ที่สุดของความรักอันมิความแค้นเป็นตัวชี้น่า

บทที่1 ดูถูกเหยียดหยามต่อหน้าพิธีศพ



บทที่1 ดูถูกเหยียดหยามต่อหน้าพิธีศพ

เสียงเพลงงานศพบรรเลงอย่างต่อเนื่อง ช่าง กระตุ้นต่อมน้ำตาผู้คนเสียจริง เมิ่งจื่อฉีสวมชุดอาลัย ศพสีขาวดุจหิมะคุกเข่าก้มหน้าที่หน้าโรงศพ

ภาพถ่ายของพ่อแม่ถูกวางกลางห้องจัดงานศพ อย่างเด่นชัด นางคุกเข่าด้วยความเย็นชา

ในตาไม่มีน้ำตาแม้แต่น้อยนิด

แขกได้เข้ามาแสดงความเสียใจอย่างไม่ขาดสาย มองเมิ่งจื่อฉีที่คุกเข่าอยู่ด้วยสายตาที่น่ารังเกียจ

“ช่างเป็นอสรพิษเหลือเกิน! พ่อแม่ตายแล้วน้ำตา ซักหยดก็ไม่มี! ”

“ใครบอกไม่ใช่ล่ะ? ครึ่งปีก่อนกระทำการโหด ร้ายต่อหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง ตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ก็ได้ จากโลกไป นางยังไม่แม้แต่จะร้องไห้เลย ผู้หญิงแบบนี้ ก็เหมือนกับงูอศรพิษ!

เสียงนินทาที่จงใจต่อว่านางนั้นเสมือนมีดเล่มหนึ่ง แทงเข้าไปที่หัวใจนาง เมิ่งจื่อฉียังคงก้มหน้าทำเหมือน

หูทวนลม

หากสามารถใช้น้ำตามาระบายต่อความโศกเศร้า นั้น ล้วนไม่ใช่ความโศกเศร้าอันแท้จริงนัก, ครึ่งปีที่ ผ่านมานี้ที่อยู่ในคกถูกคนรมทบตีและทรมานอย่างหนักอยู่ทุกวัน นางมีแต่ร้องไห้และร้องไห้

แต่ก่อนนางคิดมาตลอดว่าน้ำตาที่ไหลจะไม่มีวัน ตอนนี้ถึงได้รู้แล้ว น้ำตาไหลจนไม่มีให้ไหลอีกแล้ว หมด

อยู่ในวันวานที่เหมือนตายทั้งเป็นเช่นนั้น น้ำตานาง จึงไม่มีให้ไหลอีกแล้ว

เวลาผ่านไปวินาทีต่อวินาที ก็ตกคาแล้ว แขกก็เริ่ม เบาบางลง มีเพียงเมิ่งจื่อฉีคนเดียวเท่านั้นที่ยังคุกเข่าอยู่ บนพื้นอย่างเงียบๆ

เข่าก็ชาจนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างอื่นแล้ว แผลทั่วร่างกายอันสาหัสที่แสนสุดจะเจ็บปวดหาก สามารถคุกเข่าตรงนี้จนตายไป ก็ถือเป็นการได้พ้น ทุกข์แล้ว

รองเท้าหนังสีดำคู่หนึ่งก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้านาง พลังแห่งความเย็นชาพุ่งมาต่อหน้านางความรู้สึกคุ้นชิน ที่นางมีต่อกู้จิ่งเซิน ไม่ต้องเงยหน้าก็รู้ว่าเป็นเขา

เมิ่งจื่อฉียังคงก้มหน้าลง นางมองเงาที่ส่องสะท้อน จากพื้นกระเบื้องอย่างเงียบๆ พื้นกระเบื้องก็ได้สะท้อน เงาของกู้วิ่งเซิน ยืนอย่างสง่าหล่อเหลา ใบหน้าเต็มไป ด้วยความอาฆาตแค้น นำดอกไม้ไปวางหน้าโรง ศพ แล้วไปจุดธูป
กู้จิ่งเชินโค้งคำนับต่อภาพศพอย่างเคารพคำนับ แล้วปักธูป หันมาพร้อมกับมองเมิ่งจื่อฉี คุกเข่าด้วย สายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความ รังเกียจ

ต่อมามืออันเรียวยาวได้ยื่นมาจับที่คางของนาง อย่างแรง : “แท้จริงแล้วเจ้ายังไม่ตาย?

เมิ่งจื่อฉีถูกจับที่คางอย่างเต็มแรงพร้อมกับจ้อง หน้านาง ในแววตาของผู้ชายเต็มไปด้วยความรังเกียจ นางมองกู้จิ้งเซินอย่างเย็นชา ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

กู้จิ่งเซินเกลียดการกระทำอย่างนี้ของเมิ่งจื่อฉี อย่างยิ่ง ทั้งๆที่เป็นผู้หญิงที่เหี้ยมโหดสุดๆ แต่กลับมี ใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์และสวยงามอย่างมาก

กู้วิ่งเซินมองเห็นแววตาที่ใสซื่อ จ้องมองใบหน้าอัน สวยงามของนาง คิดถึงสิ่งชั่วร้ายที่นางทำไว้ พลังแห่ง ความแค้นก็ได้พุ่งขึ้นมา กระชากเมิ่งจื่อฉีขึ้นมาจากพื้น อย่างเต็มแรง กู้จิ่งเซินใช้มืออันใหญ่บีบไปที่คอนาง

เมิ่งจื่อฉีไม่ต่อสู้ขัดขืนแม้แต่นิด เพียงแค่ลืมตาคู่ ใสๆของนาง มองกู้วิ่งเซินด้วยแววตานี้ มองผู้ชายคนนี้ที่ ทำให้นางรักอย่างหัวปักหัวป๋า ทำให้พ่อแม่ของนางตาย ทั้งคู่ ทั้งยังให้นางอยู่ในคุกเหมือนตายทั้งเป็น ไหนๆถ้ามี ชีวิตอยู่ก็ต้องกลับไปถูกทรมานในคุก สู้ถูกกู้จิ่งเซินบีบ คอตายตรงนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้ถือว่าก็ได้พ้นทุกข์
มองนางที่ไม่อยากจะมีชีวิตไม่มีการต่อสู้ขัดขืน กู้วิ่งเซินรีบปล่อยมือออก บีบคอนาง อสรพิษนี้ก็ดูจะ สงเคราะห์ตามที่นางหวังไว้ กู้วิ่งเซ็นทรมานโหดเหี้ยม กับนางแบบนี้ นางจะมีวันพ้นทุกข์ได้อย่างไร

สายตาเยี่ยงหมาป่าจ้องมาที่ใบหน้าอันผุดผ่องของ เมิ่งจื่อฉี ในใจของกู้วิ่งเซินมีความรู้สึกถึงพลังแห่งความ แค้นพุ่งขึ้นมาทันทีไม่สามารถควบคุมได้

“อีกะหรี่! เธอวางยาฉันหรอ? “ได้กลิ่นหวานๆ ลอยอยู่กลางอากาศ ในตาของกู้จิ่งเซ็นเต็มไปด้วย ความโกรธ มืออันใหญ่ได้จับเข้าไปที่ตัวนาง

“สื่อออ”เสียงฉีกดังขึ้น เสื้อผ้าของเมิ่งจื่อฉีถูกเขา ฉีกอย่างรุนแรง นางรีบเอามือบังไปที่หน้าอกตัวเอง มือ ของผู้ชายได้ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างนาง

หู ได้ยินแต่เสียงฉีกขาดของเสื้อผ้าอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกเย็นชานั้นได้ซึมลึกเข้าถึงกระดูกนาง

แววตาของเมิ่งจื่อฉีเต็มไปด้วยความหวาด กลัว: “อย่า…..อย่า………

การกระทำของกู้วิ่งเซินไม่มีท่าทีว่าจะหยุด หมุน ร่างกายที่เปลือยผ้า กดนางลงที่พื้น ตั้งใจที่จะรูดซิป หน้ากางเกงออก สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปอย่ารุนแรง
ใต้ร่างที่ถูกกระทำอย่าเจ็บปวดสาหัส เมิ่งจื่อฉี คุกเข่าที่พื้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า สายตามองไปที่ ภาพถ่ายหน้าโรงศพ ในใจนั้นทั้งเจ็บปวดย่อยยับ ในตา ก็ไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว

กู้จิ่งเซินพุ่งเข้าไปที่ตัวนางอย่างรุนแรง ทุกจังหวะ ที่สอดใส่เข้าไปนั้นด้วยความรนแรง จนมีเลือดไหล ออกมาจากช่องคลอด เสียงของการสอดใส่เขานั้นสั่น คลอนถึงในกระดูก “ช่องพรหมจารีศัลยกรรมได้ฟิตดี หนิ โรงพยาบาลไหนเนี่ย? ”

ผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่นั้นไม่แม้แต่จะออกเสียง เสมือน ศพที่นอนให้เขาได้ระบายทางเพศ

การที่นางไม่ส่งเสียงเลยยิ่งทำให้กู้จิ่งเซินคิดว่า นางต่อต้านแบบไม่ออกเสียง เขาจึงยิ่งสอดใส่รุนแรง กว่าเดิม จนกู้จิ่งเซ็นสำเร็จความใคร่แล้วจึงถอยออก จากร่างนาง พึ่งจะรู้ว่าเมิ่งจื่อฉีนั้นสลบไปตั้งนานแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ