พี่เขยเป็นสามีฉัน?!

ตอนที่8แฟนเฮงซวยปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง



ตอนที่8แฟนเฮงซวยปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

“มีอาจารย์เฝ้าอยู่ที่ประตูหลังนะเธอลองเดินไปดู สิ”เพื่อนร่วมห้องบอกเตือน

จรินทร์ไม่มีทางเลือกทำได้เพียงนั่งฟังที่ปรพลพูด อย่างไม่เต็มใจ

ความสำเร็จของปรพลถูกพูดออกมาให้แก่นักศึกษา ด้วยคำไม่กี่คำก็สามารถทำให้พวกเขาเข้าถึงสังคมที่ โหดร้ายมากมายบวกกับการแสดงออกของเขาที่แม้จะ จริงจังแต่น้ำเสียงกลับไม่แข็งบางครั้งก็เพิ่มอารมณ์ขัน เล็กน้อยทำให้ผู้คนในห้องประชุมฟังอย่างเพลิดเพลิน

และยังมีนักศึกษาหญิงส่วนมากเนื่องจากนัยน์ตาที่ เป็นประกายกับน้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาที่ฟังแล้วมอมเมา ผู้คน

คงมีเพียงจรินทร์เท่านั้นที่กังวลมากจนอยากจะขุด หลุมแล้วฝังตัวเองลงไปโชคดีที่มีคนอยู่ภายในห้อง ประชุมเป็นจำนวนมากอีกทั้งเธอยังนั่งอยู่ด้านหลังปร พลไม่น่าจะมองเห็นเธอหรอก

ทว่าเธอคงไม่รู้ว่าตั้งแต่ที่เพื่อนร่วมห้องลากเธอเข้ามา นั่งปรพลก็มองเห็นเธอแล้ว

นี่คือการกล่าวสุนทรพจน์ให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่สี่อายุ ของจรินทร์อย่างมากก็น่าจะอยู่ปีสามหรือเขาเข้าใจผิด ไปจรินทร์อาจจะมาเพื่อฟังเขาพูดโดยเฉพาะก็ได้แต่ไม่ อยากให้เขารู้จึงทำเป็นหลบๆซ่อนๆตั้งแต่ต้นจนจบ
คิดถึงตรงนี้ท่าทีขณะที่ปรพลพูดอยู่นั้นก็ได้ขยับยิ้ม ออกมาโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว

จรินทร์เหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็มรู้สึกว่าเวลาผ่านไป นานเป็นปีมันไม่ง่ายเลยที่จะรอจนการกล่าวสุนทรพจน์ จบลงเธอส่งขวดน้ำคืนให้เพื่อนแล้วรีบวิ่งทันที

ความเร็วนั้นเหมือนแมวไล่ตามหนู

ปรพลมองพฤติกรรมของเธอตลอดคิดว่ามันน่าตลกดี อยากจะตามออกไปแต่อธิการบดีก็มาขวางไว้เสียก่อน

“ประธานปรพลขอบคุณคุณมากนะครับทั้งๆที่งานยุ่ง ก็ยังหาเวลาว่างมากล่าวสุนทรพจน์ให้แก่นักศึกษาทั้ง หลายได้”อธิการบดียิ้มตาหยีจนแทบมองไม่เห็นลูกตา ทั้งคู่

“อธิการบดีถ่อมตัวเกินไปแล้วพวกเขาก็เปรียบเสมือน รุ่นน้องของผมเมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาล้วนแล้วแต่ จะกลายเป็นบุคลากรที่มีความสามารถบริษัทของผมยัง ต้องพึ่งพาพวกเขา”ปรพลตอบกลับอย่างสุภาพ

อธิการบดียังทักทายปราศรัยพูดถึงไร้เรื่องสาระอีก มากมายและยังเชิญปรพลรับประทานอาหารร่วมกัน

ปรพลยุ่งอยู่กับการมองหาจรินทร์ทำได้แต่เปลี่ยน หัวข้อ“วันนี้ที่มาฟังไม่ใช่ว่าทุกคนคือนักศึกษาชั้นปีที่สี่ หรอกหรือ?ทำไมผมเหมือนเห็นนักศึกษาปีสามมาด้วย ล่ะ?”
หากมองจากภายนอกแน่นอนว่าต้องมองไม่ออกว่า ใครปีสามใครปี เขาอาจจะถามโดยไม่ทันคิดอะไรไป อย่างนั้นก็ได้

“อาจเพราะเลื่อมใสในประธานปรพลคนดังเลยมีคน

แอบมาร่วมฟัง”อธิการบดีไม่ถือสาที่จะยกปรพลให้สูง

ขึ้นไปอีก

ปรพลยิ้มออกมา:จรินทร์แอบมาฟังเขาพูดนี่เองดีมาก

อธิการบดีเห็นรอยยิ้มของปรพล:คนที่ประสบความ สำเร็จล้วนชอบฟังคำพูดชมเชยจริงๆ

ปรพลยังคงอยู่กับอธิการบดีส่วนอาจารย์ที่รับผิดชอบ คนอื่นๆก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะไปก่อนทั้งหมดยืนคุย กันอยู่ทางด้านข้างคุยไปคุยมาพวกเขาก็พูดถึงคนใน มหาวิทยาลัย

เรื่องของจรินทร์ก็อยู่ในนั้น

“จรินทร์ที่อยู่ห้องสามพวกคุณรู้ข่าวรึเปล่า?ฉันได้ยิน มาว่าเธอได้ข้ามชั้นไปเรียนปีสี่ในบรรดานักศึกษาปีสี่ เธออายุน้อยที่สุดยังไม่ถึง20ปีเลยด้วยซ้ำ!

“ใช่แล้วฉันล่ะอิจฉาห้องของอาจารย์ต้นจริงๆที่มี นักเรียนชั้นเยี่ยมขนาดนี้”

น่าเสียดายที่อาจารย์ต้นอาจารย์ประจำห้องสามไม่ อยู่ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงได้พูดมากกว่านี้ไปแล้ว
ปรพลได้ฟังก็เข้าใจเพราะฉะนั้นจรินทร์ไม่ได้ตั้งใจที่ จะมาฟังเขาพูดสุนทรพจน์แต่เธออยู่ปีสี่แล้วนั่นเอง

ความพึงพอใจเล็กๆน้อยๆที่เพิ่งเกิดก็โดนทำลายไป ซะแล้วน่าเบื่อจริงๆ

แต่ถึงขนาดถูกเรียกว่านักเรียนชั้นเยี่ยมปรพลนึกไป ถึงจรินทร์ในเวลาปกติที่เขาพบดูท่าทางโง่ๆเซอๆช่าง เป็นเด็กน้อยที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจได้ตลอดจริงๆ

“อธิการบดีผมมีเรื่องบางอย่างที่อยากจัดการหลังจาก ทานอาหารเราค่อยมาตกลงกัน”ปรพลพูดจบก็ไม่รอ ให้อธิการบดีมีโอกาสได้ตอบกลับเดินออกไปจากห้อง ประชุมทันที

ตอนนี้เขาอยากจะรีบไปพบเด็กแม่สาวน้อยนั่น

ทางด้านจรินทร์หลังรีบออกมาจากห้องประชุม ต้องการกลับห้องไปหลบก่อนแต่ทว่าก็ได้พบกับคนที่ไม่ ต้องการเจอ

เมื่อไม่อยากเจอจรินทร์ก็ทำเป็นมองไม่เห็นและ เตรียมที่จะเดินต่อไป

“จรินทร์เธอคิดว่าจะหลบฉันไปจนถึงเมื่อไหร่?”จตุภูมิ ค่อนข้างโมโหหมายเลขของเขาถูกจรินทร์แบล็กลิสต์ เอาไว้ทำให้ติดต่อจรินทร์ไม่ได้ทำได้แค่มาขวางทาง เท่านั้น
จตุภูมิเป็นคนที่มีนิสัยเด็กแม้จะโตแล้วก็ตามภายใน มหาวิทยาลัยก็ได้รับความนิยมไม่น้อยซึ่งการที่เขามา ขวางทางเธอแบบนี้จึงทำให้คนรอบข้างหยุดเพื่อรอดู เรื่องสนุกของพวกเขา

จรินทร์ไม่อยากอยู่ตรงนี้ให้เป็นที่อับอายจึงดึงจตุภูมิ ลงไปชั้นล่างหาที่ที่ไม่ค่อยมีคน

“ฉันไม่ได้หลบคุณก็ชัดเจนอยู่ว่าไม่อยากเจอคุณ”จริ นทร์เลิกกับจตุภูมิแล้วปิดเทอมฤดูร้อนสองเดือนที่ผ่าน มาไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าเธอคิดว่าหากพบหน้าจตุภูมิ เธอคงจะโกรธเป็นอย่างมากแต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดใจ ของเธอสงบจนน่าแปลก

“ทำไมคุณถึงต้องการที่จะเลิกคุณช่วยบอกเหตุผล กับคนที่โดนตัดสินหน่อยได้ไหม”จตุภูมิยังไม่รู้ว่าเรื่องที่ เขาไปมีอะไรกับนรมลนั้นได้ถูกนรมนนำมาบอกกับจริ นทร์ตั้งนานแล้ว

“ยังต้องการเหตุผลอะไรอีกเลิกก็คือเลิกจะเหตุผล อะไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริงนี้ได้”จรินทร์ขึ้ เกียจที่จะดึงมือคืนจากจตุภูมิ

“จรินทร์คุณอย่าทำแบบนี้ผมรักคุณนะคุณบอกว่า อยากจะคุณอยู่ก็อยู่คุณบอกว่าอยากจะไปคุณก็ไปคุณ เคยคิดถึงความรู้สึกผมบ้างไหมผมก็คนนะไม่ใช่หุ่นเชิด ที่คุณจะทำอะไรก็ได้”จตุภูมิเห็นจรินทร์ทำแบบนี้ก็นึก โกรธขึ้นมา
“คุณยังมีหน้ามาพูดกับฉันเรื่องความรู้สึก?ทำไมฉัน ถึงบอกเลิกกับคุณคุณจะไม่รู้สักนิดเลยงั้นหรอถ้าคุณ ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อฉันจู่ๆฉันจะบอกเลิกคุณไหม?”จริ นทร์เน้นย้ำทุกคำ

นัยน์ตาของจตุภูมิมีประกายหวนคิดไปถึงเรื่องของ เขากับนรมนแต่เรื่องนี้เขาแน่ใจว่าจรินทร์ไม่มีทางรู้ แน่นอน

“ผมทำเรื่องอะไรผิดงั้นหรือคุณพูดมันออกมาให้ ชัดเจนสิ”จตุภูมิตะคอก”ในช่วงปิดเทอมคุณโทรมาบอก เลิกผมหลังจากนั้นก็ตัดขาดการติดต่อทุกช่องทางผม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณอยู่ที่ไหนคุณไม่ให้โอกาสผมอธิบาย อะไรเลยคุณจะไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะจรินทร์”

“จตุภูมิคุณมันไร้ยางอายที่สุดคุณคิดว่าฉันไม่รู้หรอ ว่าคุณทำอะไรไว้ถึงได้มายืนตำหนิเรียกร้องความรับ ชอบผิดต่อหน้าฉัน?”จรินทร์หน้าอกกระเพื่อมอย่าง รุนแรงก็ไม่รู้ว่าศีรษะโดนแดดเผาหรือว่าโดนจตุภูมิ ทำให้โกรธกันแน่

“ผมทำอะไรงั้นหรอ?”จตุภูมิถาม

จรินทร์จ้องเขา “เราเลิกกันไปแล้วพวกเราจบกันด้วยดี จะดีกว่านะฉันไม่อยากพูดออกมาให้คุณเสียหน้าคุณก็ อย่ามาถามเหตุผลที่เลิกกันอีกเลย”

เธอพูดจบก็ทำท่าจะเดินจากไปมันไม่มีประโยชน์ อะไรที่จะพูดกับจตุภูมิช่างเสียเวลาจริงๆ
“คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ! “จตุภูมิดึงข้อมือของจรินทร์ ไว้”เลิกกันอะไรจบกันด้วยดีอะไรผมจะบอกคุณนะจริ นทร์ถ้าหากคุณไม่บอกให้ชัดเจนยังไงผมก็ไม่ยอม เลิก!

“ก็ดี! “จรินทร์ตะคอกกลับ”งั้นวันนี้ฉันจะบอกคุณให้ ชัดเจนไปเลยแล้วกันที่ฉันเลิกกับคุณก็เพราะฉันคิดว่า คุณมันสกปรก! ตอนที่ไปนอนกับนรมนคุณเคยคิดบ้าง ไหมว่ายังมีฉันเป็นแฟนอยู่น่ะ

เธอมองจตุภูมิในตอนนี้ก็อดคิดไปถึงหน้าไร้ยางอาย ของนรมนไม่ได้เธอไม่ตบจตุภูมิสักครั้งก็นับว่าเธอมี จิตใจเมตตาที่สุดแล้ว

เมื่อได้ยินชื่อของนรมนจตุภูมิก็ปล่อยข้อมือของจริ นทร์เหมือนโดนของร้อน

“เอาอย่างนี้ไหมจตุภูมิคุณก็รู้แล้วว่าฉันโกรธฉันพูดว่า เลิกก็คือเลิกจริงๆไม่มีการอาวรณ์ใดๆกับคุณทั้งนั้นหลัง จากนี้ก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะอย่าเอาหน้าน่ารังเกียจมาให้ฉัน เห็นอีก”จรินทร์ถอนหายใจ

สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของหัวใจและความรู้สึกในตอน นี้ต้องทำใจแข็งขุดหัวใจขึ้นมาพูดไม่ได้ว่ามันไม่เจ็บ

แต่จรินทร์ก็ไม่ใช่ว่าจะมองคนไม่ออกเธอกับจตุภูมิ ไม่มีชะตาต่อกันไม่สามารถที่จะปล่อยให้ผูกพันก่อนต่อ ไปได้มันไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย
เธอไม่ตำหนิจตุภูมิแต่เธอก็ไม่อาจให้อภัยเขาได้เช่น กันมันเป็นจุดจบที่ดีที่สุดถ้าหลังจากนี้เราจะกลายเป็น คนแปลกหน้าต่อกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ