ตอนที่7 อย่างมากก็เป็นได้แค่นังสารเลวคนหนึ่งที่มา เกาะแกะฉันเท่านั้นเอง
พอดนุนัยได้ยินคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาเต็ม ไปด้วยความขยะแขยง แต่มือกลับเปลี่ยนจากที่คอ ของฉันมาเป็นที่คาง ดวงตาดำขลับมองมาที่ฉัน ราวกับ ต้องการมองฉันให้ทะลุ
ความน่ากลัวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ มี เพียงลมหายใจกลิ่นแอลกอฮอล์
ผ่านไปนาน ถึงจะมีเสียงหัวเราะเยาะดังออกมา เธอ ต้องการอะไร?”
ฉันในเวลานี้คิดอย่างไร้เดียงสาว่าเขาเชื่อฉัน จึงพูด อีกว่า “ฉันพิมพ์ลายนิ้วมือของฉันลงในสัญญาแต่งงาน เพียงแค่ไม่ยากให้คุณแต่งกับหล่อน ฉันจะได้เป็นของ คุณ
ชายหนุ่มผลักฉันออก กลับไปที่นั่งฝั่งคนขับ ไม่พูด
อะไร
แต่ว่า เมื่อขับรถกลับไปถึงบ้าน เขาโยนฉันลงไป ในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยแข็ง ดึงผมฉันขึ้นแล้วพูด ว่า”เธอคิดว่าฉันจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดงั้นเหรอ? ผู้หญิง แบบเธอ อย่างมากก็เป็นได้แค่นังสารเลวคนหนึ่งที่มา เกาะแกะฉันเท่านั้นเอง”
ตอนนั้นเอง ฉันสร่างเมาเรียบร้อยแล้ว ดนัยรังเกียจฉัน แล้วอย่างนี้เขาจะเชื่อคำพูดฉันได้อย่างไร?
ฉันต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในน้ำ เขากลับไม่สนใจไยดี ใน ช่วงที่ปากฉันเต็มไปด้วยน้ำ เขาถึงดึงฉันออกจาก อ่างอาบน้ำ แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็ทำอะไรกันหลาก หลายท่าตั้งแต่ในอ่างอาบน้ำ ขอบธรณีหน้าต่าง ถึง โซฟา สุดท้ายถึงเตียงนอน มากมายจนนับไม่ถ้วน…
ตัวฉันได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่แรก ภายหลังใต้ร่มผ้า ยังบาดเจ็บจนถลอก ทุกครั้งที่เสียดสีทำให้ฉันเจ็บจน น้ำตาไหล ฉันร้องไห้ให้หยุด เขาเหมือนจะไม่ได้ยินเลย
สุดท้ายฉันก็อยู่ในอาการโคม่า
ตื่นมาอีกที ตรงหน้าคือกำแพงสีขาว ข้างๆมียาชง แขวนอยู่
ในเวลานี้ฉันสร่างเมาเรียบร้อยแล้ว
นึกถึงสิ่งที่ฉันพูด เรื่องที่ฉันทำเมื่อวานนี้ ฉันทนไม่ ไหวแทบจะหาช่องมุดเข้าไป
ฉันอยู่โรงพยาบาลมา3วันแล้ว
3วันมานี้ นอกจากร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ ยังจะ ต้องได้รับยารักษาในของลับของฉัน ถึงแม้จะไม่มีใคร ถามถึงสาเหตุของการเข้าโรงพยาบาลของฉัน แต่จาก สายตาของเหล่าพยาบาลที่มองฉันทุกครั้ง ฉันรู้ว่า พวก เธอทุกคนรู้แล้ว
หลังจากนั้น3วันก็ได้ออกจากโรงพยาบาล ดนุนัยไม่
โผล่มาเลย
เรื่องแรกที่ฉันทำตอนออกจากโรงพยาบาลคือโทร หาติณณา
ค่อยยังชั่วที่ครั้งนี้หล่อนรับสายแล้ว หลังจากฟัง สถานการณ์ของฉันแล้ว ก็รีบร้อนเรียกรถมาที่โรง พยาบาล ช่วยเก็บของอย่างกังวลใจ แล้วพาฉันไปยัง บ้านพักเล็กๆขนาด 40 ตารางเมตรของเธอ
เข้าประตูไป ฉันที่มีนิสัยชอบย้ายเสื้อผ้าบนโซฟาไป ไว้อีกที่หนึ่ง เสร็จแล้วนั่งลง
ติณณาย้ายม้านั่งเล็กๆ มานั่งข้างๆฉัน จุดบุหรี่ให้ ตัวเองแล้วสูบ สูดลมหายใจลึกๆ2ครั้ง ก่อนถาม“พูดมา เถอะ เกิดอะไรขึ้น?
แม้ว่าเธอจะถามฉันแต่สีหน้าบนหน้าก็แปลว่ามอง ออกหมดทุกอย่างแล้ว
ติณณาสูบบุหรี่ไปพลาง ฟังไปพลาง รอจนฉันพูด จนจบแล้วขยี้ก้นบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ข้างๆ โบกมือไป มา“เธอไม่ใช่กระต่ายน้อยแสนซื่ออีกต่อไปแล้ว”
“อะไรนะคะ?”
เดิมทีฉันคิดว่าติณณาจะด่าฉัน
เธอชมเชยฉัน ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไรดีไปชั่วขณะ
ติณณาเหยียดตัวตรง พูดด้วยน้ำเสียงของคนมาก ประสบการณ์”เธอนี่นะ อย่าเพิ่งมอบทุกอย่างให้ดนนัย เขียว ต้องหลอกให้ตายใจก่อนถึงค่อยจัดการ ผู้ชายน่ะ ถ้าตัวไปใจก็หมดไปด้วย”
ความหมายของเธอชัดเจน คือให้ฉันอยู่กวนใจดนุ นัยต่อไป
แต่ทว่าสามคืนก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าฉันจะเมาแต่ก็ไม่ สามารถลืมความเจ็บปวดนั้นได้”ช่างมันเถอะค่ะ ฉันกลัว มากจริงๆนะ เขาเป็นสัตว์ร้าย!”
“ช่างมันอะไรล่ะ”ติณณาเข้ามาใกล้ บั้นท้ายนั้นนั่งบน กองเสื้อผ้า มือโอบคอฉัน”กี่ปีแล้วล่ะ ที่เธอเฝ้าพูดถึง เขาทุกวัน?ก่อนหน้านี้ยังตัดข่าวที่เกี่ยวกับเขาออกมา จากหนังสือพิมพ์เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เนื้อเข้าปากแล้ว เธอ จะช่างมันจริงเหรอ?”
ตอนเธอพูด ฉันอดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ
ใช่แล้วล่ะ ตัวฉันก่อนหน้านี้ เฝ้าคิดถึงไม่เพียงแต่ ขอให้ได้พบกับดนุนัยอีกสักครั้ง และได้แต่งงานกับเขา หรอกหรือ?
“ฉันจะยืนอยู่ข้างหลังเธอ เหมือนเงาที่ไล่ตามยาม ละเมอ…”
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น
มันคือโทรศัพท์ของฉันเอง
เพลงนี้ฉันใช้มานานแล้ว จดจำได้ดีถึงช่วงเวลาที่ได้ พบกันครั้งแรก ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมา
ดนุนัยและฉัน น่าจะเป็นเพียงแค่แสงสว่างสั้นๆ รู้ ดีว่าไม่มีตอนจบ ฉันกลับยังพยายามสุดชีวิต อยาก เปลี่ยนให้ตัวเองดียิ่งขึ้น เข้มแข็งยิ่งขึ้น หวังว่าวันหนึ่ง จะสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา
จับมือเขา จากนั้นแนะนำตัวเองอย่างมั่นใจ
ขณะที่ฉันล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า พอมอง เห็นหมายเลขคุ้นตาที่หน้าจอ ก็ตกใจจนเกือบโยน โทรศัพท์ทิ้ง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ