รักมากเปรียบเสมือนดั่งไร้รัก

ตอนที่ 7 ตำาหนักเหลิ่งกง



ตอนที่ 7 ตำาหนักเหลิ่งกง

ข้าได้ยินมาว่าหลิ่วเอ๋อได้รับความรักใคร่อย่างสุดซึ้ง แม้แต่ตำหนักยู่เฉียนก็สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ และได้ยินอีกว่า ลู่เซียวเข้าใจว่านางมิถูกกับอากาศ หนาวเย็น เขาจึงประทานห้องที่ทำจากไม้สักให้แก่นาง เผื่อวันใดที่ลมแรงเกินควบคุม อีกทั้งยังได้ยินว่าลู่เซียว เฝ้าคำนึงถึงตำหนักฉางชวนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้แต่ ยามเช้าตรู่ก็มิเว้น

เขามเสด็จมาที่พระตำหนักจาวเหอของข้าอีกเลย

ครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่ ก็ผ่านไปนานนับเดือนแล้ว ในที่สุดที่นี่ก็กลายเป็นพระตำหนักเหลิ่งกงอย่างที่ข้า ปรารถนา

หิมะที่ขาวราวกับขนห่านสาดกระเซ็นลงมาครั้งแล้ว ครั้งเล่า มันทับถมจนมีความหนาถึง 2 ฟุต ร่างกายของ ข้าหนาวสั่น จนมิอยากจะลุกออกไปจากเตียงตลอดทั้ง วัน

เพลานั้นเสียงพูดคุยของคนรับใช้หญิงในวังดัง เล็ดลอดเข้ามา คะเนว่าพวกนางคงจะคิดว่าข้าหลับ ไปแล้ว จึงแอบอู้งานพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ที่มุมของ กำแพง

“นี่พวกเจ้าว่าคืนวันที่ต้องคอยวิตกกังวลเช่นนี้ของ พวกเราจะถึงจุดสิ้นสุดเมื่อใดกัน? เหตุใดข้ารู้สึกว่า ตำหนักเจาเหอแห่งนี้ นับวันจะยิ่งคล้ายกับตำหนักเหลี่งกงขึ้นเรื่อยๆ!”

“ก็ใช่น่ะสิ! ตั้งแต่ที่ฮ่องเต้มเสด็จมาที่นําหนักจาวเหอ แห่งนี้ ข้าออกไปที่ใดก็รู้สึกถึงสายตาที่แปลกประหลาด ของผู้คน แม้แต่คนในสำนักงานรัฐก็กล้าที่จะมองหน้า พวกเรา!”

“นี่ ผู้ใดก็รู้ว่าเพลานี้พระฮองเฮาองค์ใหม่กำลังได้รับ ความโปรดปราน ผู้คนเหล่านั้นจึงรีบแจ้นไปประจบประ แจงที่ตำหนักฉางชวนล่ะสิ ผู้ใดจะมีเวลามาสนใจพวก เราอีกเล่า! ”

“พระตำหนักฉางชวนน่ะหรือ ก็ธรรมดาสามัญนั่น แหละ… ข้าว่ายังมิดีเท่าพระตำหนักจาวเหอของพวกเรา ด้วยซ้ำ”

“เจ้าจักไปรู้อันใด ฉางชวน…ความหมายก็คือฉางชวน สี่ฤดูกาล เจ้าว่ามันมิได้มีความหมายแฝงว่าพระฮองเฮา องค์ใหม่จักได้รับความโปรดปรานที่มิมีวันหมดหรือ? พวกเจ้ารู้หรือไม่ เขาร่ำลือกันว่าฮองเฮาองค์ใหม่….

ข้าเอนตัวไปด้านหน้าเพื่อจะฟังให้ละเอียด แต่น่า เสียดายที่พวกนางยังมิทันเอ่ยจบ ก็ถูกขัดจังหวะด้วย น้ำเสียงที่โกรธเคืองของผู่เชว่ “พวกเจ้ามาพูดเพ้อเจ้อ เรื่อยเปื่อยอันใดกันอีก? หรือว่ากินอิ่มแล้วก็ไม่มีอันใด จะทำ เดี๋ยวข้าจะนำเรื่องนี้ไปรายงานต่อพระสนมเอก ให้พระองค์หักปากเปราะๆของพวกเจ้าทิ้งไปให้หมด เสีย!”
เมื่อข้าได้ยินเสียงขอความเมตตาที่ไม่ค่อยชัดเจน เท่าใดนักดังมาจากด้านนอก ข้าก็ถอนหายใจออกมา พลางเปลี่ยนท่าทางพร้อมกับนอนลง พลันฟูเชว่ก็ดึงผ้า ม่านให้เปิดออกแล้วก้าวเข้ามาด้านใน

เมื่อเห็นว่าข้ายังมิหลับ นางก็ตะลึงงันไปชั่วครู่ ก่อนจะ กลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว “พระนางสนมเอกเพคะ วันนี้อากาศหนาวยิ่งนัก ข้าน้อยจึงตุ๋นโจ๊กรังนกมาให้ ท่าน พระองค์รีบเสวยตอนที่มันยังร้อนเกิดเพคะ”

ข้ายืดตัวขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปรับซุปรังนก พลางส่ง ยิ้มให้นาง จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างไม่เป็นทางการว่า “เหตุใดเมื่อครู่นี้เจ้ามิปล่อยให้พวกนางเอ่ยต่อให้จบ เล่า”

ฝูเชว่นำผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้ข้า พลางเอ่ยด้วยความ อึดอัดใจ “พระนางสนมเอกมิต้องไปฟังหรอกเพคะ พวก นางก็เอ่ยเพ้อเจ้อไปเรื่อย ข้าน้อยดูออกเพคะ ว่าในใจ ของฮ่องเต้ยังคงมีพระองค์ รอให้ผ่านเพลานี้ไปฮ่องเต้ แอบ…”

ทันใดนั้นข้าก็รู้สึกคลื่นไส้ อีกนิดเดียวก็ทำถ้วยโจ๊ก ในมือของตนคว่ำ แต่โชคดีที่สายตาของฝูเชว่นั้นว่องไว นางเอื้อมมือมารับไว้ทัน จากนั้นจึงช่วยลูบหลังให้แก่ข้า “พระนางสนมเอก มิเป็นอันใดใช่หรือไม่เพคะ? หรือเป็น เพราะโจ๊กรังนกนี้…

เอ่ยได้เพียงเท่านี้ นางก็หยุดชะงักวาจาลง ดวงตา ของนางก็ตกตะลึง
“พระนางสนมเอก…นี่พระองค์…”

ฝูเว่เป็นข้าราชบริพารที่ใกล้ชิดกับข้ามากที่สุด ข้า คิดว่านางจะต้องรู้อย่างแน่นอน ว่ารอบเดือนของข้ามิมา เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ก่อนหน้านี้ทุกๆครั้งนางจะเป็นผู้ยกยาป้องกันบุตรมา ให้ข้าด้วยตนเอง เว้นเสียแต่เดือนที่แล้วที่ข้ายั่วโมโหลู่ เชียว!

ข้ามิคาดคิดว่าเพียงครั้งนั้นครั้งเดียว จะทำให้ข้าตั้ง ครรภ์ได้

จิตสำนึกของข้าสั่งให้ข้าจับมือของฝูเชว่อย่างรวดเร็ว ข้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างปิดไม่มิด “อย่าบอก เขาเป็นอันขาด! ฝูเชว่ บอกเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาด! นางรู้ว่า ‘เขา’ ที่ข้าเอ่ยถึงคือผู้ใด

ข้ารู้ว่าผู่เชว่คือคนของลู่เซียว และข้าก็รู้อีกว่าอย่างไร เสีย ลู่เซียวก็คงมิยอมให้ข้าคลอดบุตรของเขาออกมา อย่างเด็ดขาด!

ฝูเชว่มองมาที่ข้าด้วยไม่รู้จะทำเช่นไร “พระนาง สนมเอก….”

ในเพลานั้น ก็มีเสียงประกาศดังเข้ามาจากที่ด้านหน้า ประตู “พระสนมเอกเพคะ หมอหลวงหูมาวัดชีพจรของ พระองค์เพคะ เพลานี้เขารออยู่ที่หน้าประตูแล้วเพคะ”

หมอหลวงหู! ข้าเงยศรีษะขึ้นพลางจ้องมองไปยังใบหน้าของฝูเชว่ ที่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ