รักที่เกิดจากชื่อเสียงจอมปลอม

บทที่ 6 อย่ายิ้มให้ฉัน



บทที่ 6 อย่ายิ้มให้ฉัน

ริศารู้สึกคลื่นไส้เพราะความคาวของเลือด

เธอลากขาขวาที่เป๋ อยากรีบไปจากที่นี้ แต่ยิ่งเดิน ยิ่งลำบาก

ข้างหลังมีลมพัดผ่าน

จู่ๆประตูก็ถูกดึงออก

ณัฐกิตติได้ผลักเธออย่างแรง

“รีบไสหัวไปซะ”

ทันทีนั้น เธอเหมือนกับใบไม้ที่โรยรา ถูกเขาผลัก ไปไกลหลายเมตร แล้วล้มลงอย่างแรง

เธอนอนคว่ำอยู่กับพื้น ขยับไม่ได้

เหมือนกับว่าท้องฟ้ากับพื้นกำลังหมุน

ริศากลัวว่าจะลุกขึ้นยืนไม่ได้อีกต่อไป

เธอได้จองตั๋วเที่ยวบินของวันนี้ บินไปที่อเมริกา

เธอต้องทำเพื่อณัฐกิตติก่อนอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนที่เธอจะตาย
ถึงแม้ว่าเขาจะหักหลังเธอ แต่เธอก็ยังเกลียดเขา

ไม่ลง

ในช่วงที่หลับตาแล้วลืมตา รอยยิ้มเมื่อก่อนที่รัก และเป็นห่วงของณัฐกิตติ ได้ประคองให้เธอยืนขึ้นมา

เดินไปไม่กี่ก้าว กลับถูกสุจารีผลักไปที่กำแผง

“คุณหญิงคิดจะทำอะไร?

ริศาเช็ดรอยเลือดที่มุมปาก

ความอ่อนเพลียทำให้เธอไม่มีแรง

สายตาที่สบเข้ากับเธอ ทำให้ใจของสุจารีกระตุก

พูดตามตรง เมื่อก่อนเธอเคยรักเด็กคนนี้ที่ดูโตมา

กับตา

เธอที่เป็นถึงประธานคณะกรรมการของบริษัท เพชรพลอย คนที่รักหรือชอบก็มีแค่ไม่กี่คน

อาจเป็นเพราะว่าบนตัวของผู้หญิงคนนี้ มีความ คล้ายคลึงกับตัวเองเมื่อก่อน

ขนาดลูกสาวแท้ๆของเธอสุนิสา ยังไม่เคยให้เธอมีความรู้สึกแบบนี้เลย
แต่ตั้งแต่ที่ได้ยินจากสุนิสาที่ร้องไห้ว่าริศารังแก เธอ จนถึงริศาแย่งลูกเขยและยังทำลายสัญญาของ ตระกูลทั้งสองตระกูล เธอก็ได้ยิ่งเกลียดผู้หญิงที่ความ คิดไม่สะอาดคนนี้

เธอทำหน้าเฉยๆแล้วพูดว่า “พวกเราไม่อยากเจอ เธออีกตลอดไป รู้ตัวไว้ด้วย”

ริศาแสยะยิ้ม นัยต์ตาเต็มไปด้วยเหยียดหยาม

“เช่นกัน”

“เธอ”

สุจารียกมือจะตบเธอ แต่สีหน้าและสายตาที่โกรธ แค้นของริศาได้ทำให้เธอหยุดมือ

“คุณหญิงก็อย่าบีบบังคับฉัน ถ้าฉันเปลี่ยนใจ ก็ อย่าโทษฉันที่ลูกสาวสุดที่รักของคุณจะแย่งใจของณัฐ กิตติกลับไปไม่ได้”

สุจารีกัดฟันแล้วปล่อยมือลง ริศาออกเสียงหึทีหนึ่ง เบาๆ พยุงกำแพงแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างลำบาก

ข้างหลังเป็นเสียงร้องไห้ของสุนิสา ต่อด้วยก็เป็น เสียงปลอบของณัฐกิตติ “ไม่มีใครสามารถแย่งใจของ ฉันไปได้ เขา ยิ่งไม่คู่ควร
ริศาเกรงไปทั้งตัว

เธอกัดริมฝีปากไว้แน่น ไม่กล้าหันกลับไปมอง สายตาคู่นั้นที่เคยอ่อนโยนต่อเธอแค่คนเดียว

“พี่จุน…..พี่ดีต่อฉันมากจริงๆ…..”สุนิสาเอาหัว มุดเข้าอ้อมกอดของณัฐกิตติ ตาก็ได้แหล่ไปมองแผ่น หลังของริศาอย่างได้ใจ

มีนางพยาบาลเอาผลตรวจมาพอดี “เอ๊ะ สุนิสา เธอร้องไห้อีกทำไม? เธอท้องแล้ว ต้องระวังอารมณ์ เดิมที่ดัชนีต่างๆก็ไม่ดีเท่าไหร่แล้ว คาดว่าคงต้อง นอนโรงพยาบาลแล้ว รีบกลับไปนอนพักผ่อน

ณัฐกิตติจ้องผลตรวจใบนั้น

สุนิสาเขย่าแขนของเขาอย่างอ้อน เขาก้มหัวยิ้มให้ เธอแล้วพูดว่า “ฟังที่หมอพูดนะ”

ริศาหันกลับมามอง ก็ได้เห็นฉากที่ท่าทีอ่อนโยน

รอยยิ้มบนหน้าของณัฐกิตติ ทำให้ริศาเจ็บใจ

เหมือนถูกขุดกระดูก

เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบยิ้ม

เขาที่เมื่อก่อนเอารอยยิ้มทั้งหมด เก็บไว้ให้เธอแค่คนเดียว

จู่ๆก็นึกถึงวันวานที่เขามาขอเธอเป็นแฟนอย่าง ลำบาก และเธอก็ปฏิเสธไปนับไม่ถ้วน

เธอในตอนนั้นจะฉวยโอกาสที่เขาหลับใน ห้องเรียน แล้วแอบมองหน้าที่สวยงามของเขา ถอน หายใจอย่างเบา

นายอย่ายิ้มให้ฉัน

ฉันกลัวว่าฉันจะไม่ได้มัน

แล้วลืมมันไม่ลง…….

ริศาพึมพำออกมาอย่างหยุดไม่ได้

เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วยสิ

สุดท้ายแล้ว เธอไม่ได้จริงๆด้วย

ณัฐกิตติที่โอบสุนิสากลับห้องแล้ว กลับเกรงไปทั้ง

ในหัวมีเสียงเหมือนฟ้าผ่าดังอยู่

คำนี้พูดยังไงนะ ทำไมคุ้นเคยจังเลย
ตรงหน้ากลับมีภาพที่ริศาใส่ชุดนักเรียนโผล่ขึ้นมา

เขาแกล้งหลับ ได้ยินที่เธอพึมพ่า

ใจของเขาหวานเหมือนกินน้ำตาล

ไม่ นี้เป็นไปไม่ได้

ณัฐกิตติปวดหัวมาก

“พี่จุน พี่เป็นอะไร?

เสียงร้องของสุนิสาดังขึ้น ริศารีบหันไปมอง

ตอนที่เห็นณัฐกิตติจับหัวตัวเองไว้อย่างทรมาน ใจ ของเธอบิดเป็นก้อน

หมอบอกว่าความทรงจำที่แก้ไขของเขาไม่ได้ มั่นคง พอถูกเรื่องเก่ากระตุ้น ก็จะค่อยๆจำเรื่องของเมื่อ ก่อนได้

พอถึงเวลานั้น ความทรงจำอันเก่าและความทรงจำ ที่แก้ไขก็จะปะทะกัน อาจทำให้เขากลายเป็นประสาท จนสุดท้ายทำลายเส้นประสาททั้งหมดเขา

แล้วก็ปวดหัวจนตาย
ริศาที่ทั้งปวดใจและกังวลมาก รีบตะโกนไปทาง

ณัฐกิตติทีหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ