หมอยาเพาะรัก ท่านอ๋องไว้ใจ

ตอนที่ 3 ถอนงานแต่ง



ตอนที่ 3 ถอนงานแต่ง

ก่อนที่หลี่ซื่อจะแต่งงานกับเฉิงเสี้ยงเสี้ย เป็นหญิงสาว ที่เก่งและโด่งดังในแผ่นดิน อ่านหนังสือมามากมาย แม้ ไม่ถึงกับรู้เรื่องดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ แต่ก็เป็น หญิงที่ใจปราดเปรื่องทั้งเจ็ดห้อง

นางจ้องมองใบหน้าของหลีโม่ ในใจกลับเจ็บปวด อย่างยิ่ง นางรู้ดี ลูกสาวของตนเอง ได้ตายไปแล้ว

แค้นที่ฆ่าลูกสาว จะไม่แก้แค้นได้อย่างไร?

สิบแปดเดือนห้า ลูกสาวเอกของเฉิงเสี้ยงเสี้ยแต่งงาน กับอ๋องเหลียงซือถูเฮ่า งานแต่งยิ่งใหญ่อลังการ

ฟ้ายังไม่สว่าง หลีโม่ก็โดนปลุกขึ้นจากเตียงนอน แต่ง หน้าทําผม สวมใส่เครื่องยศสตรีอย่างสวยสง่างาม

คุณนายหลินหลงกับเสี้ยโล่เย่วจ้องคุมเอง ขนาดที่ คุณนายหลินหลงกำลังส่งหลีโม่ออกประตูนั้น เตือนด้วย เสียงต่ำ”วันนี้เจ้าขึ้นเกี้ยวแต่งงานอย่างเชื่อฟังดีที่สุด ไม่งั้น เจ้าเจอดีแน่ ”

เสี้ยโล่เย่วก็เข้ามา ยิ้มกล่าว “ถึงเจ้าจะเป็นลูกสาว เอกแล้วยังไง?ก็ต้องแต่งงานกับคนพิการคนนึงอยู่ดี? ได้ยินมาว่าอ๋องเหลียงป่าเถื่อนใจร้าย ชอบตบตีเมีย น้อย ชายาอ๋องอย่างเจ้า ไม่รู้ว่าจะทนได้ถึงปีหรือเปล่า? ถ้าเจ้าตายไป ก็น่าเสียดายยิ่งนัก ต่อไปข้าก็ไม่มีคนให้ รังแกแล้วสิ ”
พูดจบ ก็หัวเราะสะใจขึ้นมา

ผ้าคลุมหัวปิดบังดวงตาของหลีโม่ไว้ ปิดบังสายตาที่ เยือกเย็นนั้น

ตามกฎระเบียบ เมื่อก่อนออกประตูหลีโม่ต้องกราบลา คุณนายใหญ่และผู้อาวุโสในบ้านก่อน

ราชวังส่งนางข้าหลวงมาส่งหลีโม่ขึ้นเกี้ยวแต่งงาน แน่นอนว่าก็ได้เดินพิธีการทั้งหมดให้เสร็จสิ้นพร้อมกับ หลีโม่

คุณนายใหญ่กล่าวกับหลีโม่ด้วยรักและเมตตา “ต่อ จากนี้แต่งงานไปตำหนักอ๋องแล้ว ก็ไม่สามารถทำตัว วุ่นวายเหมือนตอนยังไม่ได้แต่งงานแล้ว ในฐานะชายา อ๋อง ทุกกิริยาบทต้องระวัง สง่า ใจกว้าง อย่าเหมือน ท่านแม่ของเจ้าชิว วันวันเอาแต่หึงหวง โวยวายหาเรื่อง

คุณนายใหญ่ไม่ปล่อยโอกาสใดเลยที่จะเหยียบย่ำ หลี่ซื่อ แม้แต่ต่อหน้านางข้าหลวงในราชวัง ไม่เพียงเช่น นี้ เพราะ ก่อนหลีซื่อจะแต่งงานมาสำนักเสี้ยง ชื่อเสียง ใหญ่เกิน รวมถึงตั้งแต่เข้าสำนักมาก็ไม่เคยคลอดบุตร ชาย คุณนายใหญ่อยากให้หย่านางแต่เนิ่นแล้ว

หลีโม่กำมือขึ้นทันที “หลานสาวจะรักษาคำสอนของ คุณนายใหญ่ ”

เธอทนกลั้นลมหายใจนี้ไว้ ทนรอความระบุอีกสักครู่
เกี๊ยวแต่งงานสีแดงสดที่ประดับด้วยผ้าหรูหราหลาก สีรออยู่หน้าประตูสำนักเสี้ยง ประตูเกี้ยวตกแต่งด้วยหิน หยก เพื่อเผยให้เห็นฐานะที่สูงส่งของเจ้าสาว

กองขบวนดนตรียืนอยู่สองข้าง เสียงขลุ่ยมงคลเป่า ดังขึ้น เสียงประทัดยาวยาว จุดไปเส้นแล้วเส้นเหล่า จน ถนนทั้งสายแดงกระจายหมด

เจ้าบ่าวอ๋องเหลียงซือถูเฮ่ากายแต่งชุดเจ้าบ่าวนั่งอยู่ บนม้าขาวอย่างเกรงขาม มือถือบังเหียนท่าทีโออ่ามอง ไปอย่างซี่เนียงที่แบกเจ้าสาวของตนเองเสี้ยหลีโม่ออก มา

นั่งอยู่บนม้าขาว ท่าทีเกรงขาม ดูไม่ออกเลยว่าขาบาด เจ็บพิการ ผู้ที่ไม่รู้ คงคิดว่าเป็นชายหนุ่มหล่อเหล่าที่ชุด ม้าเกร่ง

องค์รัชทายาทปัจจุบันก็มาพร้อมกับซือถูเฮ่า เพื่อ มารับเจ้าสาวให้กับพี่ชาย เขาดีใจมากจริงๆ ที่เสี้ยหลี โมแต่งงานกับพี่ชายไร้ประโยชน์ ตนเองก็สามารถ แต่งงานกับเสี้ยโล่เย่ว ได้รับการสนับสนุนจากมหา เสนาบดี ได้ครองแผ่นดินนี้ ก็เป็นเรื่องที่นับวันรอได้เลย

ล้อมรอบไปด้วยผู้คนและแขกที่มาเยือน คึกคัก มากมาย วันนี้เป็นงานสมรสของบุตรชายแท้ๆของ ฮ่องเต้ปัจจุบันกับลูกสาวเอกของเฉิงเสี้ยงเสี้ย ต้อง อลังการอยู่แล้ว

เมื่อกำลังจะขึ้นเกี้ยวแต่งงานนั้น กลับเห็นเจ้าสาวโดดลงมาจากหลังเนียง ดึงผ้าแดงคลุมหัวลงมา โยนลงกับ พื้น กล่าวประกาศอย่างเย็นชา “ข้าไม่แต่ง!”

เปลี่ยนใจเช่นนี้ ทำให้ผู้คนและแขกที่มาตกตะลึงมาก นี้คุณหนูใหญ่ของสำนักเลี้ยงบ้าไปแล้วหรือ?ตอนนี้ เกี๊ยวแต่งก็อยู่หน้าประตูแล้วจะทำตัวเอาแต่ใจบอกไม่ แต่งอย่างนี้ได้ไง?

ผู้คนต่างเห็นกันชัดว่าใบหน้าของอ๋องเหลียงซือถูเฮ่า ค่อยๆพุ้งโมโหขึ้น

เฉิงเสี้ยงเสี้ยตะลึงไปชั่วครู่ ในสายตามีความโกรธขึ้น มา รีบเดินขึ้นไป เก็บผ้าสีแดงคลุมหัวขึ้นมาแล้วคิดจะ คลุมให้นาง แต่ เสี้ยหลีโม่กลับเดินถอยหลังไปก้าวนึง แล้วจ้องมองเขาอย่างเย็นชา

“อย่าสร้างความวุ่นวาย วันนี้เป็นวันมงคลของเจ้ากับ อ๋องเหลียง เขาประมาทแล้วจริงๆ

วันมีเพื่อนพ้องมาทายอยู่ในงาน เสียหน้ามากเลยทีนี้

หลีโม่แบกความบาดเจ็บทั้งตัว ทิ้งมงกุฎหงส์ลง เดิน ขาเป๋ไปทีละก้าวถึงหน้าม้า คุกเข่าลงหน้าอ๋องเหลียง เงยหน้าขึ้น “ท่านอ๋องเหลียง วันนี้กระหม่อมไม่มีเจตนา ที่จะให้ท่านเสียหน้า กระหม่อมยกเลิกงานแต่ง ไม่เช่น นี้มิได้ ท่านพ่อและองค์รัชทายาทใช้ไม้ทุบตีบีบบังคับ สร้างข้อหามาใส่ร้ายท่านแม่ว่าคบชู้ จะหย่านางบังคับ ให้กระหม่อมแต่งงานกับท่านอ๋องเหลียง เพื่อให้น้อง สาวเสี้ยโล่เย่วแต่งงานกับองค์รัชทายาทเป็นพระชายากระหม่อมไม่สามารถให้ท่านถูกเขาหลอกใช้ วันนี้ถึงได้ ปฎิเสธงานแต่งต่อหน้าผู้คน กระหม่อมขอยอมรับการ ลงโทษจากอ๋องเหลียงและฮองเฮา ถึงตายก็ไม่ว่า!”

เมื่อตอนอ๋องเหลียงเห็นหลีโม่เดินขาเปีมาทีละก้าว ความโกรธโมโหก็ถึงขีดสุดแล้ว เขาเงยหน้าเงยตาขึ้น จ้องมองไปที่เฉิงเสี่ยงเสี้ย แล้วกล่าวด้วยความเย็นชา “ดีมาก ดีมาก ข้าถือว่าได้รู้จักอุบายของท่านเสี้ยงแล้ว ”

ซือถูเย่ไม่คิดว่าเสี้ยหลีโม่ช่างกล้าปฏิเสธขึ้นเกี้ยว แต่งงานต่อหน้าขุนนางนับร้อย แล้วยังพูดเรื่องเมื่อวันนี้ ออกมา โมโหอย่างยิ่ง เข้าไปถีบหลีโม่ล้มลง “อีชั่ว เจ้า พูดบ้าอะไร?”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยสีหน้าเจ็บใจยิ่งนัก กล่าวอย่างโมโห “ลูก ชั่ว แต่งงานกับท่านอ๋อง เป็นแผนการที่เจ้าขอร้องมา ที แรกข้าไม่ตอบตกลง เพราะเจ้าที่ถึงตายก็จะแต่งงาน ไปเป็นชายาอ๋อง ตอนนี้ก่อเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ เป็นเพราะ ใครสอนเจ้ามา?หรือเพราะท่านแม่ของเจ้าที่ฝันอยากให้ เจ้าแต่งงานกับองค์รัชทายาทเพื่อวันข้างหน้าจะได้เป็น ราชินี?ท่านพ่อบอกกับเจ้าแต่เนิ่นแล้ว ไม่ควรมีความ โลภเช่นนี้ ได้รับความกรุณาจากอ๋องเหลียง เป็นบุญ วาสนาที่เจ้าสร้างมาแล้ว”

เมื่อผู้คนได้ยินคำพูดนี้ มองไปที่เสี้ยหลีโม่อย่างน่า สงสัย มหาเสนาบดีถึงแม้เป็นคนไม่ค่อยซื่อตรงนัก แต่ ในฐานะพ่อคนนึงคงไม่ทำเรื่องที่บีบบังคับลูกสาวตนเอง เช่นนี้หรอก หรือว่าความจริงมีอะไรลึกซึ้งกว่านี้?
นึกคิดแล้วแม่ของเสี้ยหลีโม่หลีซื่อนั้น ก็เคยเป็น หญิงที่ใจใฝ่สูง หรือว่า นางอยากให้ลูกสาวของตนเอง แต่งงานกับองค์รัชทายาทเพื่อง่ายต่อวันข้างหน้าได้ขึ้น ตำแหน่งราชินี?

คนนึงเป็นถึงขุนนางระดับเอกของราชวงศ์ปัจจุบัน อีก คนเป็นเพียงหญิงที่แต่งงานแล้วกับสาวน้อย จากบุคลิก ท่าทางแล้ว ทุกคนต้องยอมเชื่อมหาเสนาบดีแน่นอน

หลีโม่เห็นถึงสายตาที่ดูถูกของผู้คนแล้ว สีหน้าไม่ เปลี่ยน หยิบใบหย่าออกมาจากกระเป๋าชายเสื้อ “ใบ หย่าฉบับนี้ ที่ท่านพ่อให้ไว้เมื่อวันนี้ ท่านพ่อบอกว่า ถ้า ข้ายอมขึ้นเกี้ยวแต่งงาน ใบหย่าฉบับนี้ก็ถือว่าโมฆะ ถ้า ไม่ขึ้น ก็จะประกาศใบหย่านี้ทั่วแผ่นดิน ประณามข้อหา ให้ท่านแม่ข้า ”

อ๋องเหลียงยกมือขึ้น ก็มีคนเข้าไปรับใบหย่าบนมือ ของนางมาให้อ๋องเหลียง

อ๋องเหลียงดูไปไม่นาน สะบัดมือไป ใบหย่าตกลงกับ พื้น ผู้ที่ตาไว รับมองเนื้อหาในใบหย่า

ผู้ต่างตะลึงไปหมด ใบหน้านี้ถูกทุกพยางค์ช่างไร้ ความปราณี ดูแล้ว เสี้ยหลีโม่กล่าวมานั้นคงเป็นความ จริง

หน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ยเขียวซีดเลยทีเดียว เขาฝันยัง คาดไม่ถึงเลยว่าเสี้ยหลีโม่จะกล้าเอาใบหย่าฉบับนี้ ประกาศให้รู้กันทั่วแผ่นดินแล้วจริงๆ ใบหย่าที่ให้ไว้เมื่อคืนนี้ แท้จริงแล้วเพื่อที่จะกดดันนาง ให้นางเชื่อฟัง แต่ ตอนนี้กลับกลายเป็นจุดอ่อน

อ๋องเหลียงมองเสี้ยหลีโม่ด้วยใบหน้าไม่มีอาการใดๆ “เรื่องที่เจ้าปฎิเสธขึ้นเกี้ยวยกเลิกงานแต่งนั้น ฮองเฮา จะจัดการเอง เจ้ารอไว้เลย ”

พูดจบ เขามองไปที่องค์รัชทายาทซือถูเย่ทีนึง แล้ว กล่าว “องค์รัชทายาท ของขวัญของเจ้ากับมหาเสนาบดี ผู้เป็นพี่รับไว้แล้ว จะจดจำไว้กลางใจ!”

ซือถูเย่กับหาเสนาบดีสีหน้าเปลี่ยนไป

บนหอคอยที่อยู่ตรงข้ามสำนักเลี้ยง มีชายผู้นึงที่สวม ชุดคลุมสีดำยืนอยู่ ใบหน้าที่เย็นชา คิ้วดั่งกระบี่เย็น ดวงตาดั่งทะเลลึก ยืนตัวตรงรับลม บนกายเผยความ สง่าราศี เหมือนดั่งเทพยังไงอย่างั้น หยิ่งยโสทุกสิ่ง

“ท่านอ๋อง จะลงไปช่วยอ๋องเหลียงหน่อยไหม?เสีย หน้าเช่นนี้ ตอนนี้เขาคงจะโมโหจนตายแล้วละ “ข้าง กายมีผู้คุมกันที่สวมชุดดำพกมีดคนนึงกล่าวถาม

ชายผู้นี้ค่อยๆส่ายหัว มุมปากยิ้มขึ้นอย่างเยือกเย็น “ดูเรื่องสนุก ไม่เกี่ยงเรื่องใหญ่!”

คนที่กล้าขัดใจองค์รัชทายาท ไม่มีกี่คนจริงๆ เด็กสาว นี้ มีความกล้าหาญ แต่เสียดาย ผู้ที่มีความกล้าหาญ มัก จะตายอย่างน่าสงสาร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ