บทที่ 3 ซมซาม
ฉันนั่งอยู่ข้างนอกทั้งคืน ลมที่หนาวจัดทำให้ฉันตัว สั่นไปหมด เช้าอีกวันฉันก็ได้กลับมาที่บ้าน เพื่อไม่ให้ กันต์เห็นฉัน ฉันได้แอบอยู่ข้างหลังเสาบ้าน
หลังจากเห็นเขาขับรถออกไป ฉันถึงเดินออกมา จากหลังเสา
กลับถึงบ้านปุ๊บ ฉันไม่สนว่าแผลจะเจ็บแค่ไหน ได้ แต่รีบอาบน้ำอย่างเร่งรีบ พออาบเสร็บได้ทำแผลอยู่ แม่ยายฉันก็ได้โทรศัพท์มา
“วันนี้เป็นวันรวมญาติ พี่สะไภ้ใหญ่และพี่สะไภ้ รองก็มาแล้ว เธออยู่ที่บ้านไม่มีอะไรทำ ทำไมป่านี้ยังไม่ มา ในการสนทนาแม่ยายมีแต่คำสั่งสอนและคำตำหนิ
กันต์ไม่ได้บอกฉันเลยสักคำว่าเป็นวันรวมญาติ แต่แม่ยายก็ไม่ฟังฉันอธิบายเลย หักแต่บอกว่าฉันขึ้ เกียดหาข้ออ้าง ยังสั่งให้ฉันต้องถึงร้านอาหารจิงหัว ภายในสามสิบนาที ฉันหมดแรงที่จะอธิบาย ได้แต่รีบ เปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่รองเท้าและวิ่งออกไปเรียกหารถ แท็กซี่
แต่ว่ารถแท็กซี่เกิดเสียกลางทาง คนขับบอกให้ ฉันรออีกคันที่บริษัทเขากำลังจัดมาให้ส่งฉันไปต่อ ฉัน ได้ดูเวลาแล้วไม่ทันแน่ ลงจากรถก็รีบวิ่งไปที่ร้านอา หารจิงหัว
ฉันใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ หลายครั้งที่ต้องสะดุดล้ม เท้าก็เสียดสีมีแต่เลือด ฉันได้ถอดรองเท้าออกถือขึ้น มาและเดินด้วยเท้าเปล่า สักพักฉันก็ถึงร้านอาหารของ จิงหัว แต่เท้าก็เต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน ฉันซมซามเดิน ขึ้นลิฟต์ ทนกับความเจ็บของเท้าในที่สุดก็ถึงหน้างาน ของแม่ยาย
พอเข้าไปถึงหน้างาน ก็ได้เห็นแม่ยายพี่สะไภ้ใหญ่ และสะไภ้รองได้กินเมล็ดทานตะวันอยู่ ฉันเดินเข้าไป และทักทายกับเขาสามคน
พี่สะไภ้รองไม่มองหน้าฉันเลย ได้แต่สั่งฉันว่า “ไป เอาไม้กวาดมากวาดพื้นไป ที่นี่สกปรกมากเลย พี่สะ ไภ้ใหญ่ก็เช่นกันเอาผ้าเช็ดโต๊ะมาด้วยนะ เช็ดโต๊ะนี่ ด้วย”
ฉันอึ้งไปสักพัก ไม่ขยับตัวเลย
แม่ยายพูดด้วยน้ำเสียงที่รำคาญ “ยังไม่รีบไปอีก มาก็สายไม่คิดจะช่วยอะไรเลย แต่งตัวสวยขนาดนี้จะ ไปยั่วใคร? ไม่เจียมเนื้อเจียมตัวเลย!
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ยายฉันตะคอกใส่ฉันอยู่ บ่อยๆ ตอนแต่งงานกับหลินหัวเจิ้ง แม่ยายก็คัดค้าน อย่างแรง ดูถูกว่าฉันเป็นสาวบ้านนอก ไม่เพียงแต่จน ยังทำให้ลูกชายเขาต้องยิ่งลำบากด้วย เพราะฉะนั้น แม่ยายจะด่าทอฉันทุกครั้งต่อสาธารณชน
แม้เป็นเช่นนี้ ฉันก็ทนมาแล้ว จะทนอีกหน่อยจะ เป็นไรไป
ฉันทนความเจ็บของเท้าไว้ เพื่อไปเอาไม้กวาดและ ผ้าเช็ดโต๊ะมาทำความสะอาด ที่พื้นเต็มไปด้วยเปลือก ของเมล็ดทานตะวัน
ไม่นานนัก คนก็ทยอยมาร่วมงาน พี่ชายใหญ่พี่ ชายรองและน้องชายสามีก็ได้มาถึง แฟนน้องสามีก็มา ด้วย ฉันทักทายกับเขาแต่ละคน
พวกเขาไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิด หนำซ้ำแฟนน้องชายสามียังคิดว่าฉันเป็นเด็กเสิร์ฟอีก ด้วย
“นี่เธอเป็นอะไร ? ถังขยะเต็มไปด้วยขยะ เธอยัง ไม่ไปเททิ้งอีก”
ฉันได้จ้องถังขยะไว้ ก็ไม่ได้มีขยะอะไรมากมาย
แม่ยายได้จ้องมาที่ฉันและตะคอกว่าเอาขยะไปเท ทิ้งเดี๋ยวนี้ ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด เช็คสาระรูปตัวเองด้วย
ฉันได้ถอนหายใจลึกๆ และนำขยะไปทิ้ง
หลังจากทิ้งขยะเสร็จเท้าฉันแทบจะขยับไม่ได้แล้วฉันได้ถอดรองเท้าส้นสูงออก ส้นเท้าก็ได้มีเลือดไหล ออกมา เจ็บจนขาสั่น ฉันนั่งพักผ่อนที่เก้าอี้ ดูผู้คนที่ เข้าออกงาน ทันทีนั้นฉันก็ได้เห็นภาคินที่รูปร่างสูงโปร่ง เขาได้สวมชุดสูทสีดำมายืนต่อหน้าฉัน รูปร่างช่างหล่อ และดูดียิ่งนัก
“คุณ นี่คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” นี่เป็นครั้งแรก ที่ฉันได้พบเจอกับเขาในที่สาธารณะ ฉันแทบพูดอะไร ไม่ออก
ภาคินได้จ้องดูเลือดที่ไหลอยู่ในส้นเท้าของฉัน สักพักเธอก็บอกฉันว่าเธอมีงานเลี้ยงที่ต้องไปแล้ว
“อ๋อ งั้นหรอ” ฉันตอบด้วยความซมซาม “งั้นคุณ รีบไปเถอะ ฉันก็มีงานเลี้ยงเหมือนกัน”
เขาได้หันมาสบตาฉันทีหนึ่ง จากนั้นก็ได้เดินออก
ไป
ฉันได้จ้องดูข้างหลังเขาเดินไปจนมองไม่เห็น ฉัน จึงลุกขึ้นเดินไปที่ห้องงานเลี้ยงต่อ
ฉันเดินเข้าไปในห้องก็ได้ยินเสียงหัวเราะ ยืนอยู่ที่ ข้างประตูฉันก็ได้เห็นกันต์มาแล้ว ผู้หญิงที่มากับเขา
ก็คือผู้หญิงที่เมื่อคืนเขาพามานอนด้วยที่บ้านนี่เอง
ฉันเดินอย่างช้าๆคิดในใจว่าจะเดินหันหลังกลับดี ไหม แต่แล้วพี่สะไภ้ใหญ่ก็เห็นฉันพอดี
“นี่เธอเธอไปทิ้งขยะตั้งนานเลยนะ?” เสียง ของพี่สะไภ้ใหญ่ทั้งดังและคม เหมือนอยากให้คนทั้ง งานได้ยิน แค่นางปรี่ปากคนทั้งห้องก็ได้หันมองมาที่ฉัน หมด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ