ตอนที่ 3 ดูเหมือนชายชรากำลังมา
2 ปีต่อมา
ณ ร้านกาแฟสตาบัคบนถนนปัน ว W(Bahnhofstrasse)
แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องสว่างเพียงครึ่งท้องฟ้า หยาง เมิ่งฉีเปลี่ยนเป็นชุดทำงานพร้อมด้วยท่าทีที่ขยันขัน แข็งพร้อมที่จะเริ่มงาน
เธออยู่ที่ซูริคมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ค่าครองชีพที่นี่ค่อน ข้างสูง เธอจําต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าใช้ จ่ายพื้นฐานที่สุดในการดำรงชีวิต
รุ่นพี่ของเธอจึงแนะนำร้านกาแฟแห่งนี้ให้ เธอทำงาน ในตำแหน่งพนักงานเก็บเงิน สำหรับนักเรียนทุนสาขา เศรษฐศาสตร์แล้ว เป็นเรื่องที่สบายมาก
เวลา 1 ทุ่มตรง เป็นเวลาที่ร้านกาแฟขายดีที่สุด มีคน มาเข้าคิวต่อแถวรอกาแฟ 7-8 คน
“บลูเมาน์เทนท์หนึ่งแก้วค่ะ กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลหนึ่ง แก้วค่ะ”
ชายชราที่ยืนตรงข้ามเธอสั่งเป็นภาษาจีน เธอพยัก หน้าตอบรับ ยิ้มแย้มตอบรับไป : “ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่ นะคะ”
คนที่มาดื่มกาแฟที่ร้านนี้ครึ่งหนึ่งเป็นคนต่างชาติ นี่ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดสำหรับเธอ เพราะสามารถช่วย บรรเทาความรู้สึกเหงาที่มาอาศัยอยู่ในต่างถิ่นต่างแดน ภายในใจของเธอได้
“ทั้งหมด 95 ฟรังก์สวิสค่ะ”
ในขณะที่รอชายชราจ่ายเงินอยู่นั้น สายตาของเธอ เหลือบมองที่ไปลูกค้าที่ต่อแถวอยู่ด้านหลัง ทันใดนั้น ร่างเงาอันหล่อเหลาร่างหนึ่งสะดุดสายตาเธอเข้า
“กรุณาทอนเงินด้วยครับ” ชายชรายื่นธนบัตรฟรังก์ส วิสมุลค่า 100 ให้เธอ
สายตารีบตามติดร่างเงานั้นที่เดินออกจากร้านกาแฟ ไป ช่วงเวลานั้นเธอตกอยู่ในภวังค์ ละทิ้งหน้าที่ที่อยู่ตรง หน้าไปโดยสิ้นเชิง
“คุณครับ ผมกำลังรีบนะครับ”
ชายชราเตือนสติ เธอดึงสติกลับมา พยักหน้าพร้อม คำขอโทษ : “ขอโทษด้วยนะคะ จะทอนเงินให้เดี๋ยวนี้ ค่ะ”
ร่างเงาเมื่อชั่วครู่นั้นถึงแม้จะเป็นคนแปลกหน้าแต่ก็ รู้สึกคุ้นเคย ราวกับว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน สมอง ของเธอตอนนี้สับสนไปหมด จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับ เนื้อกับตัว
แต่ว่าความรู้สึกคุ้นเคยที่ไม่เคยมีมาก่อนกลับยิ่ง ชัดเจนมากขึ้น เธอนึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมาได้ทันที ขยับ ขารีบวิ่งตามไปทันที นำมาซึ่งเสียงร้องตะโกนเรียกไม่ หยุดจากลูกค้าที่กำลังเข้าแถว…..
“เมิ่งฉี คุณทำอะไรน่ะ?
ผู้จัดการร้านจ้าวลี่น่าหยุดเธอเอาไว้ ชี้ไปที่เคาน์เตอร์ เก็บเงิน : “เธอกำลังอยู่ในหน้าที่รู้ไว้ซะด้วย!
“พี่สาว คุณช่วยทำแทนฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันมีเรื่อ งด่วนน่ะค่ะ เดี๋ยวกลับมา”
พูดจบเธอก็รีบสาวเท้าก้าวออกไป ขณะที่เธอยืนอยู่ ริมถนนที่พลุกพล่าน รถราทั้งใหญ่และเล็กจอแจเต็ม ถนนตรงหน้าเธอ แต่ร่างเงานั้นกลับหายลับไปจาก สายตาราวกับลมพายุในความทรงจำ……..
เป็นเพียงภาพลวงตาหรือ? ทำไมหลังจาก 2 ปีจนถึง วันนี้ เธอเพิ่งจะเห็นภาพลวงตาก็วันนี้เอง?
เธอกลับไปที่เคาน์เตอร์เก็นเงินด้วยความผิดหวัง ปรับ เปลี่ยนทีท่าโดยสิ้นเชิง ต้อนรับลูกค้าทุกคนด้วยใบหน้า อันยิ้มแย้มอีกครั้งหนึ่ง
ใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว จ้าวลี่น่าเดินเข้ามาใกล้เธอ ถามอย่างมีนัยยะว่า : “นักบัญชีผู้ซื่อสัตย์ เมื่อตอนเย็น ทำไมจู่ๆวิ่งออกไปซะละ?”
เธอก้มหน้าก้มตาไม่กล้าบอก : “ไม่มีอะไรค่ะ คลับ คล้ายคลับคลาว่าเจอคนที่รู้จักค่ะ”
“หานจวิ้นซือใช่ไหม?”
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยอาการอึ้งพร้อมกับสีหน้าที่ตก ตะลึง : “พี่สาวคะ คุณรู้จักเขาด้วยหรือ?”
“ฉันจะไปรู้จักได้ยังไงล่ะ ก็แค่ชื่อคุ้นหูน่ะ พวก พนักงานในร้านนี้คลั่งไคล้เขาจะตายไป ไม่ใช่เธอ คนแรกหรอกที่เจอเขาแล้วควบคุมตัวเองไว้ไม่ได้ ดัง นั้นเธอสบายใจได้เลย ฉันไม่บอกเถ้าแก่หรอก เพียง แต่…………….”
จ้าวลี่น่าตั้งใจหยุดกลางคัน แกล้งแซวเธอว่า : “คราว หน้าถ้าเจอหนุ่มหล่ออีก สงบสติอารมณ์ให้ดีก็แล้วกัน”
“พี่เข้าใจผิดแล้วค่ะ ความจริงคือ…..
หยางเมิ่งฉ่อยากจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ให้เธอฟัง แต่จ้าวลี่น่าหยุดเธอไว้กะทันหัน : “พอแล้ว ไม่ ต้องอธิบาย ฉันเข้าใจ”
พูดจบ เธอแกล้งทำเป็นปิดหู พูดทีเล่นทีจริงว่า : “ขอ เตือนเธอไว้ด้วยความจริงใจ เธอจะเชื่อหรือไม่ก็แล้ว แต่ : อย่าคิดอะไรกับเขาเลยจะดีกว่า เขาไม่เคยเหลียว ตามองผู้หญิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ