ตอนที่ 13 หลีโม่ลงมือ
คุณนายเสี้ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “ฝาก ขอบคุณนายหญิงแก่แทนข้าด้วย”
หลังจากนั้น ก็ยืนขึ้นแล้วมองมาทางเถ้าแก่โจ “รบกวน
แล้ว”
เถ้าแก่โจยิ้มแล้วพูดว่า “นายหญิงเกรงใจเกินไปแล้ว”
เขาโบกมือให้ช่างตัดเสื้อเข้าไปวัดตัวให้นายหญิง หลังจากนั้นพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้นำผ้าไหมมาหลายม้วนหลัง จากที่วัดตัวเสร็จแล้วให้นายหญิงเลือก หากชอบผืน ไหนก็เก็บเอาไว้แต่หากม้วนไหนไม่ชอบข้าน้อยก็จะเอา กลับไปเอง”
“เรียบๆก็พอ” คุณนายเสี้ยพูด
หลีโม่เดินออกประตูไป เสี้ยฉวนเห็นนางก็เดินตาม ออกมา
เขามองดูรอบๆหลังจากนั้นก็พูดกับหลีโม่ว่า “คุณหนู ใหญ่ไม่ใช่ว่าจะต้องกลับไปที่ห้องของนายหญิงแก่หรือ ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ”
หลีโม่พิงบันได สีหน้าไม่สนใจอะไร “เดี๋ยวค่อยไป ข้า เองก็อยากให้เถ้าแก่โจวัดตัวแล้วตัดชุดใหม่ให้ข้าบ้าง”
เสี้ยฉวนมองดูสีหน้าของนาง รู้สึกว่าคุณหนูใหญ่ในตอนนี้กับเมื่อก่อนไม่ค่อยเหมือนกัน
คุณหนูใหญ่คนเมื่อก่อนเป็นคนที่เชื่อฟังทุกอย่าง ชอบ หลบสายตา เห็นคนก็ไม่กล้าพูดเสียงดัง แต่ตอนนี้นาง ดูน่ากลัว บนตัวนางราวกับว่ามีหนามอยู่เต็มไปหมด ไม่ สามารถเข้าไปใกล้ได้ง่ายๆ
เสี้ยฉวนเดินผ่านนางไปสั่งคนที่เฝ้าประตูอยู่ “พวกเจ้า ลองหาดูรอบๆสิว่ามีแมวจรจัดหรือไม่ หาให้ละเอียดทุก ซอกทุกมุม
“ขอรับ” พวกเขาน้อมรับคำสั่งแล้วแยกย้ายกันหา
เสี้ยฉวนมั่นใจว่าคนยังอยู่ในลานเสี้ยจื้อ เพราะว่า ประตูใหญ่มีคนเฝ้าอยู่ ประตูหลังก็ไม่ได้อยู่ในลาน เสี้ยจื้อ นอกจากประตูใหญ่ก็คงต้องกระโดดกำแพงเสีย แล้ว
เฉินเอ้อถูกตีจนสลบ คุณหนูใหญ่กลับมาทำไม ถึง แม้ว่านางจะมองออกถึงแผนการของนายหญิงแก่ แต่ ก็ไม่สามารถช่วยทำให้นายหญิงฟื้นได้ นายหญิงโดน ยาสลบไป ยาสลบนี้มีฤทธิ์ที่แรงนัก
ตอนที่พาเฉินเอ้อมานายหญิงสลบไปแล้ว เขาตรวจ สอบด้วยตนเอง ทำไมแค่เวลาธูปหนึ่งดอกคนก็ฟื้นแล้ว
เสี้ยฉวนคิดแบบนี้ แล้วก็คิดอีกกำแพงสูงขนาดนั้น ผู้ชายคนหนึ่งหากไม่มีแรงจะกระโดดบีนกำแพงข้ามไป ได้อย่างไรกัน นับประสาอะไรกับหญิงสาวที่อ่อนแอคนหนึ่ง
แน่นอนว่าในห้องของหลีโม่เองก็ถูกค้น หลีโม่กลัวว่า พวกเขาจะไปหยิบจับหนังสือจึงได้เดินตามเข้าดูด้วย
พวกบ่าวค้นหาอย่างไม่ระวังมือเลย ค้นหาตั้งแต่นอก ห้องจนไปถึงในห้อง ค้นหาจนทั่วทุกมุมก็ยังหาไม่เจอ
“เฮ้ย อย่าไปจับของของข้ามั่วๆนะ” หลีโม่เห็นบ่าวคน หนึ่งเปิดตู้เสื้อผ้าของนาง แล้วเอาเสื้อผ้าโยนออกมา ทําให้นางโกรธ
บ่าวคนนั้นเหมือนจะไม่เห็นหัวหลีโม่เลย พูดอย่างยโส โอหังว่า “ขอโทษคุณหนูใหญ่ ข้าแค่รับคำสั่งจากพ่อ บ้านให้มาค้นหา”
“หาอะไร” หลีโม่ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“แน่นอนว่าต้องมาหาแมวจรจัด เพื่อไม่ให้มันมา ทำร้ายคุณหนู ไม่เช่นนั้นจะถูกเฉิงเสี้ยงลงโทษเอาได้ บ่าวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเช่นกัน
พวกเขาไม่เห็นหัวหลีโม่เลย สำหรับพวกเขาแล้วถึง เสี้ยหลีโม่จะเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนเฉิงเสี้ยง แต่ทว่า ฐานะนางก็ไม่ต่างอะไรกับบ่าวไพร่
โดยเฉพาะวันนี้ พวกเขาล้วนรู้เรื่องราวทั้งหมดดีว่า หลี่ซื่อคนนี้และเสี้ยหลีโม่จะต้องหนีไม่รอดแน่ ใครจะยัง มีใจไปไว้หน้านางอีกล่ะ
หลีโม่พูดอย่างเย็นชาว่า “รู้ก็ว่าหาแมวจรจัด ไม่รู้ก็ คงว่าหาของมีค่าอะไรแน่ ตู้เสื้อผ้าของข้ามันใหญ่มาก หรือว่าแมวจรจัดจะแอบอยู่ในเสื้อผ้าของข้างั้นหรือ
“มันก็พูดยาก” บ่าวสถบออกมาค่าหนึ่งแล้วเหยียบ ลงไปที่เสื้อผ้าของหลีโม่ เดินออกไปอย่างไม่เกรงกลัว อะไร
หลีโม่ผุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก เดินไปข้างหน้าแล้วจับ ขนของเขาหมุนให้เขาหันกลับมา พร้อมกับตบไปที่หน้า ของเขาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มว่า “เก็บขึ้นมา”
บ่าวคนนั้นชะงักอึ้งไป สีหน้าโกรธจัด “เจ้าตบข้า”
“ใช่ข้าตบเจ้า เก็บของของข้าขึ้นมา” หลีโม่พูดด้วยน้ำ เสียงที่ดุ
บ่าวคนนั้นกัดฟันแน่น “คุณหนูใหญ่ ข้าไว้หน้าแล้วยัง
จะไม่เอาหน้าอีกนะ”
หลีโม่ไม่แม้แต่จะคิดจับเก้าอี้มาแล้วโยนใส่เขาไป พร้อมกับพูดด้วยความโกรธว่า “ดี งั้นหน้านี้ข้าก็ไม่เอา แล้วกัน ดูว่าเจ้าจะเอายังไง”
ถึงแม้ว่าแรงของหลีโม่จะไม่เยอะแต่พอโยนไปก็ไป โดนหัวของเขาทันที เขาได้รับบาดเจ็บ จึงเตะไปทาง หลีโม่
หลีโม่ขยับกำไลได้ยินแต่เพียง “หวือ” มีแรงจากพื้นใต้เท้าเขามาทะลุทะลวงไปจนถึงหัว ทำให้เขาเจ็บแล้วก็ ล้มลงกับพื้น
เสี้ยฉวนได้ยินเสียงก็รีบเข้าไปดู เห็นเขานอนกองบน พื้น เอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด แล้วถามขึ้นมาว่า “เกิดอะไรขึ้น”
คนนั้นชี้ไปที่หลี่โม่พร้อมกับพูดว่า “พ่อบ้านนางตีข้า”
เสี้ยฉวนชะงักอึ้งมองไปที่หลีโม่ หลีโม่ยิ้มอย่างเลือด เย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ขาลงมือกับข้า ข้าไม่ควรตีเขาหรือ หรือว่าพ่อบ้านคิดว่าข้าคุณหนูใหญ่ไม่มีสิทธิ์ไปสั่งสอน บ่าวไพร่พวกนี้”
เสี้ยฉวนมองดูบ่าวคนนั้นมีเลือดออกเต็มปากเต็มจมูก อย่าพึ่งไปพูดถึงวันนี้ที่คุณหนูใหญ่กล้าตีคน แต่ถึงจะตี ยังไงก็ไม่ควรมีแรงเยอะจนตีคนให้อยู่ในสภาพนี้ได้
“บ่าวพวกนี้ไม่รู้เรื่องคุณหนูใหญ่สั่งสอนเป็นเรื่องที่ ควรแล้ว” เสี้ยฉวนมองดูรอบๆ ในห้องไม่พบใครเลย เห็นของกระจัดกระจายเต็มไปหมด เขาเองก็แอบด่าใน ใจเช่นกัน ว่าบ่าวไพร่พวกนี้มันช่างใช้ไม่ได้เลย
เขาสั่งให้คนเข้าไปพยุงบ่าวคนนั้นขึ้นมา จมูกและปาก ของบ่าวคนนั้นก็มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ราวกับว่าได้ รับบาดเจ็บภายใน
“ทำไมเจ็บหนักขนาดนี้” เสี้ยฉวนถามขึ้นด้วยความ ประหลาดใจ
บ่าวคนนั้นรู้สึกว่าแน่นหน้าอกมาก เขาเองก็รู้สึก ประหลาดใจไม่น้อย เมื่อกี้ที่เขาเตะไปทางคุณหนูใหญ่ แต่ยังไปไม่ถึง ราวกับว่ามีอะไรมาตีเขา และเขาเองก็ไม่ เห็นเลยว่าคุณหนูจะลงมืออะไร อีกอย่างถึงคุณหนูจะ ลงมือจริงตัวเองก็ไม่น่าจะบาดเจ็บหนักขนาดนี้
หรือว่าจะมีผู้ที่มีวรยุทธสูงส่งแอบซ่อนอยู่
“เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ” เสี้ยฉวนบอกเขา หลัง จากนั้นก็มองมาทางหลีโม่
“ยังมีตรงไหนอีกที่ยังไม่ได้ค้นหา” เสี้ยฉวนถามขึ้น คุณหนูใหญ่โกรธแล้วหากไม่ยอมขึ้นมาไม่รู้ว่าจะเกิด เรื่องอะไรขึ้นมาอีก อีกอย่างตอนนี้ยังมีคนนอกสามคน อยู่ด้วยหากพวกเขาเอาออกไปพูดกันคนไม่ดีแน่
บ่าวคนหนึ่งเข้ามาพูดว่า “เรียนพ่อบ้านหาจนทั่วแล้วก็ ไม่พบว่ามีแมวจรจัด”
น่าแปลก หาจนทั่วเรือนแล้ว ทุกห้องก็หาแล้ว เฉินเอ้อ มีปีกบินงั้นหรือ
เขาพาคนออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เขามองไป ทางห้องส้วม จากนั้นก็ชี้แล้วถามขึ้นมาว่า “ไปหาที่ห้อง ส้วมหรือยังพวกแมวจรจัดมันชอบแอบซ่อนอยู่ในที่ มืดๆ”
พวกบ่าวต่างพากันส่ายหัวไปมา “ไม่ได้ไปขอรับ”
เสี้ยฉวนหันมามองหลีโม่ หลีโม่ยืนอยู่หน้าประตูอย่าง ไม่ยินดียินร้ายอะไร แต่สายตาของนางกลับดูร้อนรน นัก
เสี้ยฉวนเห็นบางอย่างจากสายตาของหลีโม่ ราวกับ แมวที่ได้กลิ่นปลาย่างแล้วดีใจยังไงอย่างนั้น ใช่ คนจะ ต้องอยู่ในห้องส้วมแน่
เขาชี้ไปที่บ่าวคนหนึ่ง “เจ้าไปดูที่ห้องส้วม”
บ่าวคนนั้นรับคำแล้วเดินตรงไปที่ส้วม
หลีโม่ขยับแหวน เตรียมพร้อมไว้ดีที่สุด รอแค่ให้บ่าว คนนั้นเปิดประตูส้วมออก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ