ฝืนชะตา:ขายาเกิดใหม่

ตอนที่ 10 อับอายขายหน้าไปหมด



ตอนที่ 10 อับอายขายหน้าไปหมด

คนที่หยุดนางไว้ แน่นอนว่าคืออ๋องชิงผิงหินยี่ฉี สามี ของนางในตอนนี้

จางยวี่โหรวรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องมาหยุดนาง และนางก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดในใจของตัวเองถึงมี สัญชาตญาณเช่นนี้

นางแกล้งร้องไห้อย่างเจ็บปวดในอ้อมแขนของเขา ท่าทางเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เพราะในเรื่อง นี้นางนั้นเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วจะมีใครใจแข็งโทษนาง ได้ลงกัน?

ในขณะนั้น ไม่รู้ว่าเป่ยจื่อห้าวมีความกล้ามาจากไหน จู่ๆก็วิ่งเข้ามาข้างหน้าอย่างกะทันหัน และฉุดตัวนาง อย่างรุนแรงจนนางเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา

หากเป็นวันปกติ เป่ยจื่อห้าวคงไม่มีวันมีความกล้ามา ต่อต้านหันยี่ฉีอย่างแน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแย่งคน มาจากในมือของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว

เดิมทีแล้วเขาเป็นองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน และยิ่งไม่มีอำนาจสนับสนุนใดๆ จางยวี่โหร่วจึงเป็น ความหวังในการแย่งชิงบัลลังก์ของเขา หากว่าไม่มีนาง ความปรารถนาและกลอุบายเหล่านั้นในใจของเขาก็คง ถูกพังทลายตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม

อีกทั้งเรื่องแบบนี้นั้นเขาเป็นฝ่ายมีเหตุผล ดังนั้นเขาต้องจับตรงจุดนี้ไว้ให้ได้ แม้ตายก็ไม่ปล่อยมือ

ปฏิกิริยาตอบกลับแรกของจางยวี่โหร่วหลังจากที่ถูก เป่ยจื่อห้าวดึงเข้าไปไว้ในอ้อมแขนนั้นคือต้องการต่อสู้ ดิ้นรน แต่เขากลับจับมือนางแน่น และไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ ยอมปล่อย

“ยวี่โหร่ว เหตุใดเจ้าถึงทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ เรื่องนี้ พูดได้แค่ว่าฟ้าลิขิตคน แต่ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้านั้น เป็นของจริง จะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องอะไรก็ตาม ถึงแม้…ตอนนี้เจ้าจะไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว ข้าก็จะไม่สนใจ แน่นอน นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”

เขาหลงรักเช่นนี้ ใครก็ตามที่เห็นภาพนี้ก็ต้องอารมณ์ อ่อนไหวไปด้วย

หากไม่ใช่เพราะว่าชาติก่อนนางรู้ใบหน้าที่น่าเกลียด ของเขาแล้ว และรู้ว่าเขานั้นเป็นคนปากหวานราบกับคม ดาบราดน้ำผึ้งเสแสร้งจอมปลอมที่สุด คิดว่านางจะต้อง เชื่อในตัวเขาโดยไม่หันหลังกลับและซาบซึ้งใจอย่างไม่ ลืมหูลืมตา

นางยังจำได้ว่าหลังจากที่เขาขึ้นครองราชย์บัลลังก์ ก็เริ่มค้นหาหญิงสาวทั่วทุกทีเพื่อเติมเต็มตำหนักนาง สนมหลวง หนึ่งในนั้นมีนางสนมคนหนึ่งที่ได้รับความชื่น ชอบเป็นอย่างมาก แค่เพียงเพราะว่านางหาเข็มขัดของ องครักษ์เส้นหนึ่งเจอในวัง เขาก็รับสั่งให้นำตัวนางสนม คนนั้นไปตัดหัวและใช้ข้ออ้างนี้ยึดทรัพย์สินทั้งตระกูล ของนาง
ต่อมาถึงรู้ว่า เข็มขัดเส้นนั้นเป็นแค่แผนการใส่ร้าย ของนางสนมเอกอีกคนหนึ่งอิจฉาที่นางได้รับความ โปรดปรานดังนั้นจึงคิดแผนการชั่วร้ายเช่นนี้ขึ้นมา

แต่ทว่าเขากลับไม่ให้โอกาสคนที่นอนข้างกายและรัก ใคร่อย่างมากในอดีตได้พูดแก้ตัวสักประโยคเดียว และ ลากตัวไปตัดหัวประจานต่อหน้าสาธารณชน ถึงขนาด ไม่สนใจว่านางตั้งครรภ์อยู่หนึ่งเดือนแล้วและมีอยู่สอง ชีวิต

ในตอนนี้เมื่อได้ยินเป่ยจื่อห้าวเอ่ยปากพูดถึงความรัก ที่ลึกซึ้งออกมา และยังพูดอีกว่าไม่สนใจเรื่องที่นางไม่ บริสุทธิ์ จางยวี่โหร่วจึงรู้สึกแต่ความสะอิดสะเอียนและ อยากจะเปิดเผยหน้ากากอันจอมปลอมของเขาอย่าง มาก

ตอนนี้เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายและได้รับอำนาจจาก ตระกูลจาง แม้แต่ศักดิ์ศรีเข้าก็ไม่ต้องการแล้วใช่ไหม

ในใจเกลียดเขาเข้ากระดูก จางยวี่โหร่วก็ทำได้เพียง แค่ซ่อนความโกรธไว้ในใจเท่านั้นและแสดงท่าทาง ซาบซึ้งอย่างลึกซึ้งแต่จนปัญญาออกมา

“องค์ชายสาม ตอนนี้ข้าได้คำนับเทวดาฟ้าดินแต่งงาน กับท่านอ๋องชิงผิงและเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว! นี่เป็น ลิขิตของฟ้า ข้ากับท่านถูกกำหนดให้พลาดจากกัน ขอร้องท่านไปหาผู้หญิงที่ดีกว่าข้าและลืมข้าไปเถอะ! ”

เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมปล่อย นางจึงยื่นมือออกมาใช้แรงบิดมือของเขาโดนตรง ใช้แรงทั้งหมดที่มี เล็บอัน แหลมคมแทงเข้าไปในเนื้อของเขาอย่างลึก จนสุดท้าย เป่ยจื่อห้าวจึงยอมปล่อยด้วยความเจ็บปวดและคิดไม่ ถึงว่านางจะลงมืออย่างรุนแรงขนาดนี้

หันยี่ฉีดึงนางมาข้างกายตัวเองอีกครั้ง และพูดอย่าง เยือกเย็นว่า “ข้าไม่สนว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ระหว่างพวกท่าน แต่ข้าหวังว่าองค์ชายสามจะสามารถ ยอมรับความจริงได้ จางยวี่โหร่วเป็นผู้หญิงของข้าแล้ว และเป็นพระชายาตำหนักชิงผิง หากว่าในภายภาคหน้า องค์ชายสามกล้าลงไม้ลงมือกับพระชายาของข้าอีก ก็อย่าหาว่าข้าเสียมารยาท ”

ในฐานะของเขา แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องให้เกียรติเขา ยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน เขา ไม่จําเป็นต้องสนใจเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เป่ยจื่อห้าวโกรธจนควัน ออกหูจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก

เมื่อลี่เฟยเห็นว่าลูกชายของตัวเองได้รับความไม่เป็น ธรรม นิ้วมือก็กำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น จางยวี่โหร่ว เจ้า บังอาจทำให้ลูกชายของข้าต้องอับอายเช่นนี้ ไม่ว่าจะ เป็นเรื่องนี้หรือว่าเรื่องโกหก บัญชีแค้นนี้ ข้าจะต้องคิด ไว้บนหัวของเจ้า

อ๋องชิงผิงพวกเขาไม่สามารถไปทำให้ไม่พอใจได้ แต่ จางยวี่โหร่วพวกเขาสามารถกัดไม่ปล่อยได้
ดวงตาของลี่เฟยกรอกตาไปมา จากนั้นเดินไปด้าน ข้างฮ่องเต้และพูดโน้มน้าวว่า “การแต่งงานนั้นเป็นเรื่อง ใหญ่แต่กลับเล่นเป็นเด็ก และการแต่งงานในครั้งนี้ฝ่า บาทรับสั่งพระราชทานการแต่งงานนี้ด้วยตนเอง เกิด เรื่องแบบนี้ขึ้นแต่กลับเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ ในเมื่อยจื่อ ห้าวกับยโหร่วต่างฝ่ายก็รักกันและยจื่อห้าวก็ไม่ได้ถือ สาที่ยวี่โหร่วนั้นไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว เช่นนั้นเหตุใดฝ่าบาท จึงไม่ช่วยให้พวกเขาสมหวังล่ะเพคะ ในส่วนของคุณหนู หลินก็สามารถจัดงานแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผิงใหม่ได้ พวกท่านไม่ได้เสียเปรียบอะไร”

ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลินจือยังจะกล้าพูด อะไรได้อีก คุกเข่าลงกับพื้นอย่างสั่นเทา แน่นอนว่านาง ไม่ต้องการถูกแลกกลับไป แต่องค์ชายสามกับลี่เฟย นางก็ไม่กล้าทำให้ไม่พอใจ

คำพูดของลี่เฟยถือว่าพูดได้ตรงจุด จางยวี่โหร่วกัด ริมฝีปากเงียบ ขิงยังเผ็ดแก่จริงๆ เหตุใดในตอนแรก นางจึงมองไม่เห็นและกลับคิดว่าลี่เฟยเป็นคนที่อ่อน โยนใจดี เคารพและให้เกียรตินางตลอดเวลาที่ผ่านมา

ชาติก่อน ในเหตุการณ์ “เปลี่ยนแปลงพระราชวัง ที่โด่งดังครั้งสุดท้ายนั้น เป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซินนั้น ยืนยันว่านางวางยาพิษลอบทำร้ายไทเฮาและถอดยศ ตำแหน่งฮองเฮาของนาง ใส่ร้ายจนนางเข้าคุก

เนื่องจากพวกเขาวางแผนการอย่างละเอียดรอบคอบ ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว “หลักฐาน ” ที่ชัดเจน แม้แต่ตระกูล จางก็ปกป้องนางไว้ไม่ได้
ต่อมานางถึงรู้ว่าความคิดนี้เป็นของไทเฮา หรือก็คือลี่ เฟยในตอนนี้เป็นคนคิด เดิมทีแล้วนางคิดว่าเป่ยจื่อห้าว จิตใจโหดเหี้ยม อย่างน้อยลี่เฟยก็ยังดี ถ้าหากไม่ใช่ เพราะจ้าวซินซินคาดการณ์อย่างมั่นใจว่าสุดท้ายนาง สามารถรู้ได้ จะตายและบอกทุกอย่างกับนาง นางจะสาม อย่างไรว่าจิตใจของแม่ลูกคู่นี้ดำเข้าไปจนถึงกระดูก แล้ว?

เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินลี่เฟยพูดเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็ เริ่มลังเล

เดิมทีแล้วคิดว่าจะปล่อยเรื่องทุกอย่างไป เหตุใด ลูกชายของตัวเองจึงหลงรักเช่นนั้น และยังไม่รังเกียจที่ จางยวี่โหร่วไม่บริสุทธิ์และต้องการจะอยู่กับนาง ถึงแม้ จะไม่ดีที่ทำให้อ๋องชิงผิงไม่พอใจ แต่ถ้าหากแลกเปลี่ยน คนกลับ ทุกอย่างกลับไปในทางที่ถูกต้อง เช่นนั้นเขาก็ ไม่ต้องเสียเปรียบ อย่างน้อยหลินจือก็ยังบริสุทธิ์

คิดไตร่ตรองเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เลื่อนสายตาไป มองที่หันยี่ฉี

“อ๋องชิงผิง ตอนแรกคนที่ข้ารับสั่งให้แต่งงานกับท่าน ก็คือคุณหนูหลิน เดิมทีแล้วเขาควรจะเป็นภรรยาที่ท่าน แต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการ ไม่อย่างนั้น…

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกห้นยี่ฉีขัดจังหวะ

“ข้ารู้แค่ว่า เมื่อวานจางยวี่โหร่วได้คับนับเทวดาฟ้าดิน กับข้าและเข้าเรือนหอด้วยกันแล้ว นางถึงจะเป็นภรรยาของข้า ไม่มีใครสามารถมาแย่งภรรยาของข้าไปได้!”

สายตามองตรงไปที่หนานหมู่และกล้าขัดแย้งกับ ฮ่องเต้ คงมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น

ในใจของจางยวี่โหร่วมีความกระวนกระวายใจเล็ก น้อย กลัวว่าฮ่องเต้จะฟังคำยุยงของลี่เฟยและให้นาง กลับไปกับองค์ชายสามจริงๆ หันยี่ฉีนั้นไม่ได้มีความ จำเป็นที่จะไปต่อต้านกับฮ่องเต้เพื่อนางเลยไม่ใช่เหรอ? แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขาในตอนนี้ นางกลับรู้สึกว่าใน ใจถูกค้อนทุบอย่างหนัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ