แพ้ใจพ่ายรัก

ตอนที่ 2 ดอกไม้เหล็ก



ตอนที่ 2 ดอกไม้เหล็ก

ไม่เต็มใจ ไม่เต็มใจเลยสักนิด! เฉียวอวี่ถงตะโกนลั่นอยู่ในใจ

ทั้งหมดนี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ทำไมมันช่างอธิบายได้ ยากเย็นนัก!

“ได้โปรดเถอะ เด็กน้อยช่วยคิดให้ดีๆอีกทีได้ไหม? ฉันไม่ใช่แม่ของหนู อย่าใช้ข้ออ้างผิดๆ มาบอกว่าฉัน เป็นแม่ของหนูเลย ฉันขอร้องล่ะ ฉันช่วยหนูเอาไว้นะ ทำไมหนูหักหลังฉันแบบนี้”

เสี่ยวจินมองดูท่าทีของเธอด้วยความคับข้องใจ เขา จึงหดตัวลงไปในอ้อมแขนของผู้ชายคนนั้น ทำปากเบะ เหมือนจะร้องไห้

เขาขมวดคิ้ว เพราะคำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกไม่ พอใจ

เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้? ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเห รอ พูดให้มันดีดีหน่อยได้ไหม?

เขาลุกขึ้นยืน มองเธอด้วยสายตาที่ไม่แยแส “คุณทิ้ง ลูกไปแล้วยังมาพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีกเหรอ?”
ต๊ะ?!

จู่จู่เธอก็สงสัยว่าเธอกำลังเห็นภาพหลอนอยู่รึเปล่า หรือผู้ชายคนนี้ป่วย หัวของเขาถูกประตูหนีบมาใช่ไหม

มาพูดจาไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ได้ยังไง!

เธอตบโต๊ะและยืนขึ้น “คุณหมายความว่ายังไง ฉันมี ความสัมพันธ์อะไรกับคุณ? ฉันรู้จักคุณหรอ?

เขาจ้องมองเธอพลางอุ้มเจ้าก้อนเล็กๆบนพื้นขึ้นมา ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งขึ้นมาลอยๆว่า

“พวกเราไม่รู้จักคุณเลยจริงๆนั่นแหละ” ก่อนจะหัน หลังเดินจากไป

เฉียวอวี่ถงยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เธอรู้สึกได้ถึงสายตา ที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามที่ถูกฉายออกมา รอบๆ

เธอมองดูทิศทางที่เขาจากไปแล้วเส้นเลือดตรงขมับ ของเธอก็เต้นตุบๆอย่างโกรธแค้น

เจ้าคนสับปรับ เมื่อครู่ยังพูดความจริงอยู่เลย แต่อยู่ ดีๆก็กลับคำซะงั้น!

เธอไล่ตามออกไปด้วยความโกรธ แล้วก็ได้เห็นว่าเจ้า คนตัวสูงนั่นอุ้มเด็กขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว
เธอโกรธจนจุกอก ได้แต่ตะโกนตามหลังแท็กซี่ไปว่า “นายตัวแสบ อย่าให้แม่จับได้ก็แล้วกัน!”

หลังจากกรีดร้อง เธอก็ยังรู้สึกไม่สาแก่ใจ เธอจึงถอด

รองเท้าปาไล่หลังแท็กซี่ไปสุดแรง

น่าเสียดายที่แรงของเธอมีน้อยเกินไป รองเท้าจึงไม่ ได้ลอยไปไกล มันตกลงบนพื้นข้างหน้าเธอ

ใบหน้าของเธอจมลงทันที

กว่าเฉียวอวี่ถงจะกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปห้าทุ่มแล้ว ถ้าไม่มัวไปเสียเวลาอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอจะกลับมาดึก ขนาดนี้ไหม?

เธอล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มหลังใหญ่อย่างอ่อนแรง ในอ่างล้างจานยังมีจานที่ไม่ได้ล้างในตอนเช้าอยู่เลย ได้ยินเสียงน้ำจากก๊อกหยดลงไปในอ่าง จนเกิดเสียงดัง ก้องเป็นพิเศษในห้องโล่งๆแบบนี้

เธอสลึมสะลือหลับไป จนกระทั่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกที ก็เป็นเวลาสายมากแล้ว

เธอลุกพรวดพราดขึ้นมาด้วยความตกใจ ลนลานหยิบ ขนมปังชิ้นหนึ่งแล้วรีบวิ่งออกไป

ตายแล้ว ตายแล้ว!

สายแล้ว!
เธอรีบพุ่งตรงไปที่ประตูพร้อมกับขนมปัง

จึงบังเอิญบนเข้าหน้าอกแกร่งอย่างแรง

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ” เธอรีบกล่าวขอโทษ แต่เมื่อ เงยหน้าขึ้นแล้วเห็นผู้ชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้า ของเธอก็มืดลงทันที

จะซวยอะไรขนาดนี้เนี่ย?

วันนี้เธอน่าจะดูฤกษ์ดูยามก่อนออกบ้าน!

ดวงตาดอกท้อที่น่าหลงไหลของผู้ชายคนนั้นจ้องมอง เธอ ก่อนจะมาหยุดลงตรงหน้าอกอย่างมีเลศนัย พูด อย่างเกเรว่า

“ถงถง นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะมาหลบอยู่ที่นี่”

“ใครหลบอยู่? หลีกไป ฉันจะไปทำงาน” เธอเหลือบมองเขาก่อนจะเดินเลี่ยงไป เขาพูดพลางขยับมายืนขวางหน้าเธอเอาไว้

“นี่ ไม่เจอกันตั้งนาน คุณไม่คิดถึงผมบ้างเลยรึไง?”

เฉียวอวี่ถงขมวดคิ้ว ผู้ชายคนนี้ช่างน่ารำคาญจริงๆ

“เฉินเฉิง ผู้ชายที่มาคอยยืนดักทำร้ายหญิงสาวระหว่างทาง เขาเรียกว่าอะไรคุณรู้ไหม?”

ใบหน้าของเขาจมลงทันที เขาไม่ได้โง่จนฟังไม่ออก ว่าเธอกําลังด่าว่าเขาเป็นหมา แววตาของเขาเต็มไป ด้วยความโกรธเคือง

ผู้หญิงคนนี้นับวันยิ่งไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีมากขึ้นเรื่อยๆ

เฉินเฉิงยืนเท้าเอวมองดูเธอ “ตั้งแต่คุณออกจาก ตระกูลเฉียวไป คงไม่มีใครสั่งสอนสินะ”

“ฉันจะมีคนสั่งสอนหรือไม่มีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!”

“ทำไมมันจะไม่เกี่ยวอะไรกับผม?” เขาพูดพลางก้าว เข้าหาเธอช้าๆอย่างมาดร้าย “คุณคงไม่ลืมไปแล้วสินะ ว่าพวกเราเป็นคู่หมั้นกัน

“คู่หมั้น?” เธอคิดว่ามันไร้สาระสุดๆ พลางปรายตาม องเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“เฉินเฉิง คุณรู้รึเปล่าว่าทำไมพ่อของฉันถึงไล่ฉันออก จากบ้าน?”

เฉินเฉิงมองเธอเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้อะไร เกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลเฉียวในตอนนี้เลย

แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่

ที่มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้ม “ถงถง ผมจริงใจกับคุณจริงๆนะ”

แม่งเอ๊ย!

ถ้าผู้ชายเสเพลคนนี้จริงใจ แม่หมูคงจะปีนขึ้นต้นไม้ ได้แล้วมั้ง

เฉียวอวี่ถงเหลือบตามองที่นาฬิกาข้อมือของเธอ มัน สายมากแล้ว เห็นทีว่าวันนี้คงหนีไม่พ้นที่จะถูกดุ

เธอคิดว่า ยิ่งอยู่ที่นี่นานไป ก็ยิ่งทำให้เธออารมณ์เสีย แล้วเธอก็ขี้เกียจเกินไป ที่จะต้องกลับไปยุ่งเกี่ยวกับเขา อีก จึงพูดตัดบทว่า

“ฉันมีแฟนแล้ว ถ้าคุณยังมายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก ฉันจะ โทรเรียกเขามาจัดการคุณ”

“แฟน?”

เฉินเฉิงเกือบหัวเราะออกมาดัง ๆ ผู้หญิงคนนี้เป็น อย่างไรเขาจะไม่รู้เชียวหรือ? ใครจะกล้ามาคบกับแม่ เสือดุอย่างเธอ

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างนึกรังเกียจ ทำไม ไม่ เชื่อรึไง?”

“ก็ไม่เชื่อน่ะสิ ทำไมคุณไม่โทรเรียกเขามาล่ะ?”

เธอพยักหน้าโดยที่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง “ได้เลย คุณตามฉันมาสิ”

เขาชะงัก ก่อนจะเดินตามเธอเข้าไปในร้านขาย รองเท้า

เธอดูมั่นใจมาก จนเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย ดอกไม้ เหล็กที่ไม่เบ่งบานมานานนับพันปีจะบานแล้วหรือ?

ผู้ชายคนไหนช่างตาบอดได้ขนาดนั้น?

“คุณรอฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันจะไปตามเขามา”

เธอไม่เปิดโอกาสให้เขาพูด จากนั้นเธอก็หายเข้าไป ในห้องแต่งตัวของพนักงาน

เฉียวอวี่ถงแทรกตัวเข้าไปในประตูห้องแต่งตัว ตากลมโตคู่นี้กำลังจะพ่นไฟได้ เธอหนีออกจากบ้านเพื่อ หลีกเลี่ยงการแต่งงาน

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะตามเธอมาถึงนี่

แม่ง!

ช่างเป็นหัวขโมยที่ฆ่าไม่ตายจริงๆ!

เธอกัดเล็บหัวแม่มือของเธออย่างทุกข์ใจ เมื่อวานนี้ เธอควรจะตามเด็กน้อยไป เพื่อที่วันนี้เธอจะได้หนีพ้น

แล้วปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นหมดหวังไป
แล้วตอนนี้เธอจะไปหาแฟนสำเร็จรูปได้จากไหน!

พระเจ้าช่วยลูกด้วย

ช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างลูกด้วยเถิด

เสี่ยวจางผลักประตูเข้ามา แล้วมองดูเธอตบผนัง เหมือนเด็กสาวผู้โศกเศร้า อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย ว่า “พี่อวี่ถง พี่กำลังทำอะไรอยู่?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ