สายลมหนไปได้ที่จะพัดผ่านไปไกล

บทที่ 7 ปล่อยวาง



บทที่ 7 ปล่อยวาง

เสียงของวารินค่อยๆแผ่วเบาลง เธอขอร้องเขา

ลูกเป็นชีวิตเส้นสุดท้ายของเธอ ความอับอายต่างๆ นาๆเธอสามารถทนได้ ยกเว้นแต่ลูกคนนี้!

แต่แพรวากลับผลักเธอออก “ใครว่าเป็นของเธอ เป็นของฉันต่างหาก!

เธอเข้าไปพูดตรงใกล้หูของวาริน “วาริน เธอรู้ไหม ว่าทำไมฉันถึงไม่ให้เพทายเลือกผู้หญิงคนอื่นมาท้อง แทนฉัน? เพราะฉันชอบให้เธอคลอดไง เป็นลูกชายยิ่ง ดี คลอดออกมาแล้วเรียกฉันว่าแม่ จากนั้นก็อยู่กับฉัน ทุกๆวัน”

“พอถึงเวลา ฉันอยากสั่งสอนเขายังไงก็สั่งสอน อย่างนั้น อยากทรมานยังไง…..ทรมานอย่างนั้น!

วารินแข็งไปทั้งตัวเลย เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัว เองได้ยินเลย

แต่แพรวาได้เดินจากไปแล้ว เธอเดินออกไปรอ

ข้างนอก

“เพทาย”

วารินรู้สึกกระวนกระวายไปหมด ดวงตาทั้งสอง ข้างก็แดงไปหมด เธอรู้แผนการของแพรวา ถ้าลูกของตัวเองถูกแพรวาอบรมสั่งสอน จะด่าหรือจะตียังถือว่า เบา ไม่แน่อาจจะถูกทารุณก็เป็นได้…..

“เธอจะต้องรังแกลูกของเราแน่ เพทาย แพรวา เกลียดฉัน ถ้านำลูกของเราให้เธอเลี้ยง ไม่แน่เธออาจ จะ.…….

เธอเคยดูรูปถ่ายและข่าวเกี่ยวกับการทารุณเด็ก มามาก วารินไม่อยากคิดมากไปกว่านี้เลย พอเธอเห็น เพทายเดินเข้ามา เธอก็รีบจับเขาไว้ แล้วน้ำตาก็ไหลลง มาโดยไม่รู้ตัว

“ขอร้องล่ะ อย่างน้อยก็คิดเผื่อลูกก็ได้ เพราะเขา ก็ยังเป็นลูกของนาย………

เพทายขมวดคิ้ว พอมองดูใบหน้าที่กำลังร้องไห้

ของเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“เธอก็รู้หรอว่าเป็นลูกของฉัน แพรวาเป็นคนดีอยู่ แล้ว ยังไงก็ต้องใจดีและเอ็นดูเด็ก”

“ไม่! ไม่มีทางแน่นอน!

พอเห็นเขาเดินไป วารินก็รีบรั้งเขาไว้ “แพรวา เธอ ไม่ได้ชอบเด็กอยู่แล้ว เธอทารุณสัตว์และรังแกเพื่อนๆ ตั้งแต่เด็ก ต่อมายังตั้งใจอ่อยผู้ชายแล้วทิ้งไป….เพทาย เลือดเนื้อแท้ๆของเธอเป็นคนที่โหดร้ายคนหนึ่งนะ!”
“หุบปาก”

“อย่านำลูกของเราให้เธอเลี้ยง ฉันไม่สามารถเห็น ลูกของฉันถูกคนเลวๆอย่างนั้นทำร้าย!”

เธอพูดอะไรไม่ถูกเลย

หลังจากเธอพูดจบ กลับถูกตอบกลับด้วยเสียงตบ

ที่ดังสนั่น

วารินจับหน้าของตัวเองไว้ แล้วนิ่งไปเลย

“ใครอนุญาตให้เธอใส่ร้ายแพรวา แพรวาดีขนาด นั้น แพรวาไม่เคยพูดเรื่องไม่ดีของเธอต่อหน้าฉันแม้แต่ สักคำเลย แต่เธอน่ะสิ! ปลอมตัวเป็นคุณผู้หญิงบ้าน สุริยะโชติไม่พอ ยังใส่ร้ายแพรวาอีก วาริน เธอเก็บหน้า ไว้หน่อยนะ อย่าหน้าด้านเกินไป!”

ในระยะห่างช่วงหนึ่ง แพรวายืนอยู่ที่หน้าระเบียง แล้วแอบยิ้มที่มุมปาก เธอมองดูภาพเหตุการณ์เหล่านี้ อย่างเงียบๆ

ทันใดนั้นวารินก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอเงยหน้า ขึ้น ผู้ชายตรงหน้าเธอยังคงสุขุมและเย็นชา มีแต่คำว่า รังเกียจเขียนอยู่บนใบหน้า

“ได้ยินแพรวาบอกว่าเธอเคยแอบชอบฉันมาหลายปีเลยนิ วาริน เธอมีสิทธิ์อะไรมาคิดว่าฉันจะชอบ คนแบบเธอ”

ผ่านไปนานมากกว่าเธอจะเอ่ยปากพูด และเป็น เสียงที่แผ่วเบามาก

“นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยหรอ?”

เพทายอึ้งไปเลย มีแต่สีหน้าที่ไม่พอใจบนใบหน้า

ของเขา

“ความเสแสร้งที่เธอในทุกๆวันนี้ ใครเห็นแล้วต่างก็ รู้สึกรังเกียจแหละ”

เฮอะ……

ที่แท้เขาก็รังเกียจเธอแบบนี้มาโดยตลอด

แต่วารินยังคงจำได้อยู่ ครั้งเมื่อตอนเธอยังเป็นวัย รุ่น เขาเคยชมว่าเธอสวย และตอนที่พบเจอกันเขาก็จะ ส่งสายตาให้เธอ แล้วพูดว่าผู้หญิงที่เรียนนิเทศสวยทุก คน

ตอนแรกเธอยังคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกดีกับเธอและ

ชอบเธออยู่บ้าง

แต่กลับไม่รู้ว่าความชอบนี้เริ่มกลายเป็นความรังเกียจตั้งแต่เมื่อไหร่

เพทาย สามีของเธอ รังเกียจเธอแบบนี้มาโดย

ตลอด

ช่างเถอะ……

“ในเมื่อรู้แก่ใจอยู่แล้ว จากนี้ไปก็ออกห่างจากฉัน หน่อย ตอนนี้แม้แต่เห็นเธอฉันยังรู้สึกรำคาญเลย……

เพทายยังไม่ทันพูดจบ ข้างๆหูก็มีเสียงแหบๆของผู้หญิงดังขึ้นมา

“เราหย่ากันเถอะ…”
“ดูหน้าสิ ยังบวมอยู่เลย คงไม่ใช่การลงโทษ ภายในบ้านหรอกมั้ง?”

“คุณย่าคงไม่เห็นด้วยหรอก…….”

วารินยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน และคำพูดคำ วิจารณ์พวกนั้น ต่างก็ทับถมลงบนตัวเธอ

มือของเธอวางอยู่บนท้อง เธอสาบานไว้ว่า ถึงแม้ เธอจะไม่เหลืออะไรแล้วก็ตาม เธอก็ไม่มีทางแยกออก จากลูก และไม่มีทางให้ลูกเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่!

แต่ทันใดนั้น ข้างหลังก็มีแรงขนาดใหญ่พุ่งเข้ามา เหมือนจะไม่ให้โอกาสเธอได้หลบหลีกเลย แล้วดึงเธอ เข้าไปยังห้องพักผ่อน

เพทายโมโหมาก เขาโยนเธอลงบนเตียงโดยตรง!

“เธอกลัวว่าโลกนี้ยังยุ่งไม่พอหรอ!”

วารินจับท้องของตัวเองไว้อย่างระมัดระวัง เธอไม่

พูดแม้แต่สักคำ

เรื่องมาถึงทุกวันนี้ เธอยังมีอะไรที่พูดได้อีกล่ะ

เพทายขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะ ประกาศหย่าต่อหน้าแขกในงาน
มีเสียง มหาของคนในงานผ่านเข้ามา เธออ้าปาก จะพูดแต่ก็พูดไม่ออก ส่วนคนข้างนอกก็วุ่นวายไปหมด

“คุณย่า คุณย่าต้องรีบออกไปพูดให้ชัดเจน…….รีบ

ไปเถอะ”

“รู้แล้ว”

เพทายตอบรับ แล้วจ้องผู้หญิงบนเตียงอย่างเย็น ชา จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินจากไป

เสียงเท้าเดินค่อยๆหายไป จากนั้นวารินถึงจะ ค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วจับเสื้อผ้าไว้ จากนั้นก็ แอบออกไปจากประตูหลัง

แล้วติดต่อยิปซี

“แกพูดแล้วหรอ?”

ยิปซีขมวดคิ้ว “เพทายไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆแบบ นี้แน่ อีกอย่าง…….…..แกทำใจได้แล้วหรอ?”

เมื่อก่อนมีคนต่อหลายคนพูดกับเธอว่า เพทาย ไม่ใช่คนดี แต่เธอก็ไม่สนใจแล้วเดินเข้าไป จนถึงวันนี้ที่ เต็มไปแต่บาดแผลและความเจ็บปวด

“ในใจของฉัน ก็ยังชอบเขาอยู่ ชอบจนไม่สามารถควบคุมได้ แค่คิดว่าจะต้องจากเขาไป หัวใจของฉัน ก็เจ็บจนไม่สามารถหายใจได้ ยิปซี ฉันโง่มากเลยใช่ ไหม….……….”

ยิปซีถอนหายใจเบาๆ “เอาหน่า ไปตรวจสุขภาพที่ โรงพยาบาลก่อน ยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น แกกับลูกสำคัญ ที่สุด โอเคไหม?”

“โอเค”

สีหน้าของสกายแย่มาก ภายใต้ของกระจกแว่นมี ความเจ็บปวดซ่อนอยู่

“วาริน สถานการณ์ของลูกไม่ค่อยดี”

“ทำไมล่ะ….…..”

วารินลุกขึ้นมานั่ง แล้วจับที่ท้องอย่างระมัดระวัง

“ร่างกายของเธอไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ตอนนี้เด็กคน นี้มีผลกระทบต่อเธอมาก ถ้ายังอยากเก็บไว้ ช่วงนี้ต้อง รักษาตัวอย่างเงียบๆ

แต่จะมีโอกาสรักษาตัวเงียบๆได้ไงล่ะ นอกจากจะ บอกคุณย่า แต่ถึงอย่างนั้นจะสามารถเก็บลูกไว้ได้ แต่พอลูกคลอดออกมาแล้วลูกก็ต้องเผชิญกับแพรวาอยู่ดี

สกายถอนหายใจเบาๆ สองสามวันนี้เขาก็ได้ยิน ข่าวลือมาบ้าง แต่แค่คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงที่ตัวเองเคยนำ มาใส่ไว้ในใจ หลังจากแต่งเป็นภรรยาของคนอื่นแล้วจะ ถูกโต้ตอบด้วยความเย็นชาแบบนี้

เขาพยายามเปิดปากจะพูด เขานั่งลงตรงหน้าเธอ แล้วพูดว่า “นี่คือยาบำรุง ต้องกินทุกวันนะ อีกอย่าง ถ้า ในบ้านมีเรื่องอะไร หรือถ้าเขาไม่ดีต่อเธอ ก็หาฉันได้ ตลอดนะ”

วารินพยักหน้า ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงไป หมด “รู้แล้วหน่า”

เธอก้มหัวลง จากนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แล้วเธอก็รับสาย

“เธออยู่ไหน? ยังไม่รีบใสหัวกลับมาอีก!”

น้ำเสียงของเพทายดุร้ายมาก ไม่มีความสงสาร แม้แต่ครึ่งเดียวเลย……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ