พิชิตใจหม่ามี้ตัวแสบ

บทที่ 12 โกหก



บทที่ 12 โกหก

“ฉันก็อยากถามเธอเหมือนกัน ทำไมเธอต้องกลัวว่าฉันจะ ปรากฏตัวที่นี่? ”

ถึงวารุณีจะลดระดับเสียงลง แต่ความทรงพลังที่จู่ๆก็เข้ามานั้น กลับทําให้พิชญารู้สึกถึงความกดดัน

พิชญาปฏิเสธทันที ฉันเปล่า”

“ตลกจริงๆ ตอนนี้เธอมีอะไรให้ฉันรู้สึกกลัวเหรอ? ”

ถึงแม้ใบหน้าพิชญาจะพูดคำนี้ออกมาอย่างมั่นใจ แต่ในใจ นั้นไม่ใช่หน่อยๆ

เพราะว่าความรู้สึกที่วารุณีให้เธอต่างกับห้าปีก่อน แต่ตรงไหน

ที่ต่างไปนั้น ก็พูดไม่ออก

วารุณีมองออกว่าพิชญากำลังโกหก

แต่เวลานั้น เธอก็หาเหตุผลที่พิชญาโกหกไม่เจอ เห็นว่างานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นแล้ว วารุณคิดว่าตัวเองยังมีธุระต้อง ทำ จึงปล่อยพิชญา หันกลับเข้าไปในห้องงานเลี้ยง

เห็นวารุณีกลมกลืนเข้ากับฝูงคน พิชญาจึงกระทืบเท้าแรงๆ

“คุณพิชญา ทำไมคุณมาอยู่นี้ งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นแล้ว”พิชญา กำลังโกรธอยู่นั้น ทันใดนั้นเองเมธาวีคูณหนูใหญ่แห่งตระกูล แววสูงเนิน ก็เดินเข้ามาทักทายเธอจากด้านหลัง
“ฉันออกมาสูดอากาศค่ะ”พิชญายิ้มให้แล้วหันกลับไป มองไป ที่เมธาวี

ตอนที่พูด สายตาของเธอก็มองไปที่สร้อยเพชรมูลค่าหลายสิบ ล้านเส้นหนึ่งที่สวมไว้ตรงคอเมธาวี

ทันใดนั้น ในหัวของพืชญาก็คิดวิธีจัดการกับวารุณีออก สองทุ่มครึ่งกิจกรรมบริจาคสาธารณประโยชน์จึงเริ่มอย่าง เป็นทางการ

คนในงาน ภายใต้การแนะนำของเจ้าภาพ ทุกคนต่างรีบมาที่ ห้องโถง

ภายนอกงานเลี้ยงนี้ดูเป็นกิจกรรมการบริจาค ที่จริงแล้วกลับ

เป็นกิจกรรมที่คนตระกูลแววสูงเนินเลือกพันธมิตร ในโครงการ

ต่อไป

ดังนั้นคนพวกนี้ต่างแอบแข่งกัน

ยกเว้นวารุณีคนเดียวที่ยืนอยู่ด้านหลัง วันนี้เธอมาที่นี่ก็แค่ เยี่ยมเยียนเพื่อนรักแทนอาจารย์

กิจกรรมบริจาคดำเนินการไปได้ครึ่งทาง คนตระกูลแมว

สูงเนินก็ยังไม่ปรากฏตัว

วารุณีเดาว่า คืนนี้ได้เจอคนตระกูลแววสูงเนิ่นก็มีแค่คนที่ บริจาคมากที่สุด

ถ้าเธออยากเห็นนายท่านวัชระ ก็ได้แต่หาหนทางอื่น
วารุณีกัดริมฝีปาก ตอนที่คิดว่าทำอย่างไรถึงจะได้เจอคน ตระกูลแววสูงเนิน ก็ไม่ทันสังเกตเห็นบริกรถือถาดไวน์คนหนึ่ง เดินเข้ามา

วารุณีก้าวออกไป ทั้งสองก็ชนเข้าหากัน

ดีทีถาดไวน์ในมือของบริกรนั้นว่าง เลยไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่ มากนัก

กลับเป็นวารุณีที่จะปกป้องของขวัญ ในมือ จึงเอากระเป๋าถือ

วางไว้ข้างๆ

“คุณผู้หญิง ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ”บริกรรีบโค้งตัวขอโทษ

วารุณีเห็นอีกฝ่ายเป็นเด็กแค่สิบกว่าปี และไม่น่าจะตั้งใจ เลย พูดอย่างไม่ได้ติดใจเอาความไม่เป็นไรค่ะ

พูดไปวารุณีก็เดินไปทางห้องน้ำ ลืมเรื่องกระเป๋าถือของเธอ ไปเลย

พิชญาที่หลบอยู่มุมมืดมาตลอด หลังจากไม่เห็นเงาของวารุณี เธอจึงเดินออกมา

เธอรีบเอากระเป๋าถือที่พื้นขึ้นมา ถือโอกาสที่คนไม่สังเกต เอา สร้อยเพชรยัดใส่กระเป๋าถือ จากนั้นจึงเอากระเป๋าถือวางกลับไป ที่เดิมแล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากทำทุกอย่างนี้เสร็จอย่างรวดเร็ว ก็หายไปในมุมอีกครั้ง
หลังจากออกมาจากห้องน้ำ วารุณีจึงตระหนักได้ว่ากระเป๋าถือ ของตัวเองหายไป เธอคิดว่าตอนที่ชนเข้ากับบริกร น่าจะเป็นไปได้ที่หล่นไปตอน

นั้น

ตอนเธอกลับมา กระเป๋าถือวางไว้ที่พื้นจริงๆ ตอนที่เธอเก็บ กระเป๋าถือขึ้นมา

ทันใดนั้นเองกลุ่มคนก็ล้อมรอบเธอไว้

วารุณีแอบขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกว่าเรื่องราวผิดปกติไป

“ส่งมา”เมธาวีเดินออกมาจากด้านหลังฝูงชน พูดด้วยน้ำเสียง ออกคําสั่ง

“ส่งอะไร? ? “วารุณรู้สึกแปลกๆ เธอไม่รู้จักคนตรงหน้านี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ