รักมากเปรียบเสมือนดั่งไร้รัก

ตอนที่ 3 นําข้าไปประหารชีวิต



ตอนที่ 3 นําข้าไปประหารชีวิต

ผู้คนล้วนรู้ว่านิสัยของข้านั้นอ่อนโยน มิหือมิอือกับผู้ ใด แต่กลับมีน้อยคนนักที่รู้ว่าข้าชอบถือหางพรรคพวก ของตนอย่างที่สุด

ก่อนหน้านี้นางสนมนางนั้นคงประเมินว่าข้าคือลูกพลับ ที่อ่อนปวกเปียก คงมิคิดว่าข้าจะตบหน้านางด้วยตนเอง แต่คะเนว่าเป็นเพราะยศฐาของข้า นางจึงมิกล้าเอ่ยอัน ใดออกมา ทำเพียงกอบกุมใบหน้าพลางชำเลืองมองข้า

ฝ่ามือของข้าเมื่อครู่ ออกแรงไปมิน้อยเลยทีเดียว

“ซูซิงหลี!” หลินหลิ่วเอ๋อหน้าถอดสี นางชี้มาที่ปลาย จมูกของข้า พลางมองข้าด้วยสายตาที่ยากจะเชื่อ “เจ้า! นี่เจ้ากล้าตบหน้าคนของข้าต่อหน้าข้าเช่นนี้เชียวหรือ?”

หลักการที่ว่าตีสุนัขต้องดูเจ้าของนั้นข้ารู้ดี แต่ทว่าถ้า หากสุนัขตนนั้นมากัดคนของข้าก่อน ข้าก็มีจำเป็นต้อง เกรงใจ

ข้ายิ้มพลางย่อตัวแสดงความเคารพหลินหลิ่วเอ๋ออีก ครา “พระฮองเฮาสั่งสอนบุคคลใต้ฝ่าพระบาทให้รู้จัก ถ่อมตนและเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่น่าเสียดายที่นาง ใต้บัญชาของพระองค์มิได้ปฏิบัติตาม ชิงหลีกำลังช่วย ทำให้พวกนางจดจำไปอีกแสนนาน ว่าภายหลังเมื่อออก ไปที่ใด ถ้าหากมิระวังคำพูดหรือการกระทำเช่นนี้อีก จัก เป็นการทําลายชื่อเสียงของอันดีงามของพระฮองเฮา เพคะ”
ข้าคิดว่าคำพูดบทนี้ของข้ามิได้มีรอยรั่วเลยแม้แต่ น้อย ถึงแม้ว่าหลินหลิ่วเอ๋ออยากจะหาเรื่องข้าต่อ ก็ไม่รู้ จะสรรหาคําใดมา แต่ทว่าคำพูดของข้าเพิ่งจะเอ่ยจบ ก็

มีเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังมาจากที่ด้านหลัง “ เหตุใดก่อนหน้านี้ข้าจึงมิเคยพบว่าหลีเฟยของข้า

เป็นผู้ที่หยิ่งผยองและชอบต่อล้อต่อเถียงเช่นนี้”

ทุกคนรีบคุกเข่าลงเป็นพัลวัน “ทรงพระเจริญยิ่ง

ยืนนานเพคะใต้ฝ่าพระบาท!”

พลันร่างกายที่แข็งทื่อของข้าก็คุกเข่าลงครึ่งตัว มี ความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท!”

ลู่เซียวเดินผ่านข้ามุ่งตรงไปยังหลินหลิ่วเอ๋อพลาง พยุงนางให้ยืนขึ้น พร้อมเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อน โยน “พระฮองเฮา เจ้ามิจำเป็นต้องสุภาพ ลุกขึ้นเถิด”

แต่หลินหลิ่วเอ๋อกลับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว รักษา ระยะห่างของตนกับลู่เซียว หลังจากนั้นจึงคุกเข่าลง พลางเอ่ย “ฝ่าบาทได้โปรดลงโทษหม่อมฉันด้วยเถิด เพคะ หม่อมฉันเกรงว่าหม่อมฉันคงจะทำหน้าที่ฮองเฮา มิได้แล้วเพคะ”

ลู่เซียวตะลึงงัน พลางเปรยตามาที่ข้าแวบหนึ่ง “ เหตุ ใดเจ้าจึงเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา?”

หลินหลิ่วเอ๋อเงยหน้าขึ้น พลันหยดน้ำตาก็ไหลลงมา ราวกับเม็ดฝน แสดงจนข้ารู้สึกสงสาร “ นางสนมเอกในวังของพระองค์ช่างกำเริบเสืบสานยิ่งนัก เมื่อนางพบ หม่อมฉันมิเพียงแต่มิทำความเคารพ อีกทั้งยังทำร้ายข้า ราชบริพารของหม่อมฉันอีก ต่อหน้าหม่อมฉันพระนาง สนมเอกยังกำแหงถึงเพียงนี้ ฮองเฮาอย่างหม่อมฉัน รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักเพคะ”

ประโยค “รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก” ของนาง คืออดไม่ได้ที่ จะฟ้องเรื่องราวแก่พระองค์อยู่ใช่หรือไม่

ข้าคิดว่าลู่เซียวคงจะรู้ว่าข้าไม่ใช่ผู้ที่ก่อเรื่องวุ่นวาย อย่างไร้เหตุผล ก็เลยมิได้คิดที่จะอธิบายอันใด ข้าคิด ว่าเขาคงจะปกป้องฮองเฮาด้วยการกล่าวติเตียนข้า เพียงสองสามประโยคเท่านั้น แต่คาดมิถึงว่าเขาจะหัน หน้ามาออกเสียงรับสั่งข้าด้วยสายตาที่แข็งกร้าวและน้ำ เสียงที่ดุดัน

“คุกเข่าหมอบลงบัดเดี๋ยวนี้!!”

ลำตัวของข้าแข็งทื่อ เงยหน้าขึ้นมองไปยังเขา ราว กลับฟังไม่ค่อยชัดเจน “ว่าอย่างไรนะเพคะ?”

ลู่เซียวมองเข้ามาในดวงตาของข้า ความอดทนของ เขากำลังเหลือน้อยลงเต็มที “ข้ามิอยากเอ่ยเป็นครั้งที่ สอง!”

เขาต้องการปกป้องหลินหลิ่วเอ๋อ โดยการนำข้าไป ประหารชีวิตอย่างใจจืดใจดำอย่างนั้นหรือ?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วในคืนเข้าห้องหอเมื่อคืนวาน เขาจะแอบหนีมาที่นําหนักของข้า แล้วปล่อยนางทิ้งไว้คน เดียวเพื่อเหตุใดกัน?

พลันอารมณ์ของข้าก็ประตูออกมาเช่นเดียวกัน ไม่ว่า จะเป็นความเย่อหยิ่งหรือความไม่เกรงกลัว ข้ายืดตัว ตรงพลางมองไปยังเขา “ หม่อมฉันปวดขาเรื้อรัง ฝ่า บาทเคยรับสั่งเป็นพิเศษว่าหม่อมฉันมิต้องคุกเข่าหมอบ ให้ผู้ใดในวังแห่งนี้”

ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในวังเป็นเวลาเจ็ดปี แม้แต่ลู่เซียว ข้าก็มิเคยคุกเข่าให้ ผู้คนในวังล้วนรู้ดีว่าข้าคือผู้ที่มี บทบาทอย่างไรในใจของลู่เซียว ดังนั้นตั้งแต่ที่ข้าได้รับ ความโปรดปรานที่มากกว่าผู้อื่น ก็มิมีผู้ใดกล้าทำให้ข้า ลำบากใจอีกเลย

“หลีเฟยนางนี้ช่างกำเริบเสืบสานยิ่งนัก แม้แต่วาจา ของพระราชาก็มิฟัง” หลินหลิ่วเอ๋อมองข้าอย่างเย้ย หยัน เมื่อเอ่ยฉีกหน้าข้าจบแล้ว ยังมิลืมที่จะหันไปเส แสร้งกับลู่เซียว “พระราชาเพคะ วันนี้หม่อมฉันเพิ่งจะ ได้รับตำแหน่งฮองเฮาเพียงแค่วันเดียว พระองค์ดูเถิด เพคะ…”

“ซูซิงหลี!! ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ข้าคงจะดีกับเจ้าเกิน ไป” ลู่เซียวจ้องมองข้าด้วยใบหน้าที่เย็นชา

เขาเอ่ยเพียงเท่านี้ มิจำเป็นต้องรับสั่งอีกรอบ พลันก็มี ผู้อยู่ภายใต้บัญชาของเขาสองนายเดินเข้ามา พลางจับ แขนข้าไว้คนละข้าง
เต็มทีข้าก็ไม่ได้ต่อต้าน พวกเขาใช้กำลังเพียงเล็ก น้อย ข้าก็ถูกกระแทกลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้นหิมะที่หนาว

ความเย็นยะเยือกที่วิ่งผ่านกระดูกเข้ามา บวกกับ ความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด แทรกซึมเข้าสู่ร่างทั้งร่าง ของข้าอย่างฉับพลัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ