บทที่ 4 : จัดการขั้นเด็ดขาด
“จริงดิ”
“ตามมาๆ เชื่อฝีมือฉัน” ว่าแล้วเคที่ ราเอลก็เดิน นำหญิงชายอีกสองคนมาทางด้านข้างของโรงเรียนซึ่ง จะมีประตูเล็กๆซึ่งถูกล็อคกุญแจไว้
“นี่กุญแจฉันแอบขโมยจากลุงภารโรงมานะเนี่ย”
“เคที่ ราเอลลลลลลลล นี่แกหาเรื่องอีกแล้ว”
“มาชื่อเต็มอีกแล้ว ฉันกลัวแล้ววววววววววว แต่ อย่าพึ่งบ่นเลยนะ ให้พี่ชายแกออกไปก่อนเดี๋ยวมีคนมา เห็นแล้วเราจะซวยกันหมด”
“ฝากน้องสาวผมด้วยนะครับ…คุณเคที่
“ยัยนี่อยู่กับคนอย่างเคที่แล้วหายห่วง”
เคที่ ราเอลรับรู้จากความรู้สึกได้เลยว่าผู้ชายคน นี้ทั้งรักและเป็นห่วงเพื่อนสาวของเธอมาก แต่แปลกใจ ที่เพื่อนสาวพร่ำบอกเสมอว่าพี่ชายของเธอคิดกับเธอ เพียงแค่น้องสาวเท่านั้นเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคน นี้ถึงไม่พูดความจริงแต่ถ้าให้เธอเดาก็คงเพราะคุณรา วิน วรวัฒน์ พ่อของเขาหรือพ่อเลี้ยงของเพื่อนสาวของ เธออีกตามเคย
ก่อนหน้านี้เคที่ ราเอลรับรู้เรื่องราวทุกอย่างผ่านคำพูดของเพื่อนสาวซึ่งก็ยังสองจิตสองใจว่าชายคนนี้รู้สึก อย่างไรแต่พอได้เจอกับตัวแล้วก็รู้ทันทีว่าชายคนนี้รู้สึก อย่างไรกับไอริณ แต่กับเพื่อนสาวทำไมเธอถึงไม่รู้นะ ส่วนเรื่องที่ไอริณถูกเก็บมาเลี้ยงและต้องทนอยู่สภาพ แบบนี้เธอก็รับรู้เช่นกัน เคทีเองก็เคยบอกเพื่อนสาวเธอ แล้วว่า…เธอจะให้คาร์ล ราเอล พ่อของเธอจัดการเรื่อง นี้ให้ถ้าราวิน วรวัฒน์ พ่อเลี้ยงของไอริณจะพาเธอไป คืนที่สถานสงเคราะห์เธอก็จะให้คาร์ลรับอุปการะเป็น ผู้ปกครองเธอเองแต่ไอริณก็มองว่ามันเป็นการเหยียบ ย้ำน้ำใจพ่อเลี้ยงของเธอเกินไปไหนจะความรู้สึกของพิ มดาว วรวัฒน์ แม่เลี้ยงที่ก็รักและดูแลเธอดีมาตลอดถึง แม้ราวินจะไม่เคยดูดำดูดีแต่ถ้าไม่ได้เขาทั้งสองคนเธอ ก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตที่ดีมีกินมีใช้แบบทุกวันนี้หรือเปล่า
“ไอรี่ ถ้าแกออกมาจากบ้านหลังนั้น แกก็มีสิทธิรัก พี่ชายได้โดยไม่มีคำครหาใดๆแล้วนะ”
“ยังไงทั้งสองคนก็เป็นผู้มีพระคุณของฉัน ไม่นาน หรอกเคที่รอฉันบรรลุนิติภาวะ ทุกอย่างก็จะกลับมาสู่ ภาวะปกติ”
“เอาที่แกสบายใจนะ
“จบที่โรงเรียนนี้แล้ว ฉันก็จะออกจากบ้านหาเลี้ยง ตัวเอง สามารถทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ สามารถรักคนที่ฉันอยากจะรัก”
“มีอะไรให้ช่วยเธอต้องบอกฉันนะ ทั้งฉันเควินแค ทและคาร์ลพร้อมยื่นมือช่วยเธอเสมอ”
“ฉันรู้”
“คาร์ลและแคทรักเธอเหมือนลูกเลยนะ เป็นห่วง ยิ่งกว่าฉันเสียอีก”
“ฉันก็ชอบคุณลุงกับคุณน้าเหมือนกัน”
“จบแล้วเธอไปอยู่กับฉันที่แคนนาดามั้ย ไปเรียน ต่อที่นั่นไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเลย”
“ฉันขออยู่รอคำตอบจากพี่ชายก่อนนะ แล้วฉันจะ
ให้คำตอบเธอ”
“อะไรๆก็พี่ชาย ถ้าวันไหนพี่ชายแกไม่อยู่จะทำยัง
ไง”
“ไม่รู้สิตั้งแต่จำความได้ทุกๆวันฉันก็มีแต่พี่ชายที่ คอยปกป้องฉันมาตลอดยังไม่เคยคิดถึงวันที่ไม่มีพี่ชาย เลย”
เคทีราเอลเป็นหญิงสาวลูกครึ่งไทย-แคนนาดา ผิว ขาว ผมบลอนซ์ หน้าตาน่ารัก แม่เป็นหญิงชาวไทยที่ มีฐานะอยู่แล้วชื่อแคทส่วนพ่อของเคที่ชื่อคาร์ลราเอล เป็นชาวแคนนาดาได้รับบริษัทสืบทอดจากรุ่นพ่อของ เขาอีกทีในตอนนั้นบริษัทยังไม่โด่งดังและมีชื่อเสียง ขนาดนี้ตั้งแต่ชายคนนี้เข้ามาบริหารจัดการบริษัทรา เอลก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ จับธุรกิจได้หลากหลาย หลังจากเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งคาร์ลและแคทก็ลง หลักปักฐานที่แคนนาดากลับมาเมืองไทยช่วงหยุดพัก ผ่อนยาวๆปีหนึ่งก็หลายหน
แม้ว่าจะอยู่ที่แคนนาดาแคทก็จะสอนและคุยภาษา ไทยกับเควินและเคที่ตลอดจึงไม่แปลกใจที่เคที่จะพูด ภาษาไทยได้แต่ตอนนี้ที่เคที่และแม่ของเธอต้องกลับ มาเมืองไทยเพราะแม่ของแคทหรือว่ายายของเคที่ไม่ สบายมีภาวะหลงๆลืมๆจนในที่สุดก็เข้าสู่โรคอัลไซเมอร์ แคทจึงตัดสินใจกลับมาดูแลซึ่งเคที่ก็ขอตามมาด้วยแต่ ถ้าเธออยู่บ้านแคทก็ไม่ได้มีเวลาจะรับส่งไปโรงเรียนมา กนักเคที่เข้าใจตรงจุดนี้ดีเพราะต้องคอยดูแลคุณยายที่ เป็นอัลไซเมอร์ จึงตัดสินใจมาเรียนโรงเรียนประจำ ถึง อย่างไรทุกสุดสัปดาห์แคทก็จะมารับเคที่ไปอยู่กับคุณ ยายเสมอ
> > ณ บ้านวรวัฒน์ << “ไอ้คิณ!!...นี่แกแอบไปหามันมาอีกแล้วใช่มั้ย” ** ชายวัยกลางคนไม่ได้คำตอบจากชายหนุ่ม วัย 14 ปี “แยกห้องก็แล้ว แยกโรงเรียนก็แล้ว ส่งไปอยู่ โรงเรียนประจำก็แล้ว แกจะให้พ่อจัดการขั้นเด็ดขาดใช่ “กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่มันไปอยู่โรงเรียน ประจำ แกแอบไปหามันตลอดใช่มั้ย” “ปกติพ่อก็ไม่ได้สนใจอะไรใครนอกจากบริษัทอยู่ แล้ว เรื่องนี้จะมาสนใจอะไรนักหนา แล้วก็อย่าใช้คำว่า มันกับไอริณ” “นี่พ่อแกนะ” “พ่อหนีความจริงข้อนี้ไม่ได้ว่าผมรักน้องสาวของ ผม” ยิ่งลูกชายของเขาพูดยิ่งทําให้ชายร่างใหญ่วัย 38 ปีนี้หงุดหงิดใจมากกว่าเดิม “ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่งกับไอริณอีก” “พ่อบอกแค่ว่าอย่าให้น้องรู้ว่าผมรักน้องผมก็ทำตามแล้วไง” “ฉันจะไม่ฟังคำพูดอะไรแกอีก เตรียมตัวไป ฝรั่งเศสซะ” “ผมไม่ไป” “ไม่ได้!!...ฉันเตรียมตั๋วไว้ให้แกหมดแล้วเดินทาง พรุ่งนี้เช้า ” “พ่อ!! นี่มันจะเกินไปแล้วนะให้เป็นพี่ชายน้องสาว ก็เป็นให้แล้วนี่ไงไม่ให้บอกชอบน้องก็ไม่เคยบอกไงพ่อ ยังจะต้องการอะไรอีก” “ทำให้ไอริณเกลียดแกซะ” “จะส่งก็ส่งไปแต่พ่อมาบังคับผมไม่ได้หรอกและ สั่งห้ามไม่ให้ผมติดต่อน้องไม่ได้หรอก” “แกคิดว่างั้นจริงเหรอคิดว่าฉันจะส่งแค่แกไป ฝรั่งเศสแค่นั้นเหรอ” “พ่อจะทำอะไรน้องอีก “ส่งกลับไปสถานสงเคราะห์เด็กไงดีมั้ย ยังไม่ บรรลุนิติภาวะฉันจะส่งกลับคืนเมื่อไหร่ มันก็เป็นสิทธิ ของฉัน” “โธ่เว้ย!!” ชายวัย 14 ปีสบถอย่างไม่สบอารมณ์ หัวเสียเดินออกไป “จะไปไหน” “ไปหาน้องอย่ามายุ่ง “ทุกคนจับตัวไว้” “พ่อ!!...ทำเกินไปแล้วนะ” “ฉันทำได้มากกว่านี้อีก” “ทำไมบอกผมสิมีเหตุผลอะไร “แกจะรักใครคบใครก็ได้แต่ไม่ใช่ยัยไอริณ” “แต่ผมรักไอริณ” “โธ่เว้ย!!...ถ้าปล่อยให้พาคิณหนีไปได้จะไล่ออก ให้หมด” “คุณคะ...” “ผมทำตามที่คุณขอไปแล้วเรื่องนี้คุณไม่ต้องเข้ามายุ่ง”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ