เธอท่าให้ชีวิตฉันมีความหมาย

บทที่ 13 เลี้ยงดูมาดี



บทที่ 13 เลี้ยงดูมาดี

เขาลูบหัวเธอเบาๆ เพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นมา แบบนี้ เขาจะจูบได้ถนัด

จูบของเขาที่จูบเธอช่างช้าและนุ่มนวล ราวกับสายลม อันแผ่วเบาที่พัดผ่านแม่น้ำ

ใจของเธอเต้นตึกตักอยากจะกอดเขากลับจริงๆ จะ กอดเขาแน่นๆและจูบอยู่อย่างงี้ตลอดไป

แต่เธอยังมีสติจึงใช้แรงผลักเขาออกไป

“พอได้แล้ว คุณพูดคำไหนคำนั้น” เสียงของเธอแผ่ว เบาเหมือนจะหมดแรงแล้ว

ปล่อยเธอเถอะ ปล่อยเธอได้แล้ว! เขาค่อยๆปล่อยมือ

เธอรีบเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าบนมือเขาเป็นอันดับแรก

“อันนี้คืออะไร?” เธอชี้ไปที่เสื้อกันฝนแล้วถาม

“ข้างนอกฝนตกหนัก ผมซื้อเสื้อกันฝนมาให้ตัวนึง ไป เปลี่ยนชุดเถอะ เดี๋ยวอีกสักพักผมจะลงไปส่งคุณข้าง ล่าง”

ความรู้สึกในใจเต็มไปหมด แม้ว่าเธอจะไม่อยากพูด ขอบคุณเรื่องในวันนี้ แต่เธอก็คิดว่ามันจะติดอยู่ในใจไป ตลอดชีวิต
หยิบเสื้อผ้าแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ เสื้อแห้งหมด แล้วใส่สบายจริงๆ

ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรต่ออีก แล้วเดินไปหน้าประตู อย่างเงียบๆ มองไปยังสายตาของเธอที่เปลี่ยนเป็นดู เงียบเหงาเหมือนเคย เขาอยากจะจับเธอพิงกำแพงแล้ว จูบซะจริงๆ แม้จะอยากให้เธออยู่ที่นี่ต่อ

แค่คิด และคงได้แค่คิด เขาควบคุมความรู้สึกแล้วรีบ ลงไปข้างล่างก่อน

“จะไม่เสียดายใช่ไหม?” เขาไม่ตอบและไม่กล้ามอง หน้าเธอ เธอคงมีท่าทีที่ไม่เสียดายแน่นอน

“ไม่หรอก!” เธอตอบอย่างรวดเร็ว

พอออกจากบ้านเขาก็มีความรู้สึกมากมาย แค่ทำให้ เรียบง่าย ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

แต่เรื่องที่เคยเกิดขึ้น ยังไงก็คือเกิดขึ้นแล้ว ถ้าจะ อยากให้เงียบไปเลย คงไม่มีทาง

เธอกำลังอยู่ท่ามกลางสายฝน ผ่านอะไรมามากมาย ในใจก็เต็มไปด้วยเรื่องต่างๆ

แบตรถก็ชาร์ตเต็มแล้ว อยู่บนถนนก็ใส่เสื้อกันฝนที่ เขาซื้อให้ แม้กายจะยังหนาวอยู่ แต่ใจกลับอบอุ่น

พอถึงบ้านก็สองทุ่มครึ่งแล้ว ทุกคนในบ้านกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา

เธอคิดว่าถ้าเธอไม่อยู่ พวกเขาคงกำลังเป็นห่วง แบบ นี้ก็ดี ไม่มีคนสนใจเธอ ไม่มีคนใส่ใจเธอ จะได้ไม่ต้อง เผชิญหน้าเดี่ยวพูดหลุดปาก

แต่เธอคิดผิดแล้ว พวกเขากำลังเก็บไว้แล้วรอเธอ กลับมาถึงจะระเบิด

“เสี่ยวลู่ ดูสินี่ มันกี่โมงแล้ว!” แม่ยายเริ่มพูดด้วยน้ำ เสียงอึมครึม

“สองทุ่มครึ่งค่ะ”

“ทําไมถึงกลับดึกแบบนี้?”

“แม่คะ หนูบอกไปแล้วนะคะ ว่าแบตรถหมด หนูเลย ไปหาที่ชาร์ตแบตมา” เธอเก็บอารมณ์แล้วค่อยๆพูด อธิบายดีๆ

“ในมือของเธอทำไมถึงมีเสื้อกันฝนแบบนี้อยู่ด้วย?” แม่ยายช่างสังเกตจริงๆ เสื้อกันฝนเปลี่ยนไปก็ดูออก

เธอแอบรู้สึกเหมือนเป็นคนทำความผิด กลัวว่าพวก เขาจะรู้ว่าคนที่ซื้อเสื้อกันฝนนั้นเป็นผู้ชายที่เคยจูบเธอ

“วันนี้หนูลืมเอาเสื้อกันฝนมา แล้วฝนตกหนัก ก็เลยซื้อ มาใส่”
“ถูกเลี้ยงดูมาดีจริงๆเลย ฝนตกครั้งเดียวจะเป็นอะไร ไป ยังจะเปลืองเงินซื้อเสื้อใหม่อีก” แม่ยายบ่นพึมพำ

“แต่เสื้อกันฝนตัวนี้ก็หนาดีนะ เย่ชินก็ต้องขี่มอเตอร์ ไซด์ เอาตัวนี้ให้เธอนะ”

เย่ซิน เป็นน้องสาวของสามีเธอ ปกติจะซื้อแต่ของดีๆ แม่ยายชอบให้เธอเอาของไปให้น้องสาวสามีอยู่บ่อยๆ ในทุกครั้งที่ชอบ แม่ยายก็จะสั่ง เธอจึงได้แต่กัดฟันแล้ว ให้ของน้องสามีไป

“ไม่ได้!” เธอปฏิเสธไปแบบไม่ได้เสียงดัง แต่น้ำเสียง แข็งจนแม้แต่ตัวเองยังตกใจเลย

“เสียดายหรอ? มันไม่ได้เป็นแค่เสื้อกันฝนหรอก หรอ?”

ประโยคนี้ แม่ยายพูดออกมาได้ตรงเลย เธอก็ไม่รู้ตัว เองเหมือนกันว่าหวงเสื้อกันฝนตัวนี้ หรือเป็นเพราะด้หยุ นฮุย เพราะถูกเขาจูบเลยหวั่นไหวหรอ?

เธอยังไม่ได้เอ่ยปากพูดคำแก้ตัวใดๆ ทันใดนั้นสามี ของเธอก็มองแล้วจ้องไปที่หน้าของเธอ

แย่แล้ว เขาจะมองฉันออกไหมนะ?

เหอมั้นซิน รู้สึกว่าตัวเองทำผิดเลยได้แต่ก้มหน้าก้มตา

“เอาเสื้อกันฝนให้เย่ชิน!” เซียวจื่อฝางพูดด้วยความโมโห เขามองไม่เห็นว่าเธอมีอะไรที่ไม่ปกติ แค่รู้สึก แปลกๆว่าทำไมเธอถึงกล้าขึ้นเสียงกับแม่

อีกอย่าง ปกติแล้วเธอจะใจกว้างกับน้องสาวสามี แต่ วันนี้ทำเพื่อเสื้อตัวเดียวขนาดนี้ มันก็แปลกนะ

“ไม่!” เขาตะโกนออกมา จนทำให้เธอไม่สบายใจ

อยากจะรู้จังว่าที่เธอตากฝนหนักกลับบ้านมา ทำไม เขาถึงไม่ถามเลยว่าหนาวไหม หิวรึป่าว?

เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน ถึงได้ถือตัวแบบนี้

แล้วทําไมซื้อมาด้วยตัวเอง ของที่ตัวเองชอบ ถึงต้อง ให้เย่ชินทุกครั้งเลย?

วันนี้เธอจะยืนยันว่ายังไงก็ไม่!

“กลับบ้านดึก แล้วยังทำขึ้นเสียงกับสามีอีกหรอ? นับ วันเธอยิ่งจะกล้าขึ้นเรื่อยๆเลยนะ! จริงๆแล้วในบ้านนี้ ใครใหญ่ บอกว่าต้องให้เสื้อตัวนี้ก็ต้องให้ ไม่อยากให้ก็ ต้องให้!”

แม่ยายหลี่เหยาพูดและลุกขึ้นยืน อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึง ตัวเธอแล้ว จากนั้นก็ดึงเสื้อกันฝนที่เธอเก็บไว้อย่างดี ออกมา

“แม่ จะทำอะไรนะ!” เหอมั้นซินรีบพูดออกมา จิตใต้สำนึกก็จับเสื้อกันฝนเอาไว้แน่น พยายามใช้แรงให้มากที่สุด หลี่เหยา จนทำให้แม่ล้มลงไปบนพื้น

“แม่ แม่!” เหอมั้นซิน ตกใจจนหน้าซีด เธอปล่อยมือ และนั่งลงดูอาการแม่

“โอ้ย ฉันไม่อยากมีชีวิตต่อล่ะ ลูกสะใภ้ทำร้ายฉัน น่า ขายหน้าจริงๆ! เซียวจื่อฝาง ยืนดูสะใภ้เธอรังแกแม่อยู่ ตรงนั้นล่ะ ทำร้ายแม่ใช่ไหม? ยังมีความเป็นคนอยู่ ป่าว?”

มือของเธอยังไม่ทันจะแตะไปบนมือของแม่ยาย ก็ถูก แม่ยายปัดออกและนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่บนพื้น

แบบนี้ก็ได้หรอ? เซียวจื่อฝางพอได้ยินแม่พูดก็หน้า แดงก่ำ แล้วเดินไปอยู่ข้างหน้าเหอมั้นซิน มือหนึ่งจับเธอ ไว้ส่วนอีกมือหนึ่งเตรียมง่างแล้วตบเธออย่างแรงไปสอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ