ตอนที่ 4 เจ็บถึงที่สุด
ที.เอส คลับ
นีรชารีบวิ่งเข้ามาในคลับ เธอสวมกระโปรงสีฟ้าที่ ซักบ่อยจนสีซีด ผมตรงสีดำขลับยาวประบ่า ดวงตา สดใส ใบหน้าขาวนวลเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
พนักงานที่เฝ้าหน้าประตูมองดูเธอแล้วพยักหน้าเล็ก น้อย ใช่แล้ว ต้องเป็นผู้หญิงคนนี้แน่ๆ สุทินทร์สั่งไว้ว่า คืนนี้จะมีผู้หญิงสวยแต่แต่งตัวซอมซ่อมานอนค้างกับ ท่านประธาน
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าห้อง 1806 ไปทางไหนคะ” นีรชาถามอย่างใจจดใจจ่อ
“ขอโทษนะครับ ใช่คุณนีรชาหรือเปล่าครับ” พนักงานเฝ้าประตูถามขึ้นมา เขาคิดในใจว่า หญิงสาว บริสุทธิ์ผ่องแผ่วคนนี้จะต้องทำให้คุณภัสกรณ์สุขสม มากแน่ๆ เป็นคนรวยมันก็ดีอย่างนี้นี่เอง
“ใช่ค่ะ ดิฉันนีรชา โทษนะคะ ห้อง 1806 ไปทาง ไหนเหรอคะ”
“ขึ้นลิฟต์ทางด้านซ้ายของล็อบบี้ไปที่ชั้น 18 เดิน เข้าไปสุดซอยจะเจอห้องสวีทที่ใหญ่และหรูหราที่สุด ครับ”
เธอกล่าวขอบคุณพนักงานเฝ้าประตู และรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ ทำไมถึงมีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้โทรหา และพี่มุกมา อยู่ที่คลับของคนชั้นสูงนี่ได้ยังไงกัน เธอชักจะสงสัย ใน ที่สุดนีรชาก็ขึ้นมาถึงชั้น 18
ทางเดินที่เงียบสงัด บนพื้นถูกปูด้วยพรมขนสัตว์ หนาสีขาว ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าของนีรชา ความ เงียบผิดปกติแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจ
ภาพวาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกแขวนอยู่เต็มฝาผนัง ราคาแพงและเป็นของจริงทั้งหมด ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะ กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ แต่เวลานี้ เธอ ไม่มีอารมณ์ชื่นชมอะไรทั้งนั้น
ท่ามกลางบรรยากาศที่กดดัน นีรชาเดินไปทีละ ก้าวๆ จนสุดทาง หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
1806 ตัวเลขทั้งสี่ปรากฏอยู่ต่อหน้า พี่สาวของเธอ
ต้องอยู่ข้างในนี้แน่ ๆ
นีรชายื่นมือเรียวบางของเธอออกไปเคาะประตู แต่ ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมา
เธอหวั่นวิตกมาก จึงทุบประตูแรงขึ้นอีก
“แอ๊ด…” เสียงแง้มของประตูไม้โอ๊คหนาทึบที่ถูก เธอทุบจนเปิดออกดังขึ้น ประตูไม่ได้ล็อคหนิ ภายใน ห้องทั้งอืดทั้งเงียบ
“พี่มุก….อยู่ที่นี่หรือเปล่าค่ะ” จู่ๆ นีรชารู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นยะเยือกขึ้นมาจนเธอกลัว
ไม่มีเสียงตอบกลับจากมุกมณีเลย ได้ยินเพียงเสียง ลมหายใจแผ่วเบาที่ดูเหมือนว่ากำลังทนต่อความเจ็บ ปวดจากอะไรบางอย่างอยู่
“โถ่…..พี่มุก” นีรชาพูดพร้อมกับเดินไปตามเสียงนั้น พี่สาวของเธอต้องเมาหนักมากแน่ๆ จะต้องรีบพากลับ บ้านโดยเร็ว และทำซุปให้กิน จะได้สร่างเมา
เสียงหอบหายใจใกล้เธอเข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ ทันใด นั้นเอง นีรชารู้สึกขนลุก เหมือนมีอะไรสัมผัสด้านหลัง
ยังไม่ทันได้หันกลับไปมอง เสี่ยววินาทีต่อจากนั้น เธอ ก็ถูกมือหนากอดรัดเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่พี่สาวของเธอ แต่ เป็นมือของผู้ชายที่ร้อนดั่งไฟ และพร้อมจะทำลายทุก อย่าง
“อ๊าย……….นายเป็นใคร” นีรชากรีดร้อง เธอดิ้นรน สุดฤทธิ์ พยายามบิดกายให้หลุดจากพันธนาการของ ชายคนนี้
ผู้ชายที่อยู่ในเงามืดไม่ตอบ เขาใช้ร่างกายอัน แข็งแกร่งรั้งเธอไว้ มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปที่ต้นขา และ มืออีกข้างหนึ่งลูบไล้บนเรือนกายของเธอ
นีรชาดิ้นรนจนสุดความสามารถ ไม่…..…….ล่อยฉัน” เธอตะโกนออกมาจนแทบไม่เป็นภาษา ร่างกายสั่นเครือ ด้วยความกลัว
เขาไม่คิดที่จะหยุด และริมฝีปากอันเร้าร้อนของเขา ก็บดขยี้ลงบนริมฝีปากของเธออย่างแรง นีรชาตกใจ มาก กัดเข้าไปที่ปากเขาจนเลือดสาด
เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด รู้สึกโมโหมาก
“อ้าย……” นีรจากรีดร้องเสียงดังด้วยความกลัวอัน แรงกล้า เอานิ้วข่วนไปที่ตัวของเขา และถึงแม้ว่าเล็บ จะจิกลงลึกแค่ไหน ฟันของเธอจะกัดแน่นเพียงใด เสียงร้องดัง มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะเขายังคงบดเบียด เข้าไปในกายของเธออย่างไม่ปราณี
“อย่า” ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เธอแทบจะเป็น ลม ความรู้สึกฉีกขาดนั้นทำหัวใจแทบหยุดเต้น สิ่งเดียว ที่บอกได้ตอนนี้คือ “เธอเสียตัวแล้ว โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ผู้ชายคนนี้เป็นใคร แม้กระทั้งหน้าตาเขาเป็นยังไงก็ยัง ไม่รู้เลย
น้ำตาแห่งความขมขื่นไหลนองลงมาไม่หยุดหย่อน
คืนมืดมนที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ไม่รู้เวลา ผ่านไปนานเท่าไหร่ เพราะเธอเจ็บจนชาไปหมด รู้แค่ว่า ดวงตาของเธอถูกกลืนลงไปในความมืดพร้อม กับหัวใจที่แตกสลาย…….
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ