บทที่ 7 ลักพาตัว
ทางด้านเจ้าชายยู เมื่อลักลอบเข้ามาในดาวลิ สส์ได้แล้ว ก็สืบหาห้องที่มีหญิงสาวต่างแดน จนรู้ว่า อยู่ตำนักใด และสามารถลักลอบเข้าไปในห้องของ หญิงสาวได้ เจ้าชายยูเห็นโซนิซ หญิงสาวผู้ดูแล ของฟอร์นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง จึงเข้าใจว่าหญิง สาวผู้นี้เป็นไวท์สวอนหรือไวท์โครว์ที่ผู้คนต่างล่ำลือ กัน
“นี่น่ะรึ ไวท์สวอน(หงส์ขาว)ผู้ที่จะต้อง แต่งงานกับข้า
“ไอซ์ จัดการหน่อยสิ” ไอซ์กำลังสำรวจเรือน ร่างของหญิงสาวที่กำลังพลิกตัวไปมา ทำเอาชาย คนนี้ไม่กล้าละสายตาไปไหน
“ไอซ์!!..ข้ารู้นะ” ชายผู้เป็นพี่เดินเข้ามาตบหัว น้องชายเล็กน้อยที่มองแม่สาวน้อยบนเตียงที่อยู่ใน ชุดนอนอย่างไม่วางตา
“โธ่!!..น้อยกว่าพี่ชายข้ามากเลยล่ะ” ไอซ์ ไม่ว่าเปล่ามองหน้าชายผู้เป็นพี่อย่างรู้ทัน พร้อมกับ หลบฝ่ามืออรหันอย่างชำนาญ
“ไปก่อนล่ะ ท่านพี่” เขาหันมายักคิ้วเล็กๆ ที่ บอกเป็นเชิงว่าแบบนี้มันใช้กับเขาไม่ได้แล้ว ก่อนใช้ยาสลบและลักลอบพาตัวโซนิซผู้ดูแลของฟอร์ออก ไป
“พริดิก เลเอฟ ค้นให้ทั่ว อีกนางหนึ่งต้องอยู่ แถวนี้แน่”
“พะยะค่ะ” ก่อนที่ทั้งสองจะเปิดประตูทะลุไป อีกห้องหนึ่ง ฟอร์ก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
“นี่พวกแกเป็นใคร
“ต้องเป็นหญิงนางนี้แน่ เอาละนะ ขอพาไป ก่อนล่ะ” ว่าแล้วเจ้าชายยูก็ตรงเข้ามาโอบร่างของ หญิงสาวทันที
“ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย!!”
หญิงสาวจะตะโกนดังลั่น พลางสะบัดร่างของ ตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนที่จะถูกจู่โจมปิดปาก ด้วยปากของชายที่ไม่รู้จักคนนี้ แต่ก่อนที่ทหารจะ พังประตูเข้ามา เจ้าชายยูก็กางปีกสีดำสนิทที่ใคร เห็นเป็นต้องอึ้งกับความสวยงามและแข็งแกรงนั้น พร้อมๆกัน ยิ่งกับคนที่ไม่เคยเห็นอย่างเธอก็ยิ่งมอง สำรวจไม่วางตา ก่อนจะโอบร่างของหญิงสาว แล้ว บินทะลุหน้าต่างออกไปทันที
หญิงสาวที่กำลังเดินสำรวจทางเข้าออกเพื่อหา ทางหนีทีไล่อยู่เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ก็รีบวิ่ง ตรงดิ่งกลับมาที่ตำนักทันที พอมาถึงห้องของฟอร์ก็ เละเทะกระจุยกระจายเต็มไปด้วยเศษแก้ว ภายใน ห้องเห็นพี่โอนิสที่กำลังกระวนกระวายใจนั่งไม่ติด ส่วนชายที่อยู่เบื้องหน้ากำลังบัญชาการสั่งให้ค้นหา ตัวหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวไป
“ทุกคนออกไปจากตำนักนี้ให้หมด เหลือเพียง แค่หญิงสาวสองนางนี้ ” เจ้าชายคิเรียวออกคำสั่ง ก่อนปิดล็อคห้องอย่างแน่นหนา หลังจากเห็นเธอ เดินเข้าไป
“พี่โอนิส แล้วพี่โซนิซกับฟอร์ล่ะ หายไปไหน”
“ถูกลักพาตัวไปแล้ว”
“ไม่จริง ฟอร์ ฟอร์ แกอยู่ไหน” หญิงสาว ตะโกนพลางจะวิ่งออกไปหาเพื่อนสาวข้างนอกแต่ ถูกชายที่อยู่ภายในห้องรั้งแขนไว้ก่อน
“แล้วเจ้าล่ะ ไปไหนมา” ชายที่อยู่เบื้องหน้า ถามหญิงสาวด้วยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ และ เธอก็รับรู้ว่าเขากำลังโกรธ
“เออ..ฉัน ก็ฉันหิว อ่ะ”
“ทำไมไม่บอกโอนิส”
“บอกใครเหรอเพคะ ก็ฉันเป็นผู้ดูแลไม่ใช่เหรอ ปล่อย!! ‘หญิงสาวพยายามสรรหาคำมาแก้ตัว แล้ว ก็ดูเหมือนมันจะได้ผลหรือเปล่าเธอก็ไม่แน่ใจ
(( ‘ ชายที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ ยอมปล่อยมือออกจากแขนเล็กๆนั้นของเธอ
“อย่าพึ่งมาสักไส้ถามฉัน ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้ เพื่อนฉันอยู่ไหน ใครเป็นคนลักพาตัวไป”
“ถ้าคาดไม่ผิด ข้าคิดว่าคงเป็นฝีมือของแบ ลคสวอน(หงส์ดำ)ที่ต้องการตัวเจ้าและเพื่อนของ เจ้า”
“ก็ไหนบอกว่าปลอมตัวแล้วจะปลอดภัยไง ไม่ เห็นจะปลอดภัยสักนิด
“ข้าต้องนำตัวนางกลับมาให้ได้แน่”
“อยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นจะมีใครมารับประกันความ ปลอดภัยของพวกเราได้”
“รับประกันความปลอดภัยงั้นรึ”
“ใช่!! ..ทำไม่ได้ ก็ส่งฉันกลับดาวโลกของฉัน สิ”หญิงสาวกระแทกเสียงอย่างชัดเจน เพราะใน ตอนนี้เธอคิดว่าการกลับบ้านเป็นสิ่งที่เธอควรทำ มากที่สุด ไม่ใช่มาคอยระวังภัยรอบตัวที่แม้แต่ตัว เองยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ดี” ว่าแล้วชายที่อยู่ เบื้องหน้าก็ลากตัวของหญิงสาวออกไปจากห้องนี้
“ธีร์ ที่เหลือฝากจัดการด้วย” คิเรียวหันกลับ
มาสั่งผู้ติดตามคนสนิทของเขา
“รับทราบขอรับ นายท่านนนนนน” ธีร์ลาก เสียงด้วยน้ำเสียงที่ออกแนวประชดเล็กน้อย แต่ก็ เข้ามาลากหญิงสาวผู้ดูแลที่ยังคงยืนนิ่ง บ่นพึมพรำ หาโซนิซผู้เป็นน้องออกไป
“ส่วนเจ้า มานี่” พูดจบคิเรียวก็กางปีกสีดำคม สนิทที่ทรงพลังและแข็งแรงนั้นอออกมา แล้วโอบ ร่างของเธอไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็น ก่อนจะพาหญิงสาว ไปอีกตำนักหนึ่งทันที หญิงสาวที่ตอนนี้อยู่ภายใน ปีกที่กำลังลอยอยู่บนอากาศนี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ยังตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า แม้เธอจะรับรู้และเข้าใจแล้วว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือแบลค โครว์ แต่สำหรับเธอมันก็เป็นอะไรที่ดูน่าเหลือเชื่อ เกินไป แต่พอได้เห็นกับตาก็ทำเอากลืนไม่เข้าคลาย ไม่ออก ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดี จะให้กลัวเธอก็คง ไม่กลัว แต่จะให้เฉยไม่รู้สึกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันก็ กระไรอยู่
– – – ณ สํานักของเจ้าชายคิเรียว (ห้องพัก ผ่อนของเจ้าชาย) – – –
ตำนักแห่งนี้ถูกจัดแบ่งเป็นส่วนๆ เป็นอย่างดี แบ่งเป็นห้องย่อยๆแต่ละห้องทั้งห้องนั่งเล่น ห้อง ทำงาน ห้องหนังสือ ห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ ห้องครัว มีประตูทะลุถึงกันหมด ภายในตำนักมีสิ่ง นวยความสะดวกทุกอย่าง แต่ถูกจัดเก็บไว้อย่าง ดี ส่วนโดยรอบก่อนจะเข้ามาในตำนักเป็นสวนน้ำที่ ร่มรื่น หากใครได้มาเห็นคงติดใจไม่ยอมกลับ
“จากนี้ไปเจ้าจะอยู่กับข้าที่ห้องนี้” ก่อนหญิง สาวจะสำรวจห้องไปมากกว่านี้ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา ทำให้ตื่นจากภวังค์
“ไม่นะ ฉันไม่อยู่กับนายหรอก”
“ไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น อยู่ตำนักนี้จะไม่มีใครสามารถเข้ามาชิงตัวเจ้าไปได้แน่นอน ในตำนัก มีแค่ข้ากับเจ้าสองคนเท่านั้น”
“สองคน!! นั่นแหละ ที่ฉันเป็นห่วงที่สุด”
“กลัวงั้นรึ”
“กลัวซะที่ไหนแล้วพี่โอนิสล่ะ”
“ข้าให้ธีร์จัดการแล้วข้าจะให้โอนิสมาดูแลเจ้า เป็นระยะๆ ส่วนเจ้าห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด จะ ออกไปได้ต่อเมื่อข้าอนุญาตเท่านั้น”
“ไม่ ฉันจะออกไปตามหาเพื่อนฉัน”
“แล้วเจ้ารู้ว่าจะตามหาตัวเพื่อนได้ที่ใด”
“ไม่รู้”
“เรื่องนี้ข้าจัดการเอง
“แต่ถึงยังไง ฉันก็ไม่อยู่กับนายที่นี่ แค่นี้ฉันก็ เอือมจะแย่อยู่แล้ว”
“ก็ดี ทางที่ดีเจ้าอยู่ในห้องนี้ก็ทําตัวเหมือนเจ้าไม่มีตัวตนละกัน”ชายที่อยู่ตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียง เรียบเฉย ไม่ได้มีความรู้สึกแสดงออกมาให้เห็นเลย ว่ารู้สึกอย่างไร แม้แต่สายตายังอ่านยาก
“ว่าไงนะ”
“นี่ห้องของเจ้า ” เจ้าชายคิเรียวว่าพลางเปิด ประตูให้หญิงสาวเข้าไป
“ห้องน้ำเนี่ยนะ”
“ใช่!!”
“ห้องก็มีตั้งเยอะแยะ ให้ห้องที่เล็กที่สุดก็ได้”
ห้องน้ำ!!..แม้ว่าห้องน้ำห้องนี้จะใหญ่กว่าห้อง นอนที่บ้านของเธอหลายเท่า แต่อย่างไรห้องแห่งนี้ก็ ขึ้นชื่อว่าห้องน้ำ
“เจ้าไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้อง
ฉันไม่ยอม”
“จะเอาไม่เอา ”
“ไม่!!” หญิงสาวยังคงยืนกรานคำตอบนั้นด้วย สีหน้าที่ไม่พอใจเล็กน้อย
“ได้” ชายที่อยู่เบื้องหน้าที่ก่อนหน้านี้ถกเถียง กับหญิงสาวอย่างไม่มีใครยอมใคร กลับหันหลังออก ไปจากประตู และกระซิบบอกอะไรบางอย่างกับฮาฟ ผู้ติดตามคนสนิท
“เอาจริงรึ?”
“ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”
หลังจากที่เดินออกไปจากห้องและเดินกลับมา เขาก็ทำเหมือนที่พูดจริงๆ เหมือนเธอไม่มีตัวตนอยู่ ภายในห้องแห่งนี้ เธอพูดอะไรออกมาก็ไม่ได้รับคำ ตอบอะไรจากชายที่อยู่ร่วมห้องคนนี้
หลังจากได้รับคำสั่งไม่นานนักสิ่งๆหนึ่งก็ถูก เคลื่อนเข้ามาภายในห้องแห่งนี้ หญิงสาวยังของ งุนงง สงสัยกับสิ่งที่ที่เข้ามา สิ่งนั้นคือกรงนกสีทอง ที่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นกรงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดพอๆกับห้องของเธอ มีนกตัวหนึ่งกำลังบนโฉบ เฉี่ยว บินไปบินมาอย่างอารมณ์ดี เมื่อเจ้าชายคิเรียว เดินตรงเข้าไปหา นกตัวนั้นก็บินเข้ามาหยุดอยู่ตรง หน้า
“นายเลี้ยงนกด้วยเหรอ สวยดีนะ”หญิงสาวไม่ ว่าเปล่าเดินเข้าไปชื่นชมกรงที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอ เคยเห็น ก่อนจะไปเล่นกับนกตัวน้อยที่อยู่ภายใน กรงนั้น
“ฮาฟ จัดการสิ” ไม่ทันที่หญิงสาวจะเดิน เข้าไปเล่นกับนก ก็ถูกผู้ติดตามคนสนิทจับเธอยัด เข้าไปในกรงนกทันที
“อะไรเนี่ย ปล่อยฉันนะ”
“ฝากเพื่อนใหม่ด้วยล่ะ เจ้าเลิฟเบิร์ด
“ฉันไม่ใช่นกนะ”
“อาจจะหนวกหูซะหน่อย แต่ก็ทนๆฟังไปเถอะ ข้ายังไม่มีเวลาไปหาเพื่อนมาเพิ่มให้ เอาตัวนี้ไปก่อน ละกัน”
อ๊ากกกกกกกกก มันจะมากไปแล้วนะที่คนคน นี้เห็นว่าเธอเป็นนกตัวหนึ่ง แค่กักขังหน่วงเหนี่ยวเธอ ไว้ที่ห้อง ไม่ให้ออกไปไหน มันก็มากพอแล้ว นี่ยัง เอามาขังไว้ในกรงอีก ให้ตายเถอะ…หญิงสาวกำลัง ด่าทอชายที่อยู่ด้านนอกกรงนี้ในใจ เพราะถ้าหาก มันออกจากปากของเธอไป ก็ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่จะส่งผลต่อคำพูดของเธอนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ ในเมื่อกฎหมายใช้ไม่ได้กับที่นี่ ก็ต้องยอมงั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอก
“ออกไปได้แล้ว” ชายที่มีศักดิ์เหนือกว่านั้นหัน ไปสั่งผู้ดูแล ก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นยิ้มเล็กๆที่มุม ปากของชายคนนั้นก่อนที่เขาจะเดินออกไป ผู้ดูแล คนนั้นเขายิ้มอะไรนะ คงสนุกกันมากสินะที่แกล้งคน ไม่มีทางสู้อย่างเธอ เธอจะไม่ยอมอยู่แบบนี้แน่ ให้มัน รู้กันไปว่าคนอย่างเฟรนนี่จะทำไม่ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ