ตอนที่ 8 สาวใช้ธรรมดาทั่วๆไป
ใช้โอกาสที่เย่เชินหลินพูดคำนั้นออกมา ไหลี่หมินหัน มาสื่อสารทางสายตากับเธอครู่หนึ่ง ก็ยิ้มออกมาอย่าง สดใสทันที แล้วหลีกเลี่ยงหัวข้อบทสนทนาที่ทําให้เซียชี หรั่นอึดอัดใจ
“ฉันคิดว่าเฉินผีป่าชามนี้ต้มได้รสชาติไม่เลวเลย “เขา เอ่ยจบ ก็เอียงคอถามเซีย หวั่นออกไป “ขอรบกวนให้ ช่วยเสิร์ฟให้ฉันอีกนิดได้หรือเปล่า?”
ทุกสายตาที่ปะทะกันระหว่างเขาและเซี่ยซีหวั่น เย่เชินหลินล้วนมองได้อย่างชัดเจน บนใบหน้าประดับ ไปด้วยรอยยิ้มตามมารยาทอย่างที่เจ้าของบ้านต้องมี มาตั้งแต่ต้น มองดูนิ่งสงบมาก
ฟางลี่น่าคิดว่าสายตาที่เซี่ยชีหวั่นมองไห่ลี่หมินมันไม่ ถูกต้อง เป็นใครก็คิดอยากจะล่อลวงเขาไปเสียหมด
คุณชายใหญ่ก็จะรู้สึกไม่พอใจที่หล่อนจู่โจมเกินไป ถ้าคุณชายใหญ่พบว่าหล่อนพยายามจะยั่วยวนแขก ถ้า เป็นอย่างนั้นหล่อนก็ต้องโดนไล่ออกใช่หรือเปล่า?
คิดมาจนถึงตรงนี้ เธอเพิ่งมองเซี่ยซีหวั่นตอนที่เติม อาหารชามเล็กๆให้ไหลี่หมินเสร็จแล้วยกออกไปแล้ว เธอก็ยืดเท้าออกไปดักขาของเซี่ยชีหวั่นเอาไว้
เซี่ยชีหวั่นแต่เดิมก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพียงเธอประคองชามอาหารแล้วเดินเข้าไปก็กลับล้มลงไปบนร่างของไหลี่หมิน….
มือไวของเย่เชินหลินคว้าเอาไว้ได้ทัน เพียงสองวิต่อ มาเขาก็ดึงกลับไป
ไหลี่หมินก็ทำไม่ต่างจากเขา ได้ยื่นมือออกไปคว้า อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ก็เป็นแบบนี้ แต่ไม่มีใครยั้งเซี่ยชีหวั่นไว้ได้สักคน มือ ว่างของเธอก็คว้าโต๊ะตามสัญชาตญาณ อาหารในมือ รวมถึงน้ำซุปก็หกเลอะทั่วทั้งเสื้อสีฟ้าของไหลี่หมิน
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ !” เซี่ยชีหวั่นรีบเอ่ยขอโทษ อย่างทันที แล้วรีบหยิบทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะออกมาแล้วยื่น ให้เขาอย่างรวดเร็ว
ตำแหน่งที่อาหารหกลงไปมันไม่เหมาะให้เธอใช้มือลง ไปเช็ดให้เลย จึงทำได้เพียงรบกวนให้เขาเช็ดด้วยตัว เอง
ไห่ลี่หมินพูดบอกไม่เป็นไรไปพลาง รับทิชชู่ที่เธอส่ง มาให้ไปพลางจนเช็ดไปได้สองรอบจนเรียบร้อย
เย่เชินหลินยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เพียงเอ่ยคำขอ โทษออกมาเบาๆ “เธอเป็นสาวใช้ที่เพิ่งมาใหม่ อาจจะ ซุ่มซ่ามไปบ้าง เซี่ยชีหวั่น เธอพาคุณไห่ไปเปลี่ยนชุด สะอาดชุดใหม่ที่ห้องเก็บเสื้อผ้าสำหรับแขกด้วย
ความสูงของไหลี่หมินและเย่เชินหลินต่างกันไม่เยอะเพียงแต่ร่างกายของเขาไม่กำยำเท่าเย่เชินหลิน ส่วนใน เรื่องไซส์เสื้อ เขายังคงพอใส่เสื้อของเย่เชินหลินได้
“คุณไห่ ขอโทษจริงๆนะคะ! เชิญตามฉันมาค่ะ” เซี่ยชี หรั่นเอ่ยออกมาอย่างสุภาพ
“โอเค”
หลังจากที่ไหลี่หมินตอบรับไปหนึ่งคำ แล้วเดินตาม เซีย หวั่นออกนอกศาลาไป ตรงไปยังตึกหลัก
ท่านพ่อบ้านรีบสาวเท้าเข้ามาด้านหน้าเย่เชินหลินแล้ว ถามเสียงเบาออกมา “คุณเย่ คุณคิดว่าผมควรตามไป ดูแลอีกคนด้วยหรือเปล่า?”
“ไม่ต้อง”
ในเมื่อทั้งสองคนอยากหาโอกาสที่จะได้คุยกันตาม ลำพัง เขาจะไม่ปล่อยพวกเขาไปได้ยังไง ปล่อยให้พวก เขาไปตามสบายเลย
เขายังสามารถวางใจสาวใช้เผู้นี้ได้หรือเปล่า?
เมื่อรอบๆไม่มีคนแล้ว เซี่ยซีหวั่นก็เอ่ยขอโทษไห่ลี่หมิ นออกมาอีกครั้ง
“วันนี้จะต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉัน… ไหลี่หมิน โบกมืออย่างไม่ถือสา
ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนแล้ว รอยยิ้มที่ดู สง่างามบนใบหน้าของไหลี่หมินก็หายไปแล้ว ใบหน้าก็ ดูเคร่งขรึมขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ค่อยดีหรอ?” เขาถามเธอ
เซีย หรั่มยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วตอบกลับเขา “ดี มากเลย ฉันยังไม่ได้ขอบคุณคุณต่อหน้าเลย ถ้าไม่ใช่ เพราะคุณช่วยฉันเอาไว้ แล้วยังชี้นำทางนี้ให้กับฉัน ฉัน คงยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน อย่าพูดให้เขากลับคำเลย ชีวิตนี้ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่รอด”
ไหลี่หมินหยุดก้าวลง หันกลับมาสำรวจใบหน้าของ เธออย่างจริงจัง
“ไม่ต้องขอบคุณฉันแล้ว ถ้าเธอยอมเล่าถึงความเป็น อยู่ของเธอที่นี่ให้ฉันฟัง ฉันก็เต็มใจที่จะฟังแน่”
“ฉันเป็นเพียงสาวใช้ธรรมดาๆคนนึง นอกจากจะ เหนื่อยบ้าง ก็คงไม่ต้องพูดถึงสภาพงานจริงใดๆแล้ว” เซี่ยชีหวั่นพูดออกมาอย่างไม่เฉยชา
“รอยฝ่ามือที่อยู่บนใบหน้าด้านขวาของเธอ แล้วยังมี เสื้อผ้าของคนอื่นที่ดูพอดีร่าง แต่ทำไมมีแค่ของเธอที่ ไม่เหมือนกับใครเขาล่ะ?” เขาจ้องมองดวงตาทั้งคู่ของ เธอ แล้วถามออกมา
ตั้งแต่เขาเดินเข้ามา เขาก็สังเกตเห็นรายละเอียด เล็กๆเหล่านี้ สภาพการใช้ชีวิตของเธอที่อยู่ที่นี่คงไม่ดี เธอบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี คงจะเป็นเพียงการ กําลังอดทนกับมันอยู่
เซียซีหวั่นแตะลงบนใบหน้าของตน หัวเราะกับตัว เอง พูดเสียงแผ่วออกมา “ซัดขนาดนั้นเลยหรอ? ที่จริง ก็ไม่ได้มีอะไรมาก พวกเธอแค่คิดว่าฉันอยากจะเป็น ไท่จื่อเฟย จนบางทีก็กลั่นแกล้งฉัน เมื่อผ่านช่วงเวลา หนึ่งไป พวกเธอก็จะคิดว่าฉันไม่มีใจทำเรื่องแบบนั้น มัน ก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้แล้วก็ได้”
เธอไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเองก็ไม่ถามอะไร ขึ้นมาอีก
ยังคงเป็นเซี่ยซีหวั่นที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ไหลี่หมิน เดินตามหลังเธออย่างเงียบๆ
ก่อนที่ใกล้จะมาถึงเรือนหลักนั้น เซี่ยซีหวั่นก็ทําลาย ความเงียบออกมา มันเป็นปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระ หว่างเย่เซินหลินกับพ่อของเขาที่ทำให้เธอต้องมาพัวพัน กับเรื่องยุ่งๆแบบนี้
“คุณไห่ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อทำหน้าที่สาวใช้ให้ดี รอวัน หนึ่งคุณพ่อของคุณเย่มาหาเขาที่นี่ ฉันก็จะบอกกับเขา ให้แฟนของฉันเขาล้มเลิกความตั้งใจ แต่ว่า….พวกเขา สองคนพ่อลูกไม่ยอมคืนดีกันไม่ใช่หรอ เดิมทีก็ไม่มอง หน้ากันอยู่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นอีก การที่ฉันอยู่ที่นี่ก็ ไม่มีประโยชน์อะไร”
ไหลี่หมินครุ่นคิดอยู่ครู่นึง “เธออยู่ที่นี่ ก็อาจจะถูกใจเย่เชินหลินเข้า ผู้หญิงที่เขาถูกใจทั่วๆไปเธอเคยคิดถึง มันบ้างหรือเปล่า เขาอาจจะบังคับเธอ เธอจะยอมสละ ทําทุกอย่างเพื่อแฟนของเธอจริงๆหรอ?”
เขาจดจ้องใบหน้าเล็กของเธออีกครั้งอย่างจริงจัง ใน ใจราวกับกําลังรอค่ายอมแพ้ของเธอออกมา
เซี่ยซีหวั่นเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน การกระทําของเย่เชินหลินในคืนนั้นทำให้เธอคิดหลาย อย่าง แต่ก็ยังไม่มีคำตัดสินใจที่เด็ดขาด ดังเช่นตอนนี้ ราวกับว่าอยากจะเลี่ยงแต่คงเลี่ยงไม่ได้ต่อเรื่องนี้ เธอ กัดลงบนริมฝีปากอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าแสดงความเจ็บ ปวดแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเข้มแข็ง
“ถ้าจะต้องฝากชีวิตไว้กับเขา แล้วเขาทำให้คนที่ ทำร้ายเสี่ยวจุนมันพังพินาศไปได้จริงๆ ฉันก็จะยอม!”
สายตาเด็ดเดี่ยวของเธอทำให้ก้นบึ้งในหัวใจของไหลี่ หมินเหลือบมองเธอผ่านความรู้สึกที่มันพิเศษอีกครั้ง
เขาเอ่ยโดยที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา “ในเมื่อมัน เป็นแบบนี้..…….…..ไม่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาพ่อลูกจะ เป็นอย่างไร เธอจะต้องจำเอาไว้ให้ดีว่าเขาเป็นลูกชาย ของเย่เฮ่าหรัน ถ้าลูกไม่เชื่อฟังบิดา บิดาจะต้องคิดวิธี ทำดีกับเขาอยู่ตลอด เธอเป็นผู้หญิงฉลาด ไปเข้าใจมัน ด้วยตัวเธอเองเถอะ”
ประโยคที่ปลุกให้เธอตื่นขึ้นมาจากความฝัน เซี่ยชีหวั่ นราวกับว่ามองเห็นความหวังครั้งใหม่ขึ้นมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ