บทที่ 7 ไปสืบ
วารุณีรู้สึกเหลือเชื่อ
แค่พริบตาเดียว วารุณีคิดว่ารีบไปแบบนี้ จะต้องมีธุระแน่ ไม่ แน่เขาอาจจะกลับมาอีก
ดังนั้น เธอเลยขอโพสต์อิทกับพยาบาล แล้วเขียนช่องทาง ติดต่อของตัวเองลงไป ยื่นให้พยาบาล
“ขอโทษนะคะ นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของฉันค่ะ ถ้าเขากลับมาอีก รบกวนเอาให้เขาด้วย
อีกด้าน
ในห้องประชุมสำนักงานใหญ่บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป บรรยากาศดูเคร่งขรึม
นัทธียืนอยู่ตำแหน่งที่เห็นชัดเหมือนกับจักรพรรดิ มองทุก คน ในที่นั้นด้วยสายตาเยือกเย็น
มองดูเหล่าคนแก่ที่ไม่ได้โผล่หน้ามานาน มุมปากนัทธีก็ขยับ เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
“วันนี้เป็นวันปันผลกำไรเหรอครับ? บรรดาลุงๆถึงได้มาถึงที่ กันหมดเลย”
เสียงของเขาชัดเจน ดัง เหมือนว่าทุกคำนั้นกำลังเคาะใส่ทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี้
เวลานั้น ไม่มีใครกล้าขานรับ
ที่วันนี้ทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ก็เพราะว่าข่าวที่ ก่อนหน้านี้นัทธีถูกลักพาตัวไปถูกแพร่กระจายออกไปอย่าง รวดเร็ว
คนที่ได้รับข่าวลือนี้ ต่างอยากเข้ามาดูให้แน่ใจทั้งนั้น
ถ้าหากเป็นจริง งั้นบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปก็จะเผชิญหน้ากับการ ปรับเปลี่ยนครั้งใหม่
แต่พอเห็นนัทธียืนอยู่ด้านหน้าอย่างสบายดี ทุกคนก็ค่อยๆ ตระหนักได้ว่าข่าวนี้ไม่เป็นจริง
“ฮ่าฮ่า ใช่คนแก่ๆอย่างพวกเราไม่ได้มาบริษัทนานแล้ว อยาก
มาดูหลานชายซะหน่อย
ในห้องประชุม เงียบไปหลายวินาที คุณสมศักดิ์ผู้อาวุโสที่สุดก็ เปิดปากพูด
เขาพูดไป บรรยากาศในห้องก็ผ่อนคลายลงทันที ต่อมาก็มีคน เสริมตาม
ความคิดของพวกคนเจ้าเล่ห์ นัทธีจะไม่รู้ได้ไง แต่เขาไม่ได้ เปิดโปง กลับพูดไปว่า “ผมก็ไม่ได้เจอพวกลุงๆมานานแล้ว แบบ นี้ละกัน ตอนเที่ยงทุกคนมากินข้าวด้วยกันเถอะ”
“ไม่ต้องหรอก ที่บ้านผมมีธุระ กลับก่อนนะ” พูดไปคุณสมศักดิ์ก็ยืนขึ้นมาด้วยไม้เท้า แล้วเดินไปที่นอกห้องประชุม ภายใต้การนําของเขา คนในห้องประชุมก็ค่อยๆออกไปหมด สุดท้ายเหลือเพียงแต่นัทธิคนเดียว
ตอนนั้น ดวงตาที่ชัดเจนของเขาเยือกเย็นลงในทันที และ ร่างกายก็เย็นชาไปทั้งตัว
“มารุต”
“ประธาน ผู้ช่วยมารุตที่อยู่ด้านนอกเดินเข้ามา “ไปสืบ เรื่องนี้ใครบงการอยู่เบื้องหลัง
“ครับ”มารุตพยักหน้าตอบรับ เตรียมจะหันเดินออกไป ก็ได้ ยินนัทธีพูดอีกว่า เดี่ยว คุณไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดก่อน แล้วเอาห้าล้านให้ผู้หญิงคนนั้น”
รูม่านตานัทธีค่อยๆหดลง ในหัวปรากฏสภาพของวารุณีใส ตอนเช้าตรู่
คิดถึงสภาพที่เธอบอกว่าจะชดใช้ สีหน้านัทธีก็อดไม่ได้ที่จะดู ผ่อนคลายลงขึ้นเยอะ
แต่ว่า เขานัทธิไม่ชอบเป็นหนี้คนอื่นมาตลอด ครั้งนี้ก็เหมือน
กัน
แต่ตอนที่มารุตไปถึงโรงพยาบาล วารุณีก็ออกไปพอดี และ พยาบาลก็หาช่องทางติดต่อที่วารุณีทิ้งไว้ไม่เจอ
พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว วารุณีก็ยังไม่ได้รับสายของผู้ชายคนนั้นเลย
อีกฝ่ายน่าจะไม่คิดแค้นอะไรกับเรื่องนี้จริงๆ แล้วหินก้อนใหญ่ ในใจวารุณีก็ค่อยๆยกออกไป
วันนี้ อากาศแจ่มใสบวกกับเป็นวันหยุดด้วย
วารุณีขับรถพาเด็กน้อยสองคนมาที่ห้างสรรพสินค้าขนาด ใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง
ในนี้ มีร้านไอศกรีมเจ้าดังในโลกโซเชียลร้านหนึ่ง เพราะว่าไอริณชอบทานไอศกรีม ดังนั้นเธอจึงสังเกตเห็น เข้าแถวยี่สิบนาทีได้ ในที่สุดก็ถึงตาพวกเธอ
“ไอริณ ลูกอยากเอารสไหน? “วารุณีก้มหน้าถาม “สตรอว์เบอร์รี รสสตรอว์เบอร์รีค่ะ”ตอนนี้ ไอริณมีความสุขมา กๆ แม้แต่น้ำเสียงที่พูดก็ยังมีความหอมหวาน
พูดจบไอริณ วารุณีก็มองไปที่อารัณ”อารัณ ลูกล่ะอยากเอารส
ไหน? ”
“ผมไม่เอา มีแต่ของเด็กผู้หญิงกิน” ใบหน้าอารัณมีแต่ความ ปฏิเสธ พูดแล้วก็เดินออกไป
หันหน้าไป สายตาก็เหลือบมองไปที่ร้านเสื้อผ้าสตรีที่อยู่ตรง ข้ามโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้หญิงที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ด้านใน ไม่ใช่ คนที่หลายวันก่อนรังแก หม่ามี้เหรอ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ