บทที่ 9 สื่อมวลชนกุข่าวเท็จ
“ฉัน…” ริมฝีปากเธอสั่นริกๆ ในสมองเหมือนกำลังถูก ควบคุมด้วยบางอย่าง “ฉันอยากจะขอโทษคุณเรื่องเมื่อ วาน”
เธออยากจะอธิบายบางสิ่งบางให้เขาเข้าใจ แต่กลับ ถูกขัดจังหวะจากใครบางคน
“รีบหาเร็วเข้า กมิดาอยู่ไหน”
เสียงดังที่ไกลออกไปไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาอย่างรีบ ร้อน ฝูงนักข่าวที่ต่างก็ถือกล้องและไมโครโฟนแห่เข้า มาจากทั่วสารทิศ
กมิดาตกใจกลัว รีบคว้าแขนชายที่ยืนอยู่ข้างๆเข้ามา บัง เธอยืนนิ่งเพื่อหลบฝูงนักข่าวที่วิ่งวนอยู่รอบๆ
ปริพลขมวดคิ้วคล้ายตัวอักษร (JII) ทำให้ดวงตาของ เขาดูลึกขึ้นไปอีก
ทั้งสองคนถูกล้อมอย่างรวดเร็วตรงหน้าประตูร้าน กาแฟแห่งนี้ ทั้งคนที่ผ่านไปมาที่เข้ามุงดูด้วยความ สนใจ
“คุณจิ้น ได้ยินมาว่าเมื่อวานตอนดึกคุณกับผู้ชายคน หนึ่งโอบกอดกันอยู่แถวร้านขายยา ไม่ทราบว่าเป็นเรื่อง จริงหรือไม่คะ?”
“พนักงานในร้านขายยาบอกว่าคุณซื้อที่ตรวจครรภ์ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณกำลังท้องหรือเปล่าคะ ?”
แสงแฟรชกล้องถ่ายรูปจากทุกสารทิศกำลังถ่ายเธอ อย่างไม่มีท่าทีจะหยุด แสงไฟที่สาดเข้าที่ตาทำให้กมิ ดาไม่สามารถลืมตาได้ อีกทั้งมีคำถามที่ใช้ถ้อยคําคอย ทิ่มแทงแก้วหูของเธออย่างนับไม่ถ้วน
“ได้ยินมาว่าทางบีไวส์ต้องการจะให้คุณเล่นเรื่องเจ้า สำนักชิงฉุน….ต่อจากญาดา แต่เวลานี้คุณกลับจับมือ ออกเดทกับผู้ชาย ตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณกำลังมีเรื่อง หมางใจกับทางบริษัทหรือไม่”
คำถามจากผู้สื่อข่าวหลายสำนักทั้งรุนแรงและตรงไป ตรงมา กระทบจิตใจกมิดาอย่างรุนแรง เธอกะพริบตา ไม่หยุดเพราะแสงแฟรช ทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือด และขาอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง
“เอ่อ ฉัน…” เธอควรจะพูดอย่างไรดี
เธอไม่คิดว่าพวกนักข่าวจะไล่ล่าเธอขนาดนี้ เหมือน กับงูที่คอยไล่กัดเธอไม่ปล่อย
นักข่าวกลุ่มนี้ใช้เวลาเพียงสั้นๆไม่กี่สิบวิในการใช้ คำถามไต่สวนเธอ มือของลูปริพลยังคงวางบนเอวขอ งกมิดา เขาสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างจึงรีบ กระชับตัวเธอแน่น ริมฝีปากเริ่มเกร็ง
ในช่วงเวลาแบบนี้เขาสามารถเลือกที่จะปล่อยผู้หญิง คนแล้วเดินจากไป แต่นี่ไม่ใช่วิถีของสุภาพบุรุษ
ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดมองไปรอบๆ แล้วพูดอย่าง เยือกเย็น “พอได้แล้ว”
แม้ใบหน้าโค้งอันสมบูรณ์แบบของเขาถูกบดบังด้วย แว่นกันแดดแต่ก็ไม่อาจปกปิดความเย็นชา และอารมณ์ ครุกครุ่นที่ทำให้คนไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาได้
เสียงทุ้มลึกดังขึ้นมา ทำให้นักข่าวเปลี่ยนความสนใจ
ทันใดนั้นเลนส์ก็หันไปทางปริพล
“คุณคือแฟนหนุ่มของกมิดาหรือเปล่าคะ? ไม่ทราบว่า พวกคุณสองคนเริ่มคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตอนนี้กมิดากำลังตั้งท้องจริงหรือไม่ครับ รบกวน ช่วยตอบหน่อยครับ”
“คุณเคยเห็นกมิดาแสดงละครหรือเปล่าคะ เธอเป็น อย่างไรบ้างตอนอยู่บนเตียง
คำถามที่หยาบคายและเปิดเผยอย่างนี้ทำให้ปริพลไม่ พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อคนที่อยู่ในอ้อมแขนของ เขาตัวสั่นและใบหน้าของเธธซีดลงเรื่อย
“แม้จะเป็นนักข่าวกอสซิบ แต่ก็ช่วยมีสติสักหน่อย ผม ไม่มีทางที่จะตอบคำถามน่าเบื่อเหล่านี้
ในขณะเดียวกันก็มีรถแลนด์โรเวอร์สีดำกำลังจอดอยู่ ถนนฝั่งตรงข้าม คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์ที่กำลัง ลงมาจากรถด้วยความช่วยเหลือของคุณแม่บ้าน เธอ มองไปที่ตัวอักษรบนแผ่นโลหะสีทอง “Diffuse Coffee Cafe”
เธอพยักหน้าอย่างพอใจ ไม่ผิดแน่ ที่นี่สินะ
“เอ๋ ทําไมคนถึงได้เยอะขนาดนี้” ขณะที่กำลังเดิน เข้าไป คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์ขมวดคิ้วพลางขยับ กรอบแว่นตาราวกำลังคิดอะไรบางอย่าง
เธอกำลังคิดว่านักข่าวกลุ่มนั้นกำลังรุมล้อมใครอยู่ อีก ทั้งยังคงถ่ายรูปไม่หยุด
หรือคนที่กำลังถูกนักข่าวล้อมคือ…
คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์เบิกตากว้างอย่างลืมตัว
ท่ามกลางนักข่าว ความสูงราวๆร้อยเจ็ดสิบกว่า ซึ่งน่า จะสูงพอๆกับปริพลที่สูง 176 ซม.
ดังนั้นเธอจึงมองหาคนที่เธอคุ้นเคยในฝูงนักข่าว ใช่ แล้วนั่นคือหลานชายสุดที่รักของเธอ
เธอพยายามกระโดดและชะโงกหัวดูอย่างยากลำบาก และพบว่าภายในอ้อมแขนของปริพลกำลังโอบ ร่างเล็กกะทัดรัดอมชมพู
ทันใดนั้นเธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้ค้นพบทวีปใหม่
เธอเดาว่าผู้หญิงคนนั้นคือหลานสะใภ้ของเธอ เพราะไม่อย่างงั้นเธอจะได้รับการปกป้องจากปริพล งั้นหรอ
เธอไม่เคยลืมว่าหลานชายสุดที่รักของเธอรักความ สะอาดขนาดไหน เขามักจะหลีกเลี่ยงสัมผัสตัวกับพวก ผู้หญิง
คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์จึงรีบเขย่ามือคุณแม่บ้าน ที่คอยยืนอยู่ข้างๆเธอถามด้วยความแปลกใจ “ทำไมคน สมัยนี้มีความรักถึงต้องโดนแอบถ่ายกันด้วยนะ”
ลุงแวดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอให้ความเห็นว่า “ฉันคิด ว่าอาจจะเป็นเพราะเป็นชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงคบหากับ หญิงสาวคนไหน ก็เป็นที่สนใจของผู้คนยากที่จะเลี่ยง ได้”
คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์เริ่มเข้าใจสถานการณ์
“อ้อ ช่างยุ่งยากอะไรขนาดนี้ รีบไปดูก่อนดีกว่า” เธอ พูดแล้วรีบเดินพุ่งตัวไปทางปริพลยืนอยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ