คุณคือภัยความรักของฉัน

บทที่ 8 ทําไมไม่ไปตายซะ



บทที่ 8 ทําไมไม่ไปตายซะ

“เสียเปรียบงั้นหรอ

เคนยิ้มอย่างเยือกเย็น

“ผมกับผอ.ศักดิ์ก็ถือว่ายังสนิทสนมกันอยู่นะ ถ้า คุณตอบคำถามของผมอย่างตรงไปตรงมา ผมจะช่วย คุณปิดเป็นความลับ

หมอหลิวกลัวจนขาสั่น

“คุณเคนถามมาได้เลยครับ ผมจะบอกคุณทุกอ ย่างๆแน่นอน”

“หมู่นี้มีผู้หญิงที่ชื่อฐิสามาหาคุณให้คุณจับชีพจร เพื่อที่จะดูว่าเด็กในท้องเป็นเพศชายเพศหญิงหรือ เปล่า”

เคนถามด้วยสายตาโกรธ

“มีครับ”

“คุณแน่ใจใช่ไหม”

หมอหลิวพยักหน้ารับ

“หมู่นี้ในโรงพยาบาลตรวจได้เคร่งครัด เพศของ ทารกนั้นห้ามพูดเป็นอันขาด ไม่กี่วันมานี้ ผมมีแค่ผู้ป่วยเพียงหนึ่งคน หล่อนพูดไปร้องไห้ไปว่าที่บ้านสามีเร่งรัด มาก ต้องคลอดเพียงลูกผู้ชายเท่านั้น ไม่อย่างนั้นละก็ ชีวิตเด็กคนนี้ไม่รอดแน่ ผมเห็นหล่อนน่าสงสารจึงบอก กับหล่อนว่า หล่อนนั้นมีโอกาสท้องเป็นลูกผู้หญิงสูง มาก”

เคนโกรธมากแต่พยายามให้ตัวเองนั้นใจเย็นลง

“แน่ใจนะ”

“แน่ใจครับ ผมจำได้ว่าใบลงทะเบียนชื่อนั้นเป็น ชื่อคุณฐิสา เพราะว่าผมบอกหล่อนเพียงแค่คนเดียว ผม ก็เลยจำได้ดี”

เคนลุกขึ้นอย่างพลุนพลัน พร้อมก้าวเท้าออกจาก ห้องทํางานของหมอ

หมอหลิวค่อยๆผ่อนหายใจอย่างช้าๆ แล้วหยิบ โทรศัพท์ออกมาเพื่อที่จะส่งข้อความ

“คุณทอรุ้งครับ เรื่องที่คุณให้ผมทำผมจัดการให้ เรียบร้อยแล้วนะครับ หวังว่าคุณจะปล่อยผมไปได้แล้ว นะครับ”

เคนขับรถกลับบ้านเพียงลำพัง

ถ้าจะบอกว่าเป็นคฤหาสน์ของเคนก็ไม่ถูกนักเพราะว่าหลังจากแต่งงงาน คฤหาสน์ที่ดีเลิศแห่งนี้ก็เป็น ของ สามาโดยตลอด เพียงแต่เคนจะมาบ้างเป็นครั้ง คราว ถึงแม้ว่าจะเข้ามาแต่ก็ไม่ได้นอนค้าง พอมีอะไร กับฐิสา เคนก็จะรีบออกจากคฤหาสน์ไป

เคนเข้ามาด้วยสีหน้าอย่างโกรธๆ สีหน้านั้นทำเอา พี่มะปรางตกใจ

มะปรางกำลังจะเอาซุปไก่ไปยังชั้นบน

“คุณผู้ชายกลับมาแล้วหรอค่ะ”

เคนเดินผ่านมะปรางไป เห็นในมือหล่อนถือซุปอยู่ ก็เดินเข้าไปแย่งแล้วเอาเขวี้ยงลงบนพื้น

มะปรางกลัวจนใจสั่น

“มันยังสมควรที่จะได้กินซุปอีกหรอ”

พูดจบเคนก็เดินขึ้นไปชั้นบน ถีบประตูห้องนอนให้

เปิดออก

ในห้องนอน พี่แก้วกำลังปลอบประโลมให้ฐิสากิน อาหารอยู่ ทั้งสองตกใจที่ได้ยินเสียงถีบประตู

“ไสหัวไป”
“คุณผู้.……………..

พี่แก้วเห็นสีหน้าของเคนที่ดำคล้ำเหมือนกับก้น หม้อที่ไหม้กำลังโกรธอยู่ ก็คงเป็นเพราะว่าตัวพี่แก้ว เองที่นำเอาเรื่องที่ฐิสาไปทำแท้งบอกกับทอรุ้ง หล่อนรู้ อย่างแน่นอนว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

“คุณผู้ชายค่ะ คุณฐิสาเพิ่งแท้ง ร่างกายอ่อนแอ มากนะค่ะ คุณ…..

“ฉันบอกว่าให้ไสหัวออกไป” เคนตะคอกใส่

พี่แก้วกลัวจึงรีบออกจากห้องทันที

ฐิสาเหมือนกับขอนไม้ ไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าไม่มี

ความรู้สึก

เคนเข้าไปจับเสื้อฐิสาไว้แน่น จนร่างกายของ หล่อนได้ถูกช้อนขึ้นมา

“ฐิสา ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ นั่นมันลูกของฉัน ลูก ของฉัน”

ฐิสายิ้มอย่างเลือดเย็นทันที

“ลูกของเธองั้นหรอ เธอพูดว่าถึงแม้ว่าฉันจะท้อง ลูกของฉันก็ต้องออกมาดุร้ายเหมือนกันไม่ใช่หรอ”
เสียงของฐิสาไม่มีเรี่ยวแรง

เห็นหน้าฐิสาไม่แสดงอาการใดๆ เคนยิ่งโกรธ เข้าไปใหญ่ เขาจับเสื้อของฐิสาไว้แน่นดึงระยะห่างของ คนทั้งสองคนให้ใกล้ชิดกัน

“เธอกลายเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไม ถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ผู้หญิงที่ร้ายๆยังไม่เท่ากับเธอเลย เสือแม้มันจะร้ายมันก็ไม่ทำร้ายลูกของตัวเองหรอก ทําไมเธอกลับทําตามใจตนเอง……

เคนกัดฟันกรอด เขาโกรธจนตัวสั่นไปหมด

นี่ยังคงเป็นฐิสาที่ไร้เดียงสาที่เขารู้จักอยู่หรือเปล่า

เขาเคยคิดว่ารอยยิ้มของหล่อนเป็นรอยยิ้มที่ บริสุทธิ์ที่สุด หรือว่านี่เขาจะตาบอดไปแล้ว

“ทำไมเธอไม่ตายไปซะ? ฐิสา ทำไมเธอยังหน้า ด้านอยู่ต่อ เธอมันสมควรที่จะตาย! ทำไมไม่ตายๆไป ซะ!”

สีหน้าและสายตาของเคนดุร้าย เขาอยากจะบีบ ร่างของฐิสาให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

นั่นคือลูกของเขางั้นหรอ!
คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรอ!

เขายังไม่รู้ว่าตัวเขาเองอยู่ในตำแหน่งอะไรก็กลับ ถูกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนี้ฆ่าเสียแล้ว

เขาอยากที่จะเอาผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าออกมาแล เนื้อเป็นชิ้นๆแล้วเอาเกลือทาเสีย

ฐิสายังคงเหม่อมองมาที่เคนตามเดิม

“งั้นเธอก็ฆ่าฉันเลยเถอะ”

“เธอคิดว่าฉันไม่กล้าใช่ไหม”

เคนเปลี่ยนทิศทางของสองมือ เดิมทีจากที่เอา มือมาจับที่ปกคอเสื้อของฐิสา ก็เปลี่ยนมาบีบที่คอของ หล่อนแทน

เพราะว่าความโกรธ หน้าอกของเขาจึงขยับขึ้นๆ

ลงๆ

เขาเห็นสีหน้าของฐิสาที่ขาวซีดเซียวก็อยากที่จะ บีบคอหล่อนให้ขาดจริงๆ เพื่อเป็นการแก้แค้นแทนลูก

ของเขา

แต่ว่า ในสมองของเขามีภาพปรากฏเป็นฐิสาคน เดิม คนที่มีรอยยิ้มที่บริสุทธิ์และมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

ฐิสาหลับตาลงอย่างเจ็บปวด

หลายวันมานี้หล่อนขวนขวายหาความตาย เพียง แต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ฟ้าดูแลอย่างใกล้ชิด กลับ มาบ้านพี่แก้วและมะปรางก็ดูแลอย่างใกล้ชิดอีก เลย ไม่มีโอกาสนั้นเลย

ในที่สุดวันนี้ก็สมใจตัวเองซะที

แต่ว่า เคนกลับปล่อยมือในทันที ทำให้ร่างของฐิสา ไปอยู่ที่บนเตียง

เสียงสิ่งของกระทบกัน

“โครม”

ของทั้งหมดที่อยู่ในห้อง เคนเห็นก็ถือมาทุบทำลาย และปาลงกับพื้น

เขาไม่มีทางที่จะฆ่าผู้หญิงที่เขารักมาตั้งหลาย ปีด้วยน้ำมือของตัวเอง ก็เลยทำได้แค่ระบายไปกับ สิ่งของเหล่านี้

พี่แก้วและมะปรางทำได้แค่ยืนอยู่ปากประตูข้าง นอก ฟังเสียงจากข้างใน กระทืบเท้าด้วยความใจร้อน
นานมากที่เสียงของแตกได้ถูกเขวี้ยงลงกับพื้น

ในที่สุดเคนก็ละมือ

เขาดูเหมือนจะระบายพอแล้ว ตัดสินใจเปิดประตู แล้วเดินออกไป

ก่อนจะไปนั้นเขาก็ไม่ได้มองมาที่ฐิสาเลยแม้แต่

เคนจากไปแล้ว พี่แก้วและมะปรางก็รีบเข้าไปใน

ห้องนอนทันที

“คุณหนูเป็นอะไรไหมค่ะ”

เห็นของที่กระจัดกระจายเรี่ยราดไปตามพื้น พี่แก้ว และมะปรางก็ตกใจ

ฐิสากลับเหมือนท่อนไม้ นั่งอย่างเหม่อลอยอยู่บน เตียงนอน ไม่พูดไม่จา

พี่แก้วและมะปรางเริ่มเก็บของที่อยู่ในห้องทันที

“ไม่ต้องเก็บหรอก มานี่ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”

เสียงของฐิสานั้นอ่อนพริ้ว ฟังแล้วไม่บ่งบอกถึงอาการใดๆ
พี่แก้วและมะปรางมองหน้ากันแล้วไปที่ข้างๆเตียง

“ฉันรู้ว่าที่บ้านพี่แก้วและมะปรางนั้นมีสภาพความ เป็นอยู่ไม่ค่อยดีนัก ไม่งั้นก็คงไม่มาเป็นคนรับใช้บ้านอื่น หรอก แต่ว่าต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ ฉันไม่มีเงินจ้างพี่ แก้วและมะปรางอีกต่อไปแล้ว สภาพที่เป็นตอนนี้ของ ฉันเอง พี่แก้วและมะปรางก็น่าจะรู้นะ”

“คุณหนู……… เห็นใบหน้าของฐิสาเป็นเช่นนี้ น้ำตา ของมะปรางก็ไหลพรากออกมา

ฐิสายันร่างตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก ดึงลิ้นชักที่ อยู่บนหัวนอนออกและเอาเครื่องประดับออกมา

“มะปราง แม่ของเธอป่วยไม่ใช่หรอ? ฉันคิดว่า

กำไลหยกนี้ยังมีมูลค่าอยู่นะ เธอเอาไปสิ”

ฐิสาเอากำไลหยกยื่นให้มะปราง

“คุณหนู ฉันจะเอา

“บอกให้เอาไปก็เอาไปสิ พี่แก้วและมะปรางอยู่กับ ฉันลำบากมาก็ไม่น้อยเลย ให้สิ่งนี้กับพวกพี่แล้วฉันรู้สึก ระอายใจจัง”

มะปรางเอากำไลหยกมาถือไว้ในมือ
“พี่แก้ว สามีพี่ขาไม่ค่อยดี ปกติต้องดื่มยาตลอด นี่ หยกเจ้าแม่กวนอิมและก็สร้อยคอทอง พี่เอาไปสิ”

พี่แก้วรับของมาไว้อย่างสั้นๆ

“ห้องนี่ก็ไม่ต้องเก็บหรอก ไปเก็บข้าวเก็บของของ พวกพี่ดีกว่า ฉันดูแลตัวเองได้”

“คุณหนู..………

“พวกพี่อยู่ที่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันไม่มี เงินเดือนจ้างพวกพี่นะ”

ทั้งสองคนหันหลังค่อยๆเดินออกไป

พี่แก้วมองหยกเจ้าแม่กวนอิมและสร้อยคอทองที่ อยู่ในมือ หัวใจของพี่แก้วก็เหมือนถูกอะไรแทง

นี่คือของที่มีค่าชิ้นสุดท้ายของฐิสา

แต่ว่าฐิสายังคงกลับคิดถึงพวกคนรับใช้อย่างพวก หล่อนอยู่

“คุณหนู”

พี่แก้วหันตัวกลับมาทันที “ตุ้บ” เสียงคุกเข่านั่งลงกับพื้น
“พี่ขอโทษ พี่ขอโทษนะคุณหนู”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ