ตอนที่ 4 ผู้ชายกินบ่อยแล้วก็ต้องเลือกเป็นธรรมดา
เดินออกจากห้องสืบสวนของศาล บุณวัตน์อ้อมไป ด้านข้างพานาราเดินออกจากศาล ไม่คิดว่านาราจะเปิด เผยตัวตนเร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังยอมรับการจัดการของ เขาอย่างง่ายดาย
ทั้งสองคนขึ้นรถ BMWสีดำ ค่อยๆ เคลื่อนตัวขับออก
ไป
เมืองกีธูร์น เมืองอันหนาวเย็นผู้คนที่ไร้ซึ่งความเห็นอก เห็นใจกัน ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว!
วิวทิวทัศน์นอกรถได้ถูกตกแต่งปรับปรุงใหม่ แทบ จะไม่มีร่องรอยของ 5 ปีที่แล้ว นารามองออกไปนอก หน้าต่างรถ ภาพเธอที่เดินจากไป กลายเป็นฝุ่นผง ปรากฏสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่
ตั๋วเครื่องบิน 1 ใบ ใบแจ้งการรับสมัครเข้าเรียน กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ ครอบครัวนั้นไม่ให้เงินเธอแม้บาท เดียว ส่งเธอทิ้งไว้ที่แคลิฟอร์เนีย
5 ปี ที่ผ่านมา เธอทำงานหาเงิน นอนกลางดินกินกลาง ทราย อดอยากหิวโหย อีกทั้งยังต้องระวังตัวเองจาก นักฆ่าที่ณัฐนิชส่งมาเพื่อเก็บเธอ ทุกครั้งที่เธอก้าวเข้าสู่ ความสิ้นหวัง หมดหนทาง และเธอก็รอดชีวิตมาได้ทุก ครั้ง
เธอเคยบอกไว้ว่าสักวันหนึ่ง ตระกูลหันมณี จะต้องชดใช้ด้วยเลือด และจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา ต่อให้เธอจะไม่ได้ผลประโยชน์ก็ตาม
“เอ็อดด” เสียงแหลมของล้อรถ ทำลายความคิดของ นารา
คุณป๊อบปี้ครับ ด้านหน้ามีรถคันนึงจอดขวางอยู่ปิด กั้นเส้นทางที่พวกเราจะไปครับ ถ้าผมดูไม่ผิด รถคันนี้ น่าจะเป็น maybach 62S ราคา 25 ล้าน มีเพียงแค่ 20 คันในโลกครับ
สายตาแพรวพราวของ บุณวัตน์ หันไปมองเธอพร้อม
กล่าว
นารา มองไปข้างหน้า รถ Maybach คันหรู ที่ขวาง ทางรถของพวกเขา ปิดกั้นเส้นทาง แสงจากดวงอาทิตย์ ที่ส่งเข้าไปมองเห็นร่างที่งดงามของคนในรถ มองทะลุ เข้าไปรถตัวรถ
นารา ยกคิ้วขึ้น พอจะเดาได้ว่าเป็นใคร?
“นายรออยู่ที่รถนะ ฉันจะลงไปหาคุณชายท่านนั้น เอง” พูดจบ นาราก็ก้าวลงจากรถ เดินตรงไปหารถ maybach ที่จอดอยู่
5 ปี ที่นาราหายไป กลายเป็นกุหลาบที่มีหนาม สวยงามน่าหลงใหล
เธอเดินไปข้างประตูรถ พอดีกับธีมนต์ที่ลดกระจกรถลง ทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่ละสายตา
ผมยาวที่เคยม้วนขึ้นตอนนี้ถูกปล่อยลง มองลงไปตรง หน้าอกของเธอ บิดขี้เกียจด้วยท่าที่ผ่อนคลาย เธอยิ้ม บางบาง เอนตัวพิงประตูรถ เอ่ยปากทักทายอย่างคุ้น เคย “ไงคะพี่เขย ไม่เจอกัน 5 ปี บริษัท เอส ที กรุ๊ป ของ คุณตอนนี้ขนาดเงินแค่ 300 ล้าน ก็ไม่ยังไม่ยอมเสีย เชียวเหรอ?”
“เอ๊ะ ไม่สิ” เธอพูดเสียงแหลม ทำท่าประหลาดใจ “ผ่านไป 5 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าคุณยังเป็นพี่เขยของฉันอยู่ เปล่า”
ดวงอาทิตย์ส่งแสงจูบลงเข้าที่แก้มอันขาวเนียนของ เธอ คิ้วมีเสน่ห์ จมูกเป็นสันที่โดนแสงอาทิตย์ดูแล้ว สวยงามเหลือเกิน โดยเฉพาะ ริมฝีปากแดงคู่นั้น จนถึง ตอนนี้ ธีมนต์จำได้ไม่เคยลืม ในคืนนั้น เขาหมดสติไป ด้วยริมฝีปากต้องมนต์คู่นี้
เขาจ้องมองอย่างไม่ลดละ สายตาอันลึกซึ้งที่ถูกสาป ด้วยน้ำแข็ง น้ำเสียงที่เฉยเมยของเขา พูดออกมาอย่าง เชื้อเชิญ “ผมไม่ชินกับการที่ต้องเงยหน้าฟังคนอื่นพูด”
นารา ยิ้มมุมปาก ถือวิสาสะเปิดประตู เข้าไปนั่งบนรถ
ปิดประตูรถ พูดกับคนขับรถอย่าสุภาพ “ไปอาคารเอ ลล่าค่ะ”
คนขับรถแปลกใจ มองไปยังกระจกหลัง ถามด้วยความเคารพ “คุณธีมนต์ครับ”
“ทำตามที่เธอพูด”
“ครับผม”
maybach เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ นารานั่งอยู่ ข้างๆเอียงศีรษะเล็กน้อย มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลา และเยือกเย็นของเขา จงใจขยับเข้าไปใกล้ แล้วพูด “รถหรูราคา 25 ล้านคันนี้ ถ้าให้ฉันเดา พี่เขยคงไม่มา คิดเล็กคิดน้อยกับฉันเพราะเรื่องเงินแค่นี้หรอกนะ หรือ เป็นเพราะว่าเมื่อกี้นี้ฉันไม่รับนามบัตรคุณเลยโกรธเห รอ?”
ธีมนต์ หันไปหาเธอ อย่างสนใจ ไม่เอ่ยอะไรออกมา คล้ายกับว่ารอให้เธอพูดต่อ
นารายิ้มออกมาอย่างยั่วยวน ยกมือวางลงบนเสื้อสูท สีเทาของเขา “เป็นผู้ชายอย่าน้อยใจไปเลย ที่ฉันทำ อย่างนี้ก็เพื่อประโยชน์ของคุณ บริษัทของคุณเพิ่งจะ แพ้คดีไป ถ้าฉันรับนามบัตรคุณ คนอื่นก็คงคิดว่าคุณมา ฉันประจบประแจงฉันนะสิ”
เธอกระพริบตาลงอย่างมีเลศนัย พร้อมเอนกายไป ข้างหน้าเล็กน้อย “พี่เขยค่ะ คุณว่าใช่ไหมล่ะ”
ใกล้เธอเข้าไปเธอทีละนิด กลิ่นหอมที่คุ้นเคยหวนให้ เขานึกถึงความทรงจำเมื่อ 5 ปีก่อน
ธีมนต์ ขมวดคิ้ว ดวงตาจ้องมองลึกลงไปอยู่นาน หายใจรดลงตรงกลางจมูก เอ่ย ออกมา 2 คำ
“แค่คุณ?”
“หือ” เธอยิ้มเล็กน้อย นิ้วมือเลื่อนขึ้นไปลูบใบหน้า หล่อเหลาของเขา “ทำไม ดูถูกฉันเหรอ?” นารายิ้มด้วย สายตาเย็นชา “ดูถูกผม คุณก็ได้ไปอย่างยุติธรรมแล้วนี่ 300 ล้าน!”
ธีมนต์ ใช้แรงจับมือที่อยู่ไม่สุขของเธอไว้ “300 ล้าน เป็นของขวัญทักทายคืนกลับให้คุณ”
หากมีสิ่งใดที่ทำให้เธอหวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อ 5 ปีก่อน ครู่หนึ่ง ธีมนต์กล่าว “5 ปี ก่อนที่คุณให้ ของขวัญทักทายผม ผมยังจำได้ไม่เคยลืม”
ลมหายใจเย็นรดเข้ามาใกล้ นาราตั้งสติได้ ยิ้มอย่างมี เสน่ห์ยั่วยวนมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา “ทำไมเห รอ อย่าบอกนะว่าคุณอยากเล่นมันบนรถอีกครั้ง?”
ธีมนต์ขยับมือลงอย่างช้าๆ สายตามืดมัว กวาดไปที่ กระดูกสันหลังของเธอลงมาถึงเอว ใช้แรงดึงเข้ามาอยู่ ในอ้อมแขนของตัวเอง “คุณว่าไงล่ะ?”
บรรยากาศที่คลุมเครือ เล่นสนุกกันในรถอย่างไม่ สนใจใคร ลมหายใจเย็นๆของเขา รุกล้ำเข้าไปหาเธอที ละนิด
นาราสงบนิ่ง “นิ้วเรียวถูไถไปที่จมูกสูงโด่งของเขา กล่าวน้ำเสียงที่สงสาร “ทำยังไงดีล่ะคะ ฉันไม่สนใจ คน หน้าตาแบบคุณนะสิ!”
เธอหยิบเอาเนคไทของเขาขึ้นมาเล่น พูดด้วยน้ำเสียง ที่เย็นชา “ของที่จรรย์ธรเคยใช้ ฉันรังเกียจ”
ธีมนต์ยิ้มโดยไม่มีท่าทีโกรธเคืองแต่อย่างใด “ดูไม่ ออกว่า คุณพิถีพิถันในการเลือกด้วย”
“ผู้ชายกินมากเกินไปก็ต้องเลือกเป็นธรรมดา สินค้า ที่ธรรมดาทั่วไปก็ไม่อยากจะเสียเวลา” เธอพูดจบผลัก เขาออกไป
เขาไม่ขัดขืน ดวงตาขี้เล่นของเขา “เป็นสินค้ายังไง ลองแล้วถึงจะรู้”
“คนแบบคุณเนี้ย มองหน้าก็รู้ขนาดแล้ว นาราทำเสียง เยาะเย้ย มองไปที่กระจกหลัง
บุณวัตน์ขับ BMW สีดำ ตามมาข้างหลัง เธอตะโกน เสียงดัง “หยุดรถ”
ธีมนต์แปลกใจเล็กน้อย เลิกคิ้ว ตรงนี้ยังห่างจากอา คารเอลล่าอยู่นะ คุณแน่ใจเหรอว่าจะลงจากรถ?”
ดวงตาอันสวยงามของนารา ริมฝีปากสีแดงยิ้มเป็น เส้นตรง “ไม่อยากจะรบกวนคุณหรอกค่ะ”
“หยุดรถ” ธีมนต์มองดูความอวดดีของเธอ ตามใจเธอ
รถจอดนิ่ง “ธีมนต์ดูเธอเดินลงไป ลดกระจกรถ “วัน
ไหน เรานัดหาที่ลองขนาดกัน?”
นาราเบะปาก สะบัดหน้าเชิดอก จากไปด้วยท่าทีหยิ่ง ยโส ก้าวขึ้นรถ BMW สีดำด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ธีมนต์ มึนงง
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเมินเฉยคำพูดของเขา
ยังมีคนแบบนี้ “นา รา”
BMW สีดำตามหลังมาติดๆ เร่งเครื่อง “บรื้น ขับแซง รถ Maybach ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาเยือกเย็นของธีมนต์ ยิ้มอย่างมีเลศนัย “เวลา ต่อจากนี้ มันต้องน่าสนุกแน่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ