อย่าหยิ่งนักเลยคุณชาย

บทที่ 9 เธอเป็นคุณผู้หญิง?



บทที่ 9 เธอเป็นคุณผู้หญิง?

“คุณเจมส์ครับ ตอนนี้ภรรยาของคุณฟื้นแล้ว นะครับ ถึงแม้ว่าร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่เพียง พอ อีกทั้งความดันของเธอจะต่ำ แต่สีหน้าของเธอ ในตอนนี้ดูดีขึ้นมากครับ หลังจากที่ผ่านการรักษา และให้วิตามินต่างๆที่เพียงพอแล้วนั้น ตอนนี้อาการ ของเธอดีขึ้นมาก คุณเจมส์วางใจได้เลยครับ”

ได้ยินคำพูดของหมอนั้น เอมเฟ่ส่ายหน้าด้วย ความเสียใจ แล้วหันไปมองหมอด้วยสีหน้าที่น่า สงสาร

หมอคนนี้ประจบเก่งจริงๆ แต่ไม่รู้เลยว่าเขาจะ ทําความผิดเอาไว้ เขาบอกกับเจมส์ว่าเธอคือภรรยา และไม่ต้องเป็นกังวลแล้วทำใจให้สบาย

เพื่อช่วยคุณหมอที่น่าสงสารคนนี้นั้น เอมเฟ่ ไม่รอให้เจมส์ได้พูดอะไร เธอก็รีบลุกขึ้นนั่ง จากนั้น พายมือบอกกับหมอ

“คุณหมอเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้เป็น ภรรยาของเขา และคุณเจมส์เองก็ไม่ได้เป็นห่วง อะไรฉันด้วยค่ะ บางทีการที่พวกคุณไม่ช่วยรักษา ฉัน อาจจะทำให้คุณเจมส์รู้สึกดีกว่านี้ก็ได้นะคะ”

เอมเฟ่ไม่รู้เลย ว่าคำพูดของเธอนั้นดูเย็นชาแค่ไหน

เจมส์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาปลายตามองเธอ ด้วยแววตาที่เย็นชา

คนอื่นๆเองก็รู้สึกได้ถึงความอึดอัดนี้ ทุกคนจึง รีบเดินออกไปจากห้อง

ในห้องเหลือแค่เธอกับเขาสองคน ทั้งที่อากาศ ให้ห้องกำลังดี แต่เหมือนมีลมเย็นๆพัดผ่านด้านหลัง

ทางด้านเอมเฟ่ที่ตอนนี้เป็นห่วงแต่เรื่องงาน จึง ไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูดออกไปเมื่อครู่ว่าสำหรับ เจมส์แล้วนั้น มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ ถูก เจมส์ชี้หน้าแล้วต่อว่าเธอ

“คุณช่วยทำตัวดีๆหน่อยได้ไหม!

เขาจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของเอมเฟ่ แล้วพูด ออกมาอย่างหัวเสีย

เอมเฟ่พยายามถอยหนี แต่ไม่สามารถสู้แรงคน ตัวใหญ่ได้ เธอมองนิ่งไปที่เขา ด้วยสายตาที่เย็นชา

“ธาตุแท้ของคุณเป็นแบบนี้นี่เอง! ผมคงจะมองคุณผิดไป เอมเฟ!

หม? ธาตุแท้?

เอมเฟส่ายหน้า เธอแค่พูดความจริงก็เท่านั้น ทําไมเจมส์ถึงเข้าใจผิดได้ล่ะ?

เธอมองสบตาเขา ที่ตอนนี้ไม่ต่างจากคนเสีย สติ เอมเฟจึงเลือกที่จะเงียบและหันหน้าหนี

‘ฉัน……ฉันก็แค่พูดความจริง คุณเกลียดฉัน เกลียดจนอยากให้ฉันหายไปจากโลกนี้ไม่ใช่หรอ? เงินค่ารักษา ฉันจะหามาคืนคุณเอง”

เสียงเรียบนิ่งของเอมเฟ่ เหมือนน้ำมันที่ราดไป ในหัวใจของเจมส์ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยไฟ

หึ คำพูดของเธอตอนที่ยังไม่ได้สติกับตอนนี้มัน ต่างกันมาก

เจมส์แสยะยิ้มแล้วมองไปที่เอมเฟ่ ถ้าไม่ใช่ เพราะรู้จักกับเธอมานานกว่าสิบปี เขาคงถูกเธอปั่น หัวไปแล้วแน่ๆ

“จะหามาคืนผม? แล้วคุณจะเอาอะไรมาคืน?คุณรู้ไหมว่าห้องพิเศษนี้คืนหนึ่งเท่าไหร่? อีกทั้งค่า รักษาต่างๆอีก และค่าพยาบาลดูแลพิเศษ คุณรู้ไหม ว่ามันราคาเท่าไหร่?”

ยังไม่รวมถึงค่าเสียเวลาของเขา สามวันมานี้ เขาไม่ได้เข้าบริษัทเลยเพราะมัวแต่อยู่เฝ้าเธอ แต่ เธอกลับพูดออกมาได้อย่างง่ายดายว่าจะหาเงินมา คืนตน?

ทำไม่ได้ก็อย่าพูดเสียยังดีกว่า!

เอมเฟ่เมื่อได้ยินคำพูดของเจมส์ เธอก็นิ่ง นอนใจไม่ได้เลย แต่เดิมเงินเดือนของเธอก็น้อยนิด อยู่แล้ว หลังจากจ่ายค่าเช่าบ้านเธอก็แทบจะไม่มี เงินกินข้าว แล้วตอนนี้ยังต้องติดเงินจำนวนมากอีก ถ้าเธอเสียงานนี้ไปจะทำยังไง!

ดังนั้นระหว่างที่เจมส์ไม่ทันได้สังเกตุ เธอก็รีบ ดึงสายน้ำเกลือออก

การกระทำของเธอ ทำให้เจมส์ตกใจมาก ผู้ หญิงคนนี้เสียสติไปแล้วหรือไง?

“ไม่เป็นไรค่ะ…..คุณบอกมาสิว่าเท่าไหร่? ถ้าฉันหามาคืนคณทีเดียวไม่ได้ อย่างน้อยฉันก็สามารถผ่อนชำระรายเดือนให้กับคุณ ถึง แม้ว่า…..ถึงแม้ว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะคืนจน หมด แต่ฉันจะรีบหามาคืนค่ะ”

ขณะที่พูดนั้น เอมเฟก็รีบหาเสื้อผ้าและรองเท้า ของตนเพื่อที่จะเปลี่ยน แต่เธอเดินวนไปรอบห้อง แล้ว กลับไม่เจอเสื้อผ้า

เธอนึกขึ้นได้ ว่าคืนนั้นเธอล้มลงกลางสายฝน จากนิสัยของคนอย่างเจมส์นั้น ตอนนี้เสื้อผ้าของ เธอคงถูกทิ้งไปแล้ว

ถึงว่าตอนที่เจมส์เห็นว่าเธอจะวิ่งหนีไปนั้นกลับ ไม่ดูเป็นกังวลเลย ตรงกันข้ามเขายังยืนพิงกำแพง อย่างใจเย็น เพราะเขารู้ดีว่าเอมเฟ่ไปไหนไม่ได้

“เอ่อ…..คุณเพิ่มค่าเสื้อผ้าลงไปในหนี้ที่ฉัน ต้องจ่ายด้วยได้ไหมคะ……”

เอมเฟ่ที่เงียบอยู่นาน ในที่สุดก็พูดขึ้น แต่กลับ ทำให้เจมส์โมโหหนักมาก

เขาเดินเข้าไปประชิดตัวเธอ เหมือนสุนัข จิ้งจอกกำลังจะกินลูกระต่ายน้อย เอมเฟตกใจจน สั่นไปทั้งตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ