แผนลวงรัก บอกรักคุณ99วัน

บทที่ 11 จับผิดคําโกหก



บทที่ 11 จับผิดคําโกหก

“คนรวยนี่แตกต่างออกไปจริงๆ คนธรรมดาทั่วไปที่ อยู่ในวอร์ดผู้ป่วยส่วนมากล้วนแต่เจ็บปวดและต้องการ ที่จะตาย แต่คนมีเงินนั้นกลับร้องก็จะขอให้มีชีวิตอยู่ ช่างไม่ค่อยจะรักเงินเลยจริงๆ”

“คนที่ยิ่งมีเงิน ยิ่งกลัวตาย ตราบใดที่มีเงิน ก็ยังอยาก มีชีวิตอยู่ต่อไป โรงพยาบาลก็ยิ่งสามารถทำงานได้มาก ขึ้น”

“ปัญหาก็คือ เขาไม่ได้ป่วย สุขภาพดีและดูเหมือน ว่าจะไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ทำให้หัวหน้าต้องร่วมเล่นละครไปกับเขาด้วย และไม่รู้ ด้วยว่าแสดงละครให้ใครดู

“ไม่ป่วยแต่ก็อยู่โรงพยาบาล! แบบนั้นหัวหน้าก็ยังเห็น ด้วยงั้นเหรอ?”

“จะไม่เห็นด้วยได้ยังไง มีคนหนุนหลังด้วยนี่นา”

“จริงๆแล้วเป็นใครกัน รีบพูดเร็ว รีบพูด!”

“ดูเหมือนจะเป็น VIP ห้อง 202 นะ ฉันเองก็ไม่รู้ หรอก…”

ห้อง 2022 เซี่ยเสวี่ฟังแล้วเกิดความรู้สึกคุ้นเคย อย่างไรไม่รู้…ดูเหมือนว่าจะเป็นวอร์ดผู้ป่วยที่เซียงชิง ฉือพักอยู่!
เซียเสรีบวิ่งไปเพื่อจะดึงนางพยาบาลไว้ แต่พอรู้สึก ว่ามันเป็นการกระทำที่ดูไม่มีมารยาท ก็ปล่อยมือทันที

“ขอโทษด้วยค่ะ แต่ฉันขอถามหน่อยค่ะว่า ที่พวกคุณ พูดถึงคือผู้ป่วย VIP ห้อง 202 ใช่มั้ยคะ?”

พยาบาลทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน แล้วหนึ่งในนั้นก็ ถามว่า

“คุณเป็นญาติของคนไข้ห้อง 202 หรือเปล่าคะ?”

“ใช่ค่ะ”

นางพยาบาลที่พูดจาเหน็บแนมในตอนแรกรู้สึกได้ ว่าตัวเองกำลังจะงานเข้าแล้ว ก็หัวเราะฮ่าๆแบบแก้เก้อ ออกมา

“เรื่องนี้…ไม่แน่ใจเท่าไหร่นะคะ บางทีฉันอาจจะจำผิด ไป…”

ต่อจากนั้นพยาบาลก็ไม่พูดอะไรเลยอีกเลย เซี่ยเสว่ จึงไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป

ความรู้สึกที่โดนหลอก และการโดนล้อเล่นเกือบจะ ทำให้เธอทนไม่ไหวจนทุบกล่องข้าวที่ทำมาให้เซียงชิง ฉือ

ไม่แปลกใจเลยที่เขาประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ขนาด นี้ แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะพูดอะไรคุณพ่อคุณแม่ที่แก่แล้วก็คงจะฟังแล้วอดตกใจไม่ ได้แน่ๆ และถ้าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ลู่เย่นจะไม่กล้าไม่ รายงานกับคุณพ่อเซียงคุณแม่เซียงได้ อย่างไร เพียง แต่ว่าตอนนั้นเธอสับสนแล้วก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าที่แท้ เรื่องทั้งหมดคือเรื่องหลอกลวง!

อารมณ์ที่สดใสในตอนแรกดิ่งวูบลงไปในพริบตา ที่ จริงแล้วเธอมันก็เป็นแค่คนโง่! เป็นคนปัญญาอ่อน!

แต่ว่าเสียงเล็กๆในใจเธอ ก็กระซิบบอกเธออีกครั้ง บางทีพยาบาลอาจจะพูดผิดก็เป็นได้ เพราะพยาบาล เพิ่งจะพูดว่า ดูเหมือนพวกเธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

เซี่ยเสว่สูดหายใจลึกเข้าไปหนึ่งเฮือก เธอจะตัดสินใจ ให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยพูด เพราะไม่อยากให้พอถึงตอน นั้นเป็นเธอที่ทำผิดต่อเซียงชิงฉืออีก และเขาเพิ่งจะฟื้น ขึ้นมาไม่เหมาะสมที่จะทำเสียงดัง

เธอรีบเดินไปที่ห้องผู้ป่วย ประตูนั้นไม่ได้ล๊อค ใน ขณะที่คิดจะผลักประตูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงของลู่เย่น ดังออกมา เซี่ยเสว่คิดว่าบางทีพวกเขาอยากจะพูดเรื่อง งานกัน คงจะไม่เหมาะถ้าหากเธอจะโผล่ออกไปตอนนี้ จึงยืนอยู่ที่ประตูและรอให้พวกเขาพูดกันจนเสร็จถึงจะ เข้าไป

“ท่านประธาน เมื่อคืนนี้คุณนายอยู่ข้างกายคุณตลอด ไม่ห่างไปไหนแม้แต่ก้าวเดียวเลยนะครับ”

เซียงชิงฉือยืนมือไพล่หลังอยู่ตรงด้านหน้าของหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานพลางมองดูครอบครัว สามคนที่อยู่ด้านนอก ริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และกล่าวว่า “ฉันรู้”

เขารู้ว่าเซี่ยเสว่คอยอยู่ข้างกายเขาโดยตลอด และ ไม่ห่างไปไหนแม้แต่นาทีเดียว แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไร สักคำ แต่เมื่อทอดตัวนอนลงพักผ่อนก็จับมือเขาด้วย เซี่ยเสว่กลัวอย่างมากว่าเมื่อเขาตื่นมาแล้วจะไม่รู้เรื่อง เหล่านี้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ในใจของ เซียงชิงฉือรู้สึกอบอุ่น ดู เหมือนจะไม่ใช่ว่าเซี่ยเสว่ไม่มีความรู้สึกใดๆกับเขา ที่ พูดว่าจะหย่าเป็นเพราะว่าอารมณ์โกรธเท่านั้น

ลู่เย่นมองไปที่ท่านประธานที่แม้แต่แผ่นหลังก็ แสดงออกว่ากำลังมีความสุข หลังจากอดกลั้นแล้วกลั้น อีก ในที่สุดก็เอ่ยปากพูดในเรื่องที่เสี่ยงที่จะถูกเตะออก ไปจนได้ ท่านประธาน ผมมีเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าจะพูด ออกไปดีหรือเปล่า”

“พูดมาสิ”

“คุณหลอกลวงคุณนายแบบนี้มันดูเหมือน…จะไม่ค่อย ดีนะครับ”

ลู่เย่นกลืนน้ำลาย คำพูดของเขาก็เท่ากับการกระตุก หนวดเสือ

ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของท่านประธาน เขาที่อยู่ในฐานะผู้ช่วยพิเศษมีหน้าที่เพียงแค่ รับผิดชอบในงานของตัวเองให้ดีก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่ใช่ สิ่งที่เขาควรจะพูด แต่ว่าเมื่อวานเห็นคุณนายขวัญหนี ดีฝ่อแบบนั้นแล้ว เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ถ้าหากว่า คำโกหกนั้นถูกจับได้ล่ะก็ มันจะทำให้การเข้าใจผิด ระหว่างคนทั้งคู่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

เซียงชิงฉือได้ฟังลู่เย่นพูด ก็หันกลับมา ไม่มีท่าที ประหลาดใจปรากฏออกมา

ลู่เย่นพูดถูก อย่ามองเพียงแค่ภายนอกว่าเซี่ยเสว่นั้น ละเอียดอ่อนและอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วเธอก็มีหลักการ ของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ต้องแกล้งป่วยเพื่อหลอก ลวงเธอ แต่ว่ามาถึงบัดนี้ เซี่ยเสวี่ยังคงสัญญาว่าจะไม่ หย่า ดังนั้นปล่อยให้ผ่านไปวันสองวันแล้วก็แค่หาเหตุ ผลในการออกจากโรงพยาบาล ให้เรื่องนี้มันผ่านไป

“ขอเพียงแค่นายปิดปากให้สนิท อย่าให้เรื่องของฉัน มันรั่วออกไป ภรรยาของฉันก็ไม่มีทางรู้”

“ท่านประธานวางใจเถอะครับ ผมจะปิดปากเงียบเอา ไว้” ในฐานะผู้ช่วยพิเศษ ถ้าแม้แต่ความลับข้อนี้เขายัง เก็บไว้ไม่ได้ เขาก็ไม่ต้องมีส่วนร่วมอะไรแล้วล่ะ..

เซียงชิงฉือพยักหน้าอย่างพึงพอใจ กับลู่เย่นแล้วเขา

ไว้ใจอย่างมาก

แต่ทั้งสองไม่ได้รู้ตัวเลยว่า การสนทนาของพวกเขา ไปถึงหูของเซี่ยเสว่แล้ว
เป็นเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งเพ!

เซี่ยเสว่กำถุงพลาสติกในมือแน่น ตัวสั่นด้วยความ โกรธ เซียงชิงฉือแสดงท่าทีไม่สนใจใดๆกับการ แสดงออกของเธอเมื่อคืนเลยและตอนนี้ก็ทำเหมือนเธอ เป็นตัวตลกที่น่าขำที่สุด

ได้หลอกลวงเธอมันสนุกมากเลยใช่ไหม!?

เซี่ยเสว่โกรธจนไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปเปิดโปงคำพูด โกหกของเขาหรือควรจะจากไปดี แต่สิ่งหนึ่งที่เธอ แน่ใจก็คือโจ๊กในมือของเธอจะต้องถูกโยนทิ้งไป

แล้วก็จะโยนโจ๊กลงถังขยะแรงๆ ให้เหมือนกับกับ ความโกรธของเธอเลย

สุดท้ายแล้วเซี่ยเสวก็ออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เพราะการสักถามเป็นเรื่องของคนรักกันสามารถทำได้ แต่ว่าเธอกับเซียงชิงฉือไม่ได้เป็นอะไรต่อกันเลย

เซี่ยเสว่ออกจากโรงพยาบาลมาแล้วเงยหน้ามอง ท้องฟ้าที่ไร้เมฆ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวันที่อากาศแจ่มใส มาก ถึงแม้ว่าในใจจะเหมือนก้อนหินที่ถูกบดขยี้ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ราวกับนั่งรถไฟเหาะ หรือ บางทีเธอควรคิดจากอีกมุมหนึ่ง ถ้าหากเซียงชิงฉือ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จริงๆ เขาอาจจะไม่รอด ไม่ แน่ว่าวันนี้เธออาจจะได้ไปร่วมงานศพของเขาก็เป็นได้

คิดแบบนี้แล้วก็น่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยกโทษให้เขาหรอกนะ

เมื่อกลับไปที่บ้าน เซี่ยเสวก็ยังคงหงุดหงิด เธอนํา กระดานวาดรูปออกมา ลากดินสอสองสามครั้งวาดเป็น รูปเซียงชิงฉือ จากนั้นก็วาดตัวเองเป็นจอมวายร้าย แล้ว ก็ลงโทษเซียงชิงฉือด้วยแส้ในมือจนเนื้อตัวแตกยับ จน ต้องคุกเข่าขอความเมตตา ขณะที่วาดไป เซี่ยเสวี่ยัง รู้สึกถึงความโกรธอยู่เล็กน้อย

เซียงชิงฉือที่อยู่ในห้องผู้ป่วยกำลังรอให้เซี่ยเสว่ กลับมา พอเงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาแขวนที่ประณีต สวยงาม เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วที่เซี่ยเสว่ออกไป

ทำไมถึงใช้เวลานานมากขนาดนี้? หรือว่ามีเรื่องอะไร เกิดขึ้น?

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ ทันใดนั้นหัวใจของ เซียงชิงฉือก็แทบจะกระโดดออกมา รวบรวมความคิด ในความเป็นไปถึงเรื่องไม่ดีแล้ว ก็หยิบมือถือออกมา โทรหาเซี่ยเสว่

โทรอยู่สองสามครั้งก็ไม่มีคนรับสาย ในตอนที่เขา กำลังจะกดโทรซ้ำอีกครั้ง ก็มีการกดรับสายแล้ว

“เซี่ยเสว่ ทำไมไปนานขนาดนี้?”

“ทำแบบนี้แล้วสนุกไหม? เซียงชิงฉือ?” เซี่ยเสว่โยน คำพูดนี้เข้าใส่ก่อนจะวางสาย จ้องมองมือถือด้วยความ สับสนอย่างมาก
เมื่อคิดว่าจะโทรกลับไปถามให้แน่ชัดอีกครั้ง เซี่ยเสว่ กลับปิดเครื่องไปเสียแล้ว

เซียงชิงฉือไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ยังดีอยู่เลย ทำไมถึงได้กลายเป็นอีกอย่างได้ขนาดนี้

เป็นไปได้ไหมว่าเซี่ยเสว่จะรู้เรื่องอุบัติเหตุปลอมๆนั่น แล้ว?

เซียงชิงฉือโกรธจัด คิดว่าลู่เย่นหลุดปากพูดออกไป จึงโทรไปหาลู่เย่นแล้วพูดอย่างโหดร้าย

“ลู่เย่น นายบอกอะไรกับคุณนาย!”

“ผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ…

“ท่านประธาน ผมสาบานว่าไม่ได้หลุดปากพูดอะไร เลย คุณนายจะต้องได้ยินโดยไม่ได้ตั้งใจอย่างแน่นอน เพราะตอนที่ผมออกมาผมเห็นโจ๊กอยู่ในถังขยะตรง ปากประตู” ดังนั้นต้องไม่ใช่เขาพูดแน่ๆ!

เซี่ยเสว่ต้องรู้เรื่องที่เขาหลอกเธอแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ