ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1

บทที่3



บทที่3

ระหว่างพาหลีถึงไปหาหมอแล้วอนาคตของเธอต้องจบลง กลับกันหากทำให้พี่สาวหายไปตลอดกาล ทุกอย่างก็จะ ปลอดภัยสําหรับเธอและชายหนุ่ม ถ้าแบบนั้นเธอขอเลือกอย่าง หลังน่าจะเหมาะกว่าอย่างแน่นอน

“ไปทําไม อย่าบอกนะว่าจะ…”

ราฟาเอลหันไปมองภรรยาสลับกับน้องสาวของเธอซึ่งเสนอใน เรื่องที่เขายังไม่กล้าที่จะคิดด้วยซ้ำไป

คำตอบของเจสซิก้าทำให้ใบหน้าของราฟาเอลมีเหงื่อผุดขึ้น เต็มไปหมด ทั้งที่อากาศทั้งภายนอกและในรถนั้นหนาวเย็นแท้ ๆ เหมือนกับว่าเวลานี้ เขากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางแดดร้อนแรงใน ทะเลทรายเลยก็ว่าได้

ราฟาเอลได้แต่มองคนที่พูดอย่างไม่เชื่อสายตา สาวหวาน เรียบร้อยที่ทุกคนคิดมาตลอดว่าเจสซิก้าเป็น ตอนนี้ เธอไม่ต่าง จากตัวร้ายในละครเลยทีเดียว

ราฟาเอลไม่พูดอะไรต่ออีก ถ้าเขาต้องสูญเสียทุกอย่างเพราะ เรื่องนี้

เขายอมเป็นคนเลว โดยนำร่างของภรรยาที่ตายแล้วไปเป็น อาหารฉลามยังดีกว่าจะต้องเอาทุกอย่างมาแลกกับศพของผู้หญิงแค่คนเดียว มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง

เมื่อคำนวณส่วนได้ส่วนเสียแล้ว ราฟาเอลไม่พูดอะไรอีก ชาย หนุ่มกระชากรถมุ่งตรงไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับถนนมุ่งสู่โรง พยาบาลแทน

ใช้เวลาไม่นาน นอกอ่าวของเกาะฮ่องกง เรือยอชต์ล่าหรูจอด นิ่งอยู่ในจุดน้ำลึก มันเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวชอบมาดูฉลาม มากที่สุด

หลี่ถึงลืมตาขึ้นเมื่อร่างของเธอจมลงไปในน้ำ ด้วยความเย็น ของทะเลทําให้เธอฟื้นขึ้น แต่หญิงอ่อนแรงมากแล้วจากอาการ บาดเจ็บ มือบางพยายามแหวกว่าย สองเท้าถีบส่งร่างเพื่อนำพา ตัวเองให้ขึ้นเหนือผิวน้ำ แต่กลับยิ่งจมดิ่งลงไปมากกว่าเดิม เพราะขาทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยโซ่หรือเชือก ที่มีอะไรสัก อย่างถ่วงเอาไว้ที่ปลายอีกด้าน

ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ร่างกายที่ขาดอากาศและสำลักน้ำ เข้าไปเต็มปอดก็ไม่อาจกลับขึ้นสู่ด้านบนผิวน้ำได้

ช่างโหดร้ายกันเกินไปแล้ว หญิงสาวยังไม่ตายแท้ ๆ แต่กลับ พากันทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไงกัน

จิตใจ มหิตเกินคนไปแล้ว ราฟาเอล เจสซิก้า

ห้วงความคิดของหลี่ถึงมันเจ็บปวดทรมานกับการถูกหักหลัง จากคนที่เธอรักสุดหัวใจ

ร่างของหลี่ถึงกระตุกไม่กี่ครั้งพร้อมดวงตาหลับลงทั้งสองข้างเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เธอรู้สึกถึงการโอบกอดจากใครอีก คน นั่นคือหญิงสาวชุดสีขาวในความฝัน

ก่อนที่จะรู้สึกตัวเมื่อร่างสัมผัสกับน้ำทะเลอันหนาวเย็น รอยยิ้ม ของผู้หญิงคนนั้น และคำพูดแผ่วเบากระซิบข้าง ๆ หู

อย่ายอมแพ้ หญิง เจ้าจงอยู่เพื่อข้า

“มะ…ไม่…เฮือก”

หลี่ถึงลุกพรวดขึ้นนั่งหายใจถี่ ๆ ด้วยความเหนื่อยหอบ สอง มือบางรีบลูบคลตามใบหน้าและลำตัว จนแน่ใจว่าเธอไม่ได้อยู่ ในน้ำมันเป็นเพียงฝันร้ายที่เหมือนจริงมาก

หลีถึงค่อยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างเมื่อมั่นใจว่าเธอยังไม่ตาย จากนั้นจึงได้ค่อย ๆ สูดหายใจเข้าลึก ๆ มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น มากทีเดียว เพราะอย่างน้อย ตอนนี้ก็มีอากาศเข้าไปในปอดแล้ว และมันไม่ใช่น้ำทะเลหรือลำธารอย่างในความฝัน

ดวงตาของหลี่ถึงยังหลับอยู่ เธอใช้เพียงประสาทสัมผัสเท่านั้น ในตอนนี้ เพราะกลัวว่าถ้าลืมตาขึ้นมาแล้วมันจะเป็นเพียงความ ฝันอยู่

เมื่อมั่นใจแล้วว่ากลิ่นที่สดชื่นของอากาศรอบตัวเป็นของจริง หลี่ถึงจึงได้ลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนมองทุกอย่างให้ชัดเจน ดวงตา ของหญิงสาวถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจจนแทบคุมสติตัว เองเอาไว้ไม่อยู่

เธอจึงรีบหลับตาลงอีกครั้ง และลืมขึ้นช้า ๆ แล้วหันมองไปรอบ ๆ

ตัวอีกครั้งอยู่หลายรอบ จนแน่ใจว่านี้เป็นเรื่องจริง ก่อนที่หลี่ ถึงจะก้มลงมองฝ่ามือของตัวเองเป็นอันดับแรก ก่อนจะพลิกดู หลังมือ ดวงตากลมเบิกโพลงเมื่อเห็นเล็บมือที่สั้นลงและไร้สิ่ง แต่งแต้ม

แน่นอนมันต้องมีสีสันไม่ใช่แบบนี้

ก่อนที่มือบางจะยกขึ้นลูบใบหน้า ไล่ลงมาตามลำคอ จน สัมผัสกับเส้นผมที่ยาวสลวย ซึ่งมันไม่น่าจะใช่ของเธอเอง เพราะ ผมของเธอมันไม่ได้

ยาวขนาดนี้ หลี่ถึงรวบดึงเส้นผมตัวเองแรง ๆ จนรู้สึกเจ็บ ไม่ใช่วิกผม ใจเย็นถึงถึง…เธอแค่กำลังฝันไป

“นะ…นี่มันอะไรกัน ฉันอยู่ที่ไหน”

หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะสำรวจร่างกายของตัว เองในส่วนอื่น ๆ ที่ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็น ส่ เพราะทุกสัดส่วนมันไม่ใช่ตัวเธอเลยสักนิดเดียว

หลี่ถึงตัดสินใจก้าวลงจากเตียงเพื่อหาใครสักคนมาให้คำ ตอบแก่เธอ แค่เพียงหย่อนเท้าลงพื้น ร่างบางก็ลุกพรวดขึ้น เป็น เหตุให้ล้มหน้าทิ่มพื้น

‘อูยยย เจ็บจัง’

หลี่ถึงนั่งแหมะอยู่กับพื้น พร้อมเอามือลูบหน้าผากเบา ๆ
หญิงสาวนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นใหม่ พอ มั่นใจว่าลุกไหว คราวนี้เธอจึงค่อย ๆ เกาะขอบเตียงยืนขึ้นแล้ว จับไปตามโต๊ะและเครื่องเรือนที่พอจะพยุงตัวไม่ให้เธอล้มลงอีก ครั้ง เพื่อที่จะเดินหากระจกสักบานที่จะปลดล็อกความข้องใจของ เธอ ในตอนนี้

บนโต๊ะขนาดใหญ่ที่มีกระปุกลวดลายงดงามมากมายวางอยู่ เรียงรายเต็มไปหมด มีแผ่นทองเหลืองขนาดไม่ใหญ่มากตั้งอยู่

หลี่ถึงค่อย ๆ นั่งลงและมองดูในแผ่นทองเหลืองที่ถูกขัดจนมัน วาว ซึ่งได้สะท้อนภาพใบหน้าของเธอในตอนนี้ สองตาของหญิง สาวเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง

ผู้หญิงคนนั้นนี่! แล้วทำไมถึงไม่ใช่ฉัน มันเกิดอะไรขึ้น! ความฝันนั้นมันคืออะไร ภาพที่เห็นมันคือเรื่องจริง หรือว่า…… ทุกอย่างเริ่มฉายวนในหัวของหลี่ถึง เหมือนม้วนฟิล์มที่ถูก กรอกลับ

มาฉายซ้ำ เพื่อยืนยันความทรงจำสุดท้าย ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้น มานั่งอยู่ตรงนี้ ดวงตาคู่งามหลับลงช้า ๆ เพื่อซึมซับความทรงจำ ที่กำลังไหลบ่าเข้ามาเหมือนสายน้ำเชี่ยว

เรื่องราวที่เธอเคยคิดว่ามันคือความฝัน แท้จริงแล้วมันเกิดกับ เจ้าของร่างกายที่เธอครอบครองอยู่ในตอนนี้สินะ

โม่ไป๋หลาน ชื่อของหญิงสาวที่มีหน้าตางดงามราวเทพธิดา ผู้ หญิงที่โอบกอดเธอและเสียงหวานไพเราะ ซึ่งเคยเอ่ยเรียกเธออย่างแผ่วเบาอยู่ข้าง ๆ หู คือหญิงสาวคนนั้นที่ถูกหักหลังจากคน ใกล้ตัวนั่นเอง ซึ่งมันไม่ต่างจากเธอเลยจริง ๆ

เราสองคนเหมือนกันมากเกินไปไหมโม่ไปหลาน ทั้งนิสัย

ใจคอแทบจะไม่ต่างกันเลย แม้แต่ตอนสิ้นใจ เรายังน่าอนาถ

เสมือนคนคนเดียวกัน ความต่างของเราคือยุคสมัยเท่านั้น

หลี่ถึงกำลังคิดทบทวนทุกอย่างอยู่นั้นต้องหยุดชะงักลง เมื่อ เธอได้ยินเสียงคนกำลังร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด จึงได้ เอียงหูฟังอีกครั้ง จนแน่ใจว่าใช่เสียงร้องของคนจริง ๆ หญิงสาว จึงได้ตัดสินใจที่จะออกไปหาความจริงด้วยตนเอง ยิ่งการตาย ของเจ้าของร่างไม่ใช่จากป่วยไข้ซึ่งเธอรู้ดีกว่าใคร จะให้เธอมา นั่งรอจนเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกไม่ได้เด็ดขาด

หลี่ถึงลุกได้ขึ้นยืนก้มสำรวจชุดที่ใส่อยู่ มันดูไม่เหมาะจะออก ไปข้างนอกเอาเสียเลย เธอเป็นนักแสดงมาก่อน ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่านี้คือชุดนอนของยุคโบราณ ตอนนี้ เธอมั่นใจไปแล้วครึ่งหนึ่ง ว่านี่ไม่ใช่โลกที่เธอเกิดและเติบโตมา ซึ่งยืนยันได้จากร่าง อ้อนแอ้นที่จิตวิญญาณของเธออาศัยหายใจอยู่นี้ยังไงล่ะ…

และในแผ่นทองเหลืองตรงหน้าเมื่อครู่นี้ เป็นสิ่งพิสูจน์ซึ่งเธอ ไม่อาจ

ปฏิเสธได้เลยว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของตนเอง จะมีเพียงความ รู้สึกนึกคิดเท่านั้นที่เป็นของเธออย่างแท้จริง

นับจากนี้ไป เธอต้องระวังตัวให้มาก เพราะมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ใน ละครหรือภาพยนตร์ที่เธอเคยเล่น มันคือเรื่องจริง ซึ่งยังหาคำตอบไม่ได้

ถ้าต้องพบเจอเหตุการณ์อะไรระหว่างนี้ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ ตามน้ำไปก่อน เพื่อรักษาชีวิตใหม่ให้หายใจได้ต่อไปยาว ๆ เสีย ก่อน ค่อยมาคิดอีกทีว่าจะทำยังไงต่อไป

หล่ถึงรวบรวมกำลังทั้งหมดเดินไปยังฉากกั้นซึ่งอยู่อีกมุมห้อง และด้านหลังมีเสื้อคลุมแขวนอยู่สองสามตัว เธอจึงหยิบมาสวม ใส่แบบลวก ๆ ก่อนจะก้าวออกจากห้องไป หญิงสาวหยุดเท้าลง ด้านหน้าเพื่อฟังให้แน่ใจว่าเสียงร้องโหยหวนนั่นมาจากทิศทาง

เมื่อมั่นใจถึงที่มา สองเท้าของหญิงสาวขยับออกเดินมุ่งตรงไป ในทิศทางนั้นทันที แม้ร่างกายจะไม่พร้อม แต่เพราะอะไรไม่รู้ ใจ ของเธอมันกลับเรียกร้องให้ต้องไป เหมือนกับว่ามีใครจับจูงเธอ ให้ก้าวเดินและคอยกระซิบแผ่วเบาตามสายลมมา ว่าถ้าหากเธอ กลับไปนอนต่อ ชีวิตใหม่นี้อาจต้องสูญเสียใครสักคนที่มีค่า สำหรับเธอและร่างนี้ไปตลอดกาล

ได้โปรดหลีถิง ช่วยนางด้วย!! หรู นางกำลังถูกปรักปรำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ