ขาของตนเอง

ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที กับข้าวทุกอย่างในจานก็เกลี้ยงจน ไม่เหลือข้าวแม้แต่เม็ดเดียว แม้แต่น้ำซุปเห็ด เธอก็ยกซดจน เกลี้ยงและลืมนึกไปว่าเจ้าของบ้านกำลังยืนมองเธออยู่ ดวงตา กลมโตปรายตาไปมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังมองเธออยู่เช่นกัน หล่อนยิ้มแหยๆ ตาหยออกมาอย่างเอียงอาย ใบหน้าเริ่มมีริ้วสี แดงเรือพาดผ่านทั้งสองข้างแก้มนวล

แต่เอริคดูเหมือนจะชอบใจในกิริยาท่าทางไร้เดียงสาของหญิง สาวไม่น้อย ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะบอกเธอว่า

“เอากับข้าวเพิ่มอีกมั้ย จะได้ให้ลัวโซตักมาให้

อลิซซาหันไปมองเจ้าของบ้านรูปหล่อด้วยความเกรงใจ และ เริ่มรู้สึกอายเล็กน้อยเมื่อถูกชายหนุ่มมองด้วยรอยยิ้มขัน

คงเพราะอาหารแต่ละอย่าง ผู้หญิงจนๆ อย่างเธอ คงจะหา โอกาสทานได้ยากมาก มันจึงทำให้หญิงสาวกินจนไม่มีเหลือติด จาน อย่างเห็ดทริฟเฟิลหรือทรุฟเฟิลดอกหนึ่งราคาตั้งหลายร้อย ยูโร เผลอๆ อาจจะหลายพันยูโรเลยด้วยซ้ำ แล้วเนื้อวัวโกเบที่ ราคาแพงลิบลิ่วซึ่งคนจนๆ อย่างเธอจะหาโอกาสกินง่ายๆ ได้ที่ ไหน
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันอิ่มแล้วค่ะ เอ่อ…ฉันขอตัวเอาถ้วยชามไป เก็บนะคะ” ร่างบางรีบลุกขึ้นแล้ววางถ้วยชามเรียงซ้อนกันก่อนที่ จะเอาไปเก็บข้างนอก

“เดี่ยว” สองเท้าที่กำลังจะก้าวออกไปนอกประตูต้องชะงักทันที แล้วค่อยๆ หันหลังมามองตามเสียงเรียกช้าๆ

“เอาจานไปเก็บแล้ว เข้ามาหาผมในห้องนี้ด้วยนะ ผมมีเรื่อง

ต้องคุยกับคุณ”

“ค่ะ”

ไม่รู้ว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอ แต่พอนึกได้ว่า ตอนนี้ตัว เองไม่ได้อยู่ในชุดสกปรกมอมแมมที่อำพรางตนเองนั่นแล้ว อลิซ ชาก็พอจะเดาออกมาได้ว่า เขาคงอยากจะถามว่าเธอปลอมตัว มาทำไม หรือไม่เขาอาจจะทวงค่าอาหารที่เธอเพิ่งกินเข้าไปเมื่อ สักครู่นี้ก็ได้

ถ้าหากลองคำนวณค่าอาหารที่เธอเพิ่งทานเข้าไปเมื่อกี้ดู ก็ คงจะหลายพันยูโรแน่ๆ เลย แล้วเธอจะต้องทำงานชดใช้เขา เดือนเนี่ยถึงจะหมดหนี้

เพราะคิดว่าถ้าทํางานเป็นแม่บ้าน เขาก็คงจะให้เงินเดือนเธอ ไม่เกินเดือนละสามร้อยถึงห้าสิบยูโรแน่นอน เพราะเธอเรียนจบ แค่ระดับปริญญาตรีเท่านั้น อีกทั้งหลักฐานสำคัญต่างๆ ตอนนี้ก็ หายไปหมดแล้ว เขาต้องคิดว่าเธอเป็นคนเถื่อนลักลอบเข้าเมือง มาแน่นอน

สิบนาทีต่อมา อลิชชาก็เดินเข้ามาหาคนที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้รอดตายจากความหิวโหย ก่อนมาพบหน้าเขาเธอได้กับ แม่บ้านลัวโซเล็กน้อยแล้ว เพื่อถามใครที่เป็นเปลี่ยน เสื้อผ้าให้เธอ พอว่าชรายังบอกกับเธอว่า เขาชื่อเอริคเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้

เจ้าของร่างบางเดินมายืนหน้าประตูห้อง

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูเห็นสายประหม่าเล็กน้อย ในนาทีแรก และเพิ่มมากขึ้นทุกเมื่อร่างสูง ใหญ่งามสง่าเดินมาใกล้ กลิ่นน้ำหอมจากเรือนกาย ของเขาช่างดึงดูดให้เธอเผลอสูดดมความหอมเย้ายวนใจนั้น เข้าไปชุ่มปอด

“อันดับแรกสัมภาษณ์

“อลิชชาค่ะสาวน้อยก้มหน้างุดตอบคำถามเขา ไม่กล้าคมเพราะมันทำให้

เอาแบบสั้นๆ มีหรือเปล่า

อริสค่ะ

“เวลาคุยกับกรุณาเงยหน้ามองผมด้วยออกคำสั่ง เสียงเข้ม

ค่ะหญิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ประสานสายสวยที่เต็มไปด้วยความประหม่านั้นเข้ากับสายตาคมกล้าของเขา

“อริส ต่อไปนี้ให้คุณเรียกผมว่า เอริคนะ” ชายหนุ่มบอกแต่ดู เหมือนเป็นการบังคับให้เธอเรียกเขาเสียมากกว่า แววตาของ เขาดูดุดัน แต่กลับแฝงไปด้วยความอบอุ่นหวานซึ้ง ในบางครั้ง จนอลิซซาอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้

“ค่ะ”

เกิดมาก็เพิ่งเคยพบเคยเห็นผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่หุ่นเอ็กซ์ และมีใบหน้าหล่อเข้มกระชากใจตัวเป็นๆ แบบนี้เป็นครั้งแรก และที่สำคัญต้องมาอยู่ในห้องนอนกับเขาสองต่อสองแบบนี้เธอ ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นเข้าไปใหญ่ อุปกรณ์พรางกายก็ไม่ได้ช่วยอะไร เธอได้อีกแล้ว หญิงสาวจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น เพื่อฟัง เขาพูดประโยคต่อไป

“คุณรู้มั้ยว่าวันนี้ คุณทำให้ผมเกือบเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย เพราะคุณ” ร่างบางก้มหน้างุดอีกรอบ รีบกล่าวขอโทษชายหนุ่ม เป็นการใหญ่

“เอ่อ ฉัน…ฉันต้องขอโทษคุณจริงๆ นะคะ คือว่าตอนนั้นฉันหิว ข้าวจนตาลาย ก็เลยเป็นลมน่ะค่ะ” เธอละล่ำละลักบอกกับชาย หนุ่มด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“ผมนึกว่าคุณคิดจะฆ่าตัวตายซะอีก

“เปล่าค่ะ พอดีว่าฉันถูกวิ่งราวกระเป๋าเงินของฉันและเอกสาร ต่างๆ ของฉันอยู่ในนั้นทั้งหมด ฉันก็เลยต้องตกอยู่ในสภาพแบบ นั้น”
“แล้วคุณปลอมตัวเองเป็นผู้หญิงอัปลักษณ์น่าเกลียดทำไม”

อลิซซายืนคิดครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “คือว่าฉัน กลัวว่า…กลัวว่า ตนเองอาจจะเป็นอันตรายจาก…จากพวกผู้ชายเอ่อ…ที่คิดไม่ดี น่ะค่ะ ฉันก็เลยต้องแต่งตัวแบบนั้น” หญิงสาวบอกเสียงกระท่อน กระแท่น เพราะเริ่มรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองเหมือนไม่ค่อยจะ ปลอดภัยแล้วเหมือนกัน

“แล้วคุณคิดว่า การที่คุณอำพรางตัวเองแบบนั้น จะมีใคร อยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคุณหรือเปล่า ท่าทางอย่างกับ คนจรจัด สารรูปดูไม่ได้ บางคนอาจจะคิดว่าคุณนั่นแหละที่เป็น โจรเป็นคนเถื่อนลอบเข้าเมืองเสียเอง”

ที่เขาพูดมามันก็ถูก แต่เธอก็รอดจากภัยผู้ชายที่ไม่ดีมาได้ จนถึงตอนนี้ไม่ใช่เหรอ และอาจจะไม่รอดก็เพราะว่าเขาเห็นตัว จริงของเธอตอนนี้แหละ

หญิงสาวไม่กล้าเถียงอะไรเขาอีก ได้แต่เงียบและเงยมอง ใบหน้าคมเข้มนั้นเป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายก็ก้มหน้างุดเหมือน เดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ