ตอนที่ 5 เกลียดอะไรได้อย่างนั้น
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเต้นรำ ทั้งหมดเป็น เพราะการมาถึงของจรีภรณ์และทำให้ทุกคนต่างฮือฮา
ไม่นานก็มีผู้ชายเข้ามาทักทายสวัสดีจรีภรณ์ จนไป ถึงบางคนก็เข้ามาถามเรื่องส่วนตัวของเธอ
จรีภรณ์ยิ้มอย่างเก้อเขิน งานนี้ช่างไม่เหมาะกับเธอ เสียจริง ถึงแม้จะบอกว่าในอดีตจิรภาสไม่ค่อยพาเธอ มาออกงานแบบนี้ แต่ เขาก็ปกป้องเธอสุดฤทธิ์
ไม่เหมือนกับนายชนุตต์ผู้นี้ เอาเปรียบทุกอย่าง เธอ คิดว่าเขาจะถูกชนุตต์ฆ่าตายไปแล้ว
ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หน้าอกเอวและก้นล้วนแต่ก็ ถูกชนุตต์ลูบคลำ
สิ่งนี้ทำให้จรีภรณ์เกิดอาการเสียสติไปนิดหน่อย เธอรู้สึกเสียใจด้วยซ้ำว่าทำไมเธอถึงต้องมาเข้าร่วมงาน เต้นรำแบบนี้กับเขาด้วย
“ท่านคะ ถ้าท่านแบบนี้อีก ดิฉันขอตัวกลับนะคะ ถึง เวลานั้นคนที่ถูกทิ้งก็คือท่านนะคะ” จรีภรณ์อดไม่ได้ที่ จะแสดงสีหน้าโกรธ เป็นฟืนเป็นไฟออกมา
“โอเค ฉันกำลังจะจองห้องชุดแบบเพรสซิเดนที่ แชงกรีล่าพอดี ถ้าเธอรีบจริงๆ ฉันก็จะทำมันได้อย่างไม่ เต็มที่นะ”
“ขอโทษค่ะ งั้นฉันจะไปเข้าห้องน้ำ
จรีภรณ์ไม่รอให้ชนุตต์พูดจบ ก็รีบตัดบทโดยทันที พร้อมกับกลับหลังเดินไปทางห้องน้ำ
ตอนอยู่ต่อหน้าชนุตต์ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่บน ใยฝ้าย ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เขาก็จะสีหน้าท่าทางที่ยิ้ม แย้มตลอด สิ่งนี้ทำให้ จรีภรณ์ไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น
“สาวน้อย” ชนุตต์มองที่จรีภรณ์ตอนที่เธอรีบหนี ออกจากเขาและเขาเองก็งงนิดหน่อย แล้วก็พูดอย่างบ้า กามทันทีว่า “ฉันไม่ เคยชอบเธอน้อยลงเลยนะ”
จรีภรณ์นิ่งอยู่สักพักในห้องน้ำแล้วก็รู้สึกกลัดกลุ้ม กดดันตัวเองอยู่ภายในใจ
ในใจก็มองเห็นชนุตต์ตั้งแต่หัวจรดเท้าหลายๆรอบ
ขณะที่จรีภรณ์กำลังออกจากห้องน้ำ เธอก็ถูกคนๆ หนึ่งขวางไว้
จรีภรณ์เงยหน้ามองขึ้นไปอย่างไร้อารมณ์และพบ เจอชญาภากับทิตยาเพื่อนรักของเธอยืนอยู่ข้างหน้า ตนเอง
“หืม นี่ใช่คุณนายบ้านจริภาสที่เคยเจอหรือเปล่า หลังจากที่ถูกไล่ออกจากบ้าน ตอนนี้ไปคบกับใครแล้ว ล่ะ” ทิตยามองมาที่จรีภ รณ์อย่างอิจฉาริษยา
เห็นได้ชัดว่าอายุของเธอทั้งสองห่างกันอยู่มาก แต่ ผู้หญิงคนนี้จะเด็กว่ามาก ผิวพรรณก็ดูชุ่มชื้นอิ่มน้ำอิ่ม เนื้อ
จรีภรณ์ไม่ได้สนใจเธอและเดินเลี่ยงออกไปข้างๆ
แต่ทิตยากลับจับแขนของจรีภรณ์ขึ้นและพูดว่า “นี่ เธอ เธอยังมีหน้าอยู่ที่นี่อีกหรอ ไหนดูหน้าเธอสิ ดูหน้า เธอหน่อยสิ”
“ทิตยา” ชญาภาพูกดักไว้
“ชญาภา เธอเองก็เป็นคนจิตใจดี ตอนนั้นทำไม เธอถึงมาเยาะเย้ยถากถางเธอล่ะ ก็นี่คือเธอสินะชญา ภา แต่ถ้าเป็นฉันนะ ฉัน สวนกลับไปแล้ว” ทิตยาพูดจา เหน็บแนมอย่างมาก เพราะเสียงที่ดังขึ้นมากๆ ทำให้ ผู้คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์บริเวณนั้นจำนวน ไม่น้อยต่าง ก็มามุงดู
จรีภรณ์ยิ้มอ่อนและได้ทำการเหยียดหยามคน กลุ่มนี้ซึ่งเป็นคนที่ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน ดูจาก สถานการณ์นี้ ดูเหมือนว่าเธอ จะไม่ได้สนใจอะไร แต่ อีกฝ่ายนั้นดูเหมือนจะยอมแพ้
“คุณพี่คะ คุณพี่คงไม่พอใจฉัน แต่ฉันเองก็ไม่รู้จะ ทำยังไงดี แต่ว่าฉันกับคุณจิรภาสเรารักกันจริงๆนะคะ คุณพี่อยากได้เงินเท่า ไหร่ คุณพี่บอกมาได้เลยนะคะ ฉันให้คุณพี่หมดเลยค่ะ” พร้อมกับกุมมือของจรีภรณ์ และอ้อนวอนด้วยความโศกเศร้า
พอพูดจบก็เอามือเช็ดน้ำตาที่หางตา ท่าทางที่อ่อน โยนและไม่มีพิษไม่มีภัยทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรักและ สงสาร
คนที่อยู่บริเวณรอบๆนั้นก็เริ่มมีกระซิบนินทาและ บางคนก็พูดตำหนิออก
“ดูผู้หญิงคนนี้สิ ทำให้ใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้”
“ดูเป็นคนสวยมากแต่ทำไมหน้าเงินขนาดนี้”
หลังจากนั้นผู้คนก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ชญาภาเองก็ แสร้งร้องไห้ออกมามากขึ้น
แต่คนที่รู้ทันเพียงแค่มองก็รู้เล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้ บาง คนต้องการความยุติธรรม แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ หมั้นของจิรภาสก็ค่อยๆ ปิดปากไป
เมื่อได้ยินคำตำหนิเหล่านี้ ชญาภาก็เริ่มได้ใจมาก
ขึ้น
สามปีก่อนหน้านี้เธอทำตัวไร้ยางอายเพื่อบังคับขู่ เข็ญจรีภรร์ผู้ซึ่งเป็นพี่สาวของตัวเอง เธอคิดว่าตัวเอง เข้ามาแทนตำแหน่ง คุณนายจิรภาสตั้งแต่วันนั้น
แต่หลังจากวันนั้น จริภาสไม่ได้พบเจอเธออีกเลย ถึงแม้ว่าจะทำดีต่อเธอ แต่เธอก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไประหว่าง เธอกับเขา
แม้แค่การพูดก็สามารถเข้าใจได้ง่าย ถึงแม้ว่าพวก เขาจะหมั้นหมายกันแล้ว แต่งานแต่งงานกลับถูกเลื่อน ออกไปและจิรภาสก็ไม่ ได้พูดถึงอะไร
จริงๆเธอเองก็รู้อยู่แล้ว หลายปีมานี้จิรภาสไม่หยุด ที่จะหาเจรีภรณ์ เธอรู้ว่าเขายังไม่ลืมจรีภรณ์ เธอรู้อยู่ เต็มอก แต่เธอก็ไม่รู้จะ ทำอย่างไร เธอก็ทำได้เพียงแต่ ปกปิดความจริงที่ตนรับไม่ได้
เพียงแค่พอคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็จะมีอารมณ์ความ รู้สึกอิจฉา เธอไม่ยินยอมให้ผู้ชายที่เธอชอบหรือรักมี ผู้หญิงอื่นหรือมีใครอีกคน ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะพี่สาว ของเธอ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอก็เกลียดที่ตัวเองต้องจำใจ แสร้ง จำใจทำตัวเป็นคนดีและใจกว้าง
แล้วตอนนี้ จรีภรณ์เองก็เข้มแข็ง และยิ่งวันนี้มา ปรากฏต่อหน้าเธออย่างตระการตาแบบนี้ จะไม่ให้เธอ เกลียดได้อย่างไร
พอคิดถึงเรื่องแบบนี้ ชญาภาก็ยิ่งใช้ความพยายาม ในการแสดงแสร้งว่า “พี่สาว ฉันขอร้องพี่ พี่ก็ช่วยพวก เราเถอะนะ จะต้องให้ ฉันคุกเข่าลงอ้อนวอนพี่ไหม”
จรีภรณ์มองเห็นการประชดประชันของเธอ จริงๆ แล้วเธอก็เป็นเหมือนลูกพลับที่ใครๆก็บีบขย้ำได้หรือ เปล่า
สามปีที่ผ่านมานี้ความเศร้าเสียใจที่มีให้ฉันมันยังมัน ยังไม่พออีกหรอ
“โอเค ในเมื่อเธออยากจะคุกเข่า ฉันก็ไม่ห้ามเธอ”
ชญาภาร้องไห้ออกมาทันที เธอไม่คิดว่าจรีภรณ์ จะกล้าทำกับเธอแบบนี้ ทำไมถึงกล้าทำสิ่งที่เธอพูดต่อ หน้าผู้คนแบบนี้
“คุณพี่ ใครกันที่ทำให้คุณพี่กล้าทำเช่นนี้ คุณพี่ เป็นอะไรกัน ทำไมกล้าพูดกับชญาภาแบบนี้ละคะ” อา ทิตยามองจรีภรณ์ด้วย ความที่ไม่ยอมรับว่าเป็นคนผิด พร้อมกับพูดด้วยเสียงแหลม
ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้เธอเองก็อาศัยอยู่กับชญาภา ก้เหมือนกับเหตุการณ์วันนี้ ถ้าไม่ใช่ชญาภาก็เกรงว่า ตำแหน่งและสถานะแค่ หน้าประตูใหญ่ก็น่าจะได้เข้า
“คือฉันเองที่ให้ความกล้าเธอ แล้วคุณกล้ามาพูด อะไรแบบนี้กับผู้หญิงของผม
ขณะที่ทุกคนกำลังดูเหตุการณ์ก็มีเสียงดังขึ้นมาทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ