ตอนที่13 เธอไม่ควรเรียกฉันว่าสามีงั้นเหรอ
พอได้ฟังเรื่องนี้จบ ปณัยยังคงเกี้ยวกราด”ณิชาไม่ ได้รับการศึกษาเลี้ยงดูเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็รู้ดี ให้ หล่อนแต่งงานอกไปก็มีแต่จะทำให้บ้านจันทร์เสียหน้า นะครับ!”ท้ายที่สุด พูดอีกว่า”ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องไร้ สาระแบบนี้!”
ใช่แล้วล่ะ เรื่องนี้แท้ที่จริงคือเรื่องไร้สาระ งาน แต่งงานถูกจัดขึ้นแล้ว เปลี่ยนตัวเจ้าสาวอีก ถ้าแพร่ออก ไป มันจะไม่ทำให้บ้านสุ ทรรศน์รังสสี บ้านจันทร์ กลาย เป็นเรื่องตลกให้คนในเมืองดรัลหัวเราะเยาะเอาได้เห รอ?
ฉันพูดความคิดฉันออกมา
ชวลัยที่ก่อนหน้านี้ยังมีสีหน้าเย็นชา คราวนี้กลับมี สีหน้าที่ดี“ณิชาเองก็มีเหตุผล”
ชยานีเห็นฉันเองก็ไม่ได้เต็มใจ จึงพูดกับฉันว่า “หนู ณ ไปดูอาหมุยหน่อยว่ายังเจ็บอยู่ไหม”
ฉันรู้ว่า เธอกำลังอยากให้ฉันออกไปจากที่นี่
ในตอนที่ฉันลังเล น้าจิลเดินเข้ามา แล้วพาฉันไปยัง ห้องของคนรับใช้
ห้องคนรับใช้อยู่ไม่ไกลจากห้อง ถึงแม้ว่าฉันจะ เข้าไปอยู่ด้านใน แต่ยังสามารถพิงประตูฟังได้ ฉันได้ยินชยานีพูดว่า เฉพาะแค่ใบหุ้น4%ของฉัน แต่ละปีก็ มีเงินปันผลนับล้าน
แต่ฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อน
แต่ถ้าหากพวกเขาไม่เห็นด้วย ก็จะให้เอาเงินปันผล ตลอด3ปีนั่นออกมา และในอนาคตก็จะไม่มีเงินปันผล ในส่วนนี้ให้กับพวกเขาอีกแล้ว
พูดถึงเงินปุ๊บ ปณัยและชวลัยตื่นตระหนกตกใจ บ่น ไม่พอใจสองสามคำ แต่สุดท้ายก็เห็นด้วย
พวกเขาไปแล้วน้าจิลจึงพาฉันออกมา
ในเวลานี้ ภายในห้องรับแขกมีชยานีแต่เพียงผู้เดียว ฉันเข้าไปหา และพูดตรงๆว่า “คุณยายคะ หนูไม่อยาก แต่งงานกับดนุนัยแล้วค่ะ ภายในใจของดนุนัยเองมีแต่ จิณณาค่ะ”
“พอได้แล้ว เพิ่งจะพบกันไม่กี่วัน ในใจจะไปมีใครได้ อีก”ชยานีดึงมือฉันไปจับอีกครั้ง แล้วพูดว่า“ที่จริงฉันรู้ ว่าเจ้าสาวคือหนูตั้งแต่ในวันแต่งงานแล้ว และสายตาที่ หนูมองดนุนัย กับสายตาที่จิณณามองดนุนัย ในสายตา คนแก่อย่างยาย ย่อมรู้ดีว่าใครมีเขาอยู่ในใจ”
คำพูดของคุณยาย ทำให้สายตาของฉันพร่ามัว
วันแต่งงานนั้น ดนุนัยเริ่มต้นกับฉันด้วยทัศนคติที่ดีมาก
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เขาไม่เคยคิดจะแยกแยะฉันกับ จิณณามาก่อน
เมื่อเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร ชยานีอีกต่อว่า “ยายรู้จัก ดนุนัยมาก่อน เป็นเด็กดีที่มีความประพฤติเรียบร้อย ยายกับปู่ของดนุนัยไม่มีโชควาสนาต่อกันแต่ว่า ยาย หวังว่าพวกเธอจะสามารถครองคู่กันได้ยาวนาน ชดเชย ความเศร้าโศกเสียใจของยายกับเขา
ปรากฏว่า การแต่งงานครั้งนี้มีความหมายเช่นนี้ นี่เอง
ฉันใจอ่อนลงแล้ว ฉันคิดว่า ในเมื่อดนุนัยกำลังตรวจ สอบจิณณา ย่อมต้องตรวจสอบเรื่องราวก่อนหน้าด้วย
เช่นนี้แล้ว เขาก็อาจจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติที่มี ต่อฉันได้
แต่ในใจฉันยังมีข้อสงสัย “คุณยายคะ ว่าแต่ว่าดน นัยจะเห็นด้วยเหรอคะ?”
“เขาเป็นเด็กที่กตัญญูมากที่สุด เพียงแค่ปู่บ้านสุทร รศน์รังสสีออกปาก เขาย่อมรับปากแน่นอน”น้ำเสียง ของชยานีมีความมั่นใจอย่างมาก
ถึงแม้ว่าในใจของฉันยังมีข้อสงสัย แต่ความเห็นแก่ ตัวในใจของฉันยังมีมากกว่า
ฉันออกจากบ้านของชยานี กลับไปถึงบ้านของติณณา นอนไม่หลับเกือบทั้งคืน
วันที่2 ฉันรีบวิ่งไปที่ไซต์งานก่อสร้างที่สำคัญที่สุด ตั้งแต่เช้าตรู่ ตรวจสอบทุกอย่างเสร็จก็เที่ยงแล้ว เมื่อ ฉันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวไปยังไซต์งาน ที่2 มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าฉัน
ประตูด้านหลังรถเปิดออก ตอนที่ฉันยังไม่ทันมี ปฏิกิริยาตอบสนองนั้นเอง มีมือหนึ่งยื่นออกมาแล้วดึง ตังฉันเข้าไปในรถ
ประตูรถปิดลง รถเริ่มติดเครื่องยนต์
ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าตัวเองถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ มีมือที่แข็งแรงมาล๊อคและจับที่คางของฉัน บังคับให้ ใบหน้าของฉันหันไปทางเจ้าของมือ
เป็น ดนุนัย
ดวงตาดำขลับของชายหนุ่มเย็นยะเยือกราวกับน้ำ แข็ง วินาทีนั้นก่อให้เกิดเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มหน้า ผากฉัน ช่วงเวลานี้ราวกับว่าฉันร่วงตกลงมาในอุโมงค์ น้ำแข็ง
“คุณดนุนัย…คุณทำอะไร?”
ฉันมองเขา รู้สึกเย็นวาบที่หลัง
“คุณดนุนัย?”ดนุนัยมองฉัน มุมปากยกขึ้นด้านหนึ่งแต่กลับไม่มีรอยยิ้ม”เธอไม่ควรเรียกฉันว่าสามีงั้นเห รอ?”
ฉันค่อยๆสบตาเขา
หรือว่า ชยานีจะบอกเรื่องนี้กับเขารวดเร็วขนาดนี้ เชียวหรือ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ